ฝึกลูกพูด

12 วิธี สำหรับพ่อแม่สอนลูก “ฝึกพูด”

Alternative Textaccount_circle
event
ฝึกลูกพูด
ฝึกลูกพูด

สอนลูกพูด

10. นิทานแสนสนุก

นิทานที่อ่านง่าย และสนุกก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับครอบครัวที่กำลังมีลูกวัยซน แต่นิทานแต่ละเล่มนั้น ก่อนที่จะซื้อ พ่อแม่ควรคำนึงก่อนว่า ลูกอายุเท่าไหร่ วัยของเขาสนใจภาพมากน้อยแค่ไหน เพราะถ้ายังเล็กมาก พ่อแม่ก็ควรซื้อนิทานที่เน้นภาพ เน้นสี ไม่ใช่เนื้อหา ซึ่งนิทานนี้เองที่จะกระตุ้นพัฒนาการของเขาได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสร้างนิสัยรักการอ่านให้ลูกอีกด้วย

Must read : รวมนิทาน เรื่องสั้น รูปแบบ MP3 สำหรับเด็ก
Must read : เหตุผลที่ควรเล่านิทานและเทคนิคการเล่านิทานให้ลูกน้อยเพลิดเพลินและมีความสุข

11. เลี่ยงทีวีเป็นเพื่อน

ข้อห้ามเด็ดขาดสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กทั้งหลายนั้นคือ ห้ามให้ทีวีอยู่เป็นเพื่อนลูก เพราะที่ผ่านมา หลายครอบครัวต้องเจอปัญหาลูกไม่ยอมพูดเพราะดูแต่ทีวี

ในเรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า สาเหตุเป็นเพราะการที่เด็กดูโทรทัศน์นั้นเป็นการสื่อสารเพียงช่องทางเดียว เด็กได้แต่ดูและฟัง ไม่ได้พูดตอบโต้ ดังนั้นพ่อแม่ควรให้ลูกออกห่างจากทีวี และอยู่เป็นเพื่อนลูก ชวนเขาคุยจะดีกว่า

Must read : ภัยจากทีวี อย่าปล่อยให้ลูกน้อยเป็นเด็กสมาธิสั้น และออทิสติก

12. หยุด…เพื่อสอนลูก

ท้ายสุดนี้ พ่อแม่หลายคนอาจมองข้ามสิ่งสำคัญไปอีกหนึ่งประการนั่นคือ ทุกครั้งที่พาลูกไปเที่ยวเปิดหูเปิดตานอกบ้าน ลูกๆจะตื่นตาตื่นใจกับสิ่งแปลกใหม่รอบตัว แต่พ่อแม่กลับไม่ใช้โอกาสนั้นสอนเขาว่า มันคืออะไร เรียกว่าอะไร

ดังนั้น หากพาลูกไปไหนก็ตาม หยุดเดิน หรือชลอความเร็วรถสักนิด เพื่อบอกเขาว่า สิ่งที่เขาสงสัยนั้นคืออะไร เรียกว่าอะไร แต่ที่สุดแล้ว ก่อนที่จะหยุดเดิน หรือหยุดรถก็ควรมองซ้าย มองขวาให้ดีเสียก่อนเพื่อความปลอดภัย

√ สิ่งที่คุณแม่ควรทำ เพิ่มเติม

เด็ก บางคนสามารถเรียนรู้ภาษาได้เร็ว และพูดได้ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ แต่ก็มีเด็กหลายคนที่ยังไม่ยอมพูดจนกระทั่ง 2 ขวบ คุณแม่พยายามหมั่นสังเกต แต่ไม่ควรกังวลมากเกินไปค่ะ เพราะแม้แต่ อัลเบิร์ต ไอสไตน์ ยังเริ่มพูดตอนอายุ 3 ขวบเลยค่ะ

คุณแม่ควรฝึกให้ลูกเรียนภาษาใหม่ เพิ่มอย่างน้อย 1 ภาษา ก่อนอายุ 3 ขวบนะคะ และเรียนต่อไปจนโต โดยภาษาที่สองนั้น เด็กควรได้เรียนรู้จากพ่อแม่ ครูและเพื่อนหรือคนที่เด็กเจอทุกวัน แต่ไม่ควรเปลี่ยนภาษาเรื่อยๆ เพราะเด็กจะสับสนและไม่เกิดผลค่ะ

เวลาหัดภาษาให้ลูก คุณแม่ควรเลือกคำใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นและยากกว่าเดิม เพื่อให้ลูกได้สนุกและเหมาะสมกับสติปัญญาของเขา อย่างเช่น แทนที่จะเลือกคำว่า ‘แมว’ หรือ ‘หมา’ ลองเปลี่ยนมาใช้คำที่ยากขึ้น เช่น ‘crocodile’ หรือ ‘จระเข้’ เป็นต้นค่ะ

การที่พ่อแม่พูดภาษาแบบเด็ก หรือเลียนเสียงเด็กเวลาพูดกับลูก เด็กจะสามารถเชื่อมโยงคำกับวัตถุได้ง่ายขึ้น นิตยสารไทม์ได้เปรียบเทียบเสียงสูงๆ ต่ำๆ ของ ‘ภาษาแบบเด็ก’ ว่าเหมือนกับอาหารอันโอชะที่พ่อแม่นกหามาป้อนลูกนก เพราะถ้อยคำและสำเนียงแบบเด็กนั้นรื่นรมย์และไพเราะนักค่ะ หรือพูดง่ายๆ การพูดแบบเด็กจึงเปรียบเสมือนการใช้ภาษาแห่งรักนั่นเองค่ะ

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!


ขอบคุณข้อมูล : เรียบเรียงจาก เดอะซัน www.manager.co.th

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up