Page 500 – AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

เมื่อลูกเริ่มโต คุณ (อาจ) จะรักลูกไม่เท่ากัน

Kid safety พ่อแม่หรือคุณครูสอนเพศศึกษาแก่เด็กอย่างไรจึงเหมาะสม?

เด็กเล็กสามารถเรียนรู้จากรูปภาพลายเส้นได้ว่า เด็กตัวเล็กๆนั้นมีอวัยวะภายนอกต่างๆอะไรบ้าง เช่นหัว แขน มือ นิ้ว ขา เท้า นม ก้น อวัยวะเพศ (ที่ใช้เรียกกันง่ายๆ ว่าจิ๋ม หรือ จุ๊ดจู๋) แล้วอธิบายต่อให้รู้ว่ามีหน้าที่อย่างไร เช่น จิ๋มมีไว้ฉี่ และ เวลาแม่ตั้งท้อง มีเด็กในท้อง เด็กโตเต็มที่แล้วจะออกมาทางจิ๋ม ถ้าออกยากหมอก็ช่วยผ่าตัดให้ออกมาทางหน้าท้อง คุณแม่อาจจะใช้รูปหญิงตั้งท้อง มีเด็กอยู่ข้างในมาช่วยอธิบายก็จะเพิ่มความสนุกเข้าไปอีก แต่ละขั้นตอนมีรูปภาพลายเส้นช่วย เล่าเรื่องประกอบน้ำเสียงให้สนุกสนานด้วยนะครับ ไม่ต้องวันเดียวจบก็ได้ ขึ้นกับสมาธิของเด็ก แต่โดยทั่วไปถ้าเล่าสนุกเด็กก็จะชอบติดตามเพราะเนื้อเรื่องเป็นเรื่องร่างกายของเขาเองที่เขาอยากรู้ครับ

ถึงตอนนี้ก็เริ่มอธิบายความแตกต่างของหญิงกับชาย ให้ดูภาพลายเส้นของเพศตรงข้าม โดยดูเปรียบเทียบกัน เริ่มตั้งแต่ผมสั้น ผมยาว จนถึงผู้ชายมีจู๋ ใช้ฉี่ได้ เหมือนของผู้หญิงที่มีจิ๋ม ลูกเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย คุณพ่อ คุณแม่ใครเป็นหญิงใครเป็นชาย

ต่อจากนั้นก็อธิบายต่อเรื่องอวัยวะส่วนตัว เช่น ก้น นม จิ๋ม หรือจู๋ก็ตามแต่ เป็นอวัยวะส่วนตัว ก่อนสามขวบ คุณพ่อคุณแม่ต้องจัดให้เด็กแต่งตัวอย่างเหมาะสมกับเพศ และสภาพแวดล้อม ไม่ให้เด็กชายแต่งแบบหญิง หรือไม่ให้หญิงไปแต่งแบบชาย รวมทั้งไม่สนับสนุนการแต่งแบบโป๊ๆ แล้วชมเชยกันใหญ่ว่าสวย หรือเซ็กซี่ ซึ่งเป็นการปลูกฝังนิสัยแต่เด็ก เวลาดูแลอาบน้ำให้ก็อย่าลืมสอนให้เด็กหัดทำความสะอาดอวัยวะในร่มผ้าไปด้วย ผู้ดูแลเด็กต้องไม่แกล้งเด็กโดยการจับอวัยวะเพศ ถอดกางเกงให้เห็นก้นด้วยความสนุกสนาน

เด็กสามขวบขึ้นไปต้องถูกสอนให้ทำความสะอาดเองได้ รู้จักปกปิดอวัยวะส่วนตัว ไม่เล่นเปิดโชว์กัน เวลาอาบน้ำออกมารู้จักห่มผ้า ไม่วิ่งโทงโทง หากใครมาจับต้อง สัมผัสอวัยวะส่วนตัวต้องปัดมือออก อย่าให้จับ และต้องบอกพ่อแม่เสมอ ไม่สอนให้เด็กไปไล่กอดไล่ปล้ำ ไล่หอมแก้ม เปิดกระโปรง เปิดกางเกง เพื่อนทั้งเพศเดียวกันและเพศตรงข้าม เด็กต้องเรียนรู้ความรักนวลสงวนอวัยวะส่วนตัวแล้วต้องเรียนรู้การเคารพเพศตรงข้าม ไม่เห็นการรังแกทางเพศเป็นเรื่องสนุกสนานด้วย

วัยนี้ผู้ปกครองต้องไม่ปล่อยให้คนที่เด็กไม่คุ้นเคยมาสัมผัสเด็กอย่างใกล้ชิด เช่น หอมแก้ม เปลี่ยนเสื้อผ้า พาไปอาบน้ำ เป็นต้น ผู้ปกครองป้องกันไม่ให้เด็กร่วมรับรู้พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้ใหญ่หรือพฤติกรรมที่น่ากลัวสำหรับเด็ก เช่นการทะเลาะเบาะแว้ง การใช้ความรุนแรง พฤติกรรมทางเพศ เป็นต้น และผู้ปกครองต้องเป็นตัวอย่างที่เหมาะสมทางเพศ เช่น แต่งตัวเรียบร้อย ไม่แสดงความประพฤติทางเพศที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าเด็ก

เมื่อเข้าสู่ระดับประถมห้า ประถมหกก็คงต้องเริ่มสอนการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย อารมณ์จากฮอร์โมนเพศ การสืบพันธ์ุ ผลเสียจากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัย ความเคารพซึ่งกันและกันระหว่างเพศหญิงเพศชาย การแสดงออกที่เหมาะสมกับเพื่อนเพศตรงข้าม ภัยที่มีอยู่จริงในสังคม และทักษะการหลีกเลี่ยงภัยเหล่านี้

ข่าวพบศพทารกในครรภ์ 2,002 ศพ ที่วัดไผ่เงิน ยังคงอยุ่ในความสุดสังเวชใจ คงสะท้อนถึงความบกพร่องหลายๆ อย่างในสังคมบ้านเรา และที่จะปฏิเสธมิได้ก็คือ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องให้ความสำคัญเรื่องการให้ความรู้เพศศึกษา รู้เท่าทันเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ที่เหมาะสม คือมิได้ ยั่วยุหรือยุยงให้เด็กมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนแต่สร้างค่านิยมให้เด็ก (รวมถึงผู้ใหญ่) ให้มีความอดกลั้น ตระหนักถึงปัญหาที่จะตามมา มีความรับผิดชอบ และรู้จักป้องกันตัวเองหากมีเพศสัมพันธ์

 

เรื่อง : รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์

ภาพ : shutterstock

จากคอลัมน์ : Kid Safety ฉบับเดือนมิถุนายน 2554

    อาหารเสริม

    วิตามิน – อาหารเสริม ของดีที่เพิ่มอันตราย แก่ลูกน้อย

    เมื่อลูกน้อยผ่านพ้นวัยขวบปีแรก จะมีพัฒนาการต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งในเรื่องอาหารการกินของลูกก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย เพื่อให้เหมาะกับร่างกายของเขา โดยอาหารหลักที่ลูกควรจะได้รับก็ต้องให้ครบทั้ง 3 มื้อ และครบทั้ง 5หมู่ ส่วนนมที่เคยคุ้นก็จะแปรสภาพเป็นเพียง อาหารเสริม 

    ซึ่ง เด็กๆ บางคน ก็เจริญอาหาร กินได้กินดี ไม่มีปัญหา แต่ก้ยังมีพ่อแม่หลายคน ที่ยังคงกังวลใจกับพฤติกรรมการกินของลูกรักที่กินน้อยบ้าง ไม่กินบ้าง หรือเลือกกินบ้าง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายท่านมองหาตัวช่วยจำพวก ‘วิตามิน- อาหารเสริม’ ด้วยหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ลูกรักเจริญอาหารมากขึ้น และทำให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นกับร่างกายอย่างครบถ้วน แต่คุณพ่อคุณแม่จะแน่ใจได้อย่างไรว่า วิตามิน หรืออาหารเสริมที่ป้อนให้ลูกนั้นคือ สิ่งที่ร่างกายเขาต้องการจริงๆ

    วิตามิน – อาหารเสริม คืออะไร

    ให้ลูกกินอาหารเสริม
    ให้ลูกกินอาหารเสริม

    ก่อนอื่นคุณพ่อคุณแม่ต้งรู้ก่อนว่า “วิตามิน – อาหารเสริม” ไม่ใช่ยา แต่ วิตามิน คือสารอาหารและสารอินทรีย์ที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย แม้ว่าจะทำหน้าที่ช่วยเสริมให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบการทำงานร่างกาย เพิ่มภูมิป้องกัน ลดไขมันความดันต่างๆ ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญ ได้บอกถึง ความหมายของ วิตามิน กับเรื่องข้อ“จริง-เท็จ” ไว้ดังนี้

    “วิตามิน จากธรรมชาติ คือ สารอาหารที่ได้จากอาหาร ผัก ผลไม้ ซึ่งจะไม่มีอันตรายใด ๆ ไม่มีคำว่าเกิน เพราะร่างกายสามารถขับออกได้ตามธรามชาติ แต่ถ้าเราได้รับวิตามินจากอาหารเสริม ไม่ว่าจะเข้าสู่ร่างกายทางใด กินหรือฉีด ถ้ามากเกินไป มันอาจจะอันตรายถึงชีวิตได้ทั้งนั้นสง่า ดามาพงษ์ ที่ปรึกษากรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ชี้แจงรายละเอียดในประเด็นนี้ ก่อนอธิบายถึงสาเหตุที่มาของข่าวในโลกออนไลน์ว่าถ้ากินวิตามินมากๆ อาจทำให้ตายเร็ว

    “เหตุผลที่มีข่าวการเข้าใจผิดอย่างนี้ออกมา ก็เพราะคนปัจจุบันนี้ ไม่ได้รับวิตามินจากธรรมชาติ แต่ชอบนิยมซื้อวิตามินในรูปของอาหารเสริมมากิน พอกินแล้วก็กินในจำนวนที่มากจนเกินไป มันก็มีอันตราย”

    “ทั้งนี้อยากให้เข้าใจว่าการรับประทานวิตามินที่ถูกต้อง คือต้องอยู่ภายใต้การสั่งการยินยอมจากแพทย์ คุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการทานเอง หรือให้ลูกทาน นั้นไม่สามารถรู้เองได้ว่าต้องได้รับวิตามิน หรืออาหารเสริม อื่นๆ หรือไม่ จำเป็นต้องไปตรวจ ไม่ใช่ว่าเราสังเกตเห็นตัวเองเหนื่อยง่าย เพลียง่าย หรือหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ลูกรักเจริญอาหารมากขึ้น จึงต้องเติมวิตามินเสริมให้ร่างกาย แต่ความจริงคือ ไม่ใช่ มันผิด คุณต้องให้หมอเจาะเลือดตรวจก่อนถึงจะทราบได้ว่าลูก หรือตัวคุณพ่อคุณแม่เองนั้น ขาดหรือไม่ขาดอะไรอย่างไรบ้าง

    ซึ่งนักโภชนาการ ได้ส่งเสริมให้รับวิตามินจากอาหารธรรมชาติที่ได้จากผักและผลไม้ เพราะแค่เรารับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ใน 1 มื้อ ใน 1 วัน ทุกมื้ออาหารคุณต้องมีผัก แล้วอาหารว่างก็ต้องมีผลไม้ เพียงเท่านี้ลูกของคุณก็จะได้วิตามินครบถ้วนแน่นอน เพราะวิตามินมันจะอยู่ในผักและผลไม้มากที่สุด ลูกก็จะได้วิตามินอย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายแล้ว ดังนั้น ถ้ารับประทานอย่างนี้ต่อเนื่อง ก็ไม่จำเป็นเลยที่คุณพ่อคุณแม่ต้องหา วิตามิน หรืออาหารเสริมให้กับลูกน้อย

    ยกเว้นผู้ที่มีความบกพร่องในการรับสารอาหารหรือผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น

    1.หญิงตั้งครรภ์ เพราะหญิงตั้งครรภ์ต้องการวิตามินบางตัว เช่น โฟเลท ไอโอดีน ธาตุเหล็ก สูงกว่าปกติ สูงกว่าคนธรรมดา ซึ่งแน่นอนว่าอาหารจากธรรมชาตินั้นไม่พอต่อร่างกาย ก็เลยต้องรับจากอาหารเสริมเข้าไป

    2.ผู้สูงอายุ ผู้มีภาวะขาดสารอาหารหรือรับประทานสารอาหารไม่เพียงพอ เพราะระบบการย่อยและดูดซึมไม่ดี

    3.เด็กเล็ก ที่ไม่เจริญอาหาร หรือได้รีบน้ำนมคุณแม่ไม่เพียงพอพอ อันนี้คุณหมดเขาก็จะสั่งวิตามินเสริมให้ทาน ก็ต้องอยู่ในการควบคุมการดูแลของแพทย์ ไปซื้อมากินเองสุมสี่สุมห้า ไม่ได้

    ทั้งนี้นอกจากวิตามินในรูปแบบอาหารเสริม หากรับประทานในปริมาณมากๆ ติดต่อกันจะเป็นอันตรายเสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิตแล้ว จากคำโฆษณาชวนเชื่อในเรื่องการรับประทานวิตามินแล้วจะสวยงามตามราคาที่สูงริบยังไม่เป็นความจริงอีกด้วย

    อ่านต่อ >> “ความจำเป็นของวิตามินเสริมในเด็ก” คลิกหน้า 2

    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

     

      เสื้อผ้าเด็กแบรนด์ Janie&Jack, Gymboree, Pumpkin Patch, CK และอื่นๆ

      Le Enfant จำหน่ายปลีก/ส่ง เสื้อผ้าเด็กแบรนด์ Janie&Jack, Gymboree, Pumpkin Patch, CK และอื่นๆ เสื้อผ้าเด็กส่งออกอเมริกาและยุโรป ตัดเย็บปราณีต คุณภาพส่งออก เนื้อผ้าดีเยี่ยม ดีไซน์เก๋ไก๋ ในราคาสบายกระเป๋าคุณแม่คะ ติดต่อสอบถามได้เลยคะ
      Inbox: www.facebook.com/messages/leenfant
      Line: LeEnfant

        Tags

        เรียลพาเรนต์ส เดอะซีรีส์ 1 ตอน ลูกฉันเป็นทารกกลุ่มอาการเอ็ดเวิร์ด

        เรียลพาเรนต์ส เดอะซีรีส์ 1 / เรื่องจริงของแม่ที่หมออยากแบ่งปัน

        “ลูกฉันเป็นทารกกลุ่มอาการเอ็ดเวิร์ด!!”

         

        ฉันชื่อรวีวรรณ (ชื่อสมมุติ) ตอนนี้อายุ 33 ปี มีลูกชายแล้วหนึ่งคน ฉันเคยแต่งงานมาก่อน สามีเป็นลูกชายคนเล็กในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 4 คน แต่แรกชีวิตครอบครัวก็มีความสุขดี สามีมีอาชีพเป็นเกษตรกร ขยันขันแข็งมาก สร้างฐานะให้พ่อแม่ จนซื้อที่นาเพิ่มได้เป็นร้อยไร่ เมื่อมีลูก สามีเริ่มเก็บเงินที่เคยแบ่งให้พ่อแม่พี่น้องไว้ให้ลูก เหตุการณ์มาเกิดขึ้นเมื่อพ่อแม่สามีแบ่งมรดกให้ลูกๆ และให้สามีของฉันมากกว่าใคร ต่อจากนั้นการยุแยงตะแคงรั่วก็เกิดขึ้น พี่น้องของสามีใส่ความว่าฉันเป็นคนขี้เกียจ ชอบแต่เรื่องสนุกสนาน บอกพ่อแม่สามีว่า ฉันยุยงสามี ไม่ให้ช่วยเหลือพ่อแม่และพี่ๆ เหมือนดังแต่ก่อน

        น้ำหยดลงหินทีละหยดหินยังกร่อน นับประสาอะไรกับเสียงที่กรอกหูสามีทุกวัน สามีเริ่มเหินห่างจากฉัน เอาลูกไปนอนบ้านพ่อแม่ เมื่อสืบก็พบว่าพ่อแม่สามีหาแฟนใหม่ให้สามี เมื่อทะเลาะกัน สามีก็หอบลูกไปอยู่บ้านพ่อแม่สามี ไม่กลับมาอยู่กับฉันอีก ฉันทั้งเสียใจ ทั้งเหงา จึงไปอาศัยอยู่กับเพื่อนที่เปิดร้านคาราโอเกะ จึงได้รู้จักยุทธ (ชื่อสมมุติ) เขาอายุอ่อนกว่าฉัน 10 ปี เป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่ที่เปิดฟาร์มเลี้ยงหมูขนาดใหญ่ รู้จักกันไม่นาน ฉันก็ย้ายไปอยู่บ้านของยุทธ พ่อแม่พี่น้องของเขาให้การต้อนรับฉันดีมาก ทุกคนอยากให้ฉันมีลูก เพราะไม่เคยมีเด็กในบ้านมาก่อน ยุทธมีเพื่อนฝูงมาก ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ แต่เขาก็รับผิดชอบงานในฟาร์มดี พอเลิกงาน เขาก็ตั้งวงกับเพื่อนๆ ฉันเองก็ไปนั่งเป็นเพื่อน ชีวิตเต็มไปด้วยความสนุกสนานเฮฮา จนลืมความทุกข์ที่เคยเกิดขึ้นโดยสิ้นเชิง

        ฟาร์มของยุทธและพ่อแม่ ตั้งอยู่ที่เชิงเขา ลมเย็นพัดโกรกตลอด พอตกค่ำ ดวงดาวเริ่มโผล่ขึ้นประดับฟากฟ้าทีละดวง พริบเดียวก็ระยิบระยับงดงาม ฉันเพลิดเพลินกับชีวิตในฟาร์ม กว่าจะรู้ตัวอีกทีลูกก็ดิ้นอยู่ในท้องแล้ว เมื่อรู้ว่ามีลูก ยุทธและครอบครัวดีใจอย่างออกหน้าออกตา รีบพาฉันไปฝากท้องที่โรงพยาบาลที่ว่าดี เมื่อไปถึงหมอตรวจพบว่าฉันท้องได้ 30 สัปดาห์ หรือประมาณ 7 เดือนเศษแล้ว หมอบอกว่าลูกตัวเล็ก น้ำคร่ำน้อย อาจจะเป็นเพราะฉันตัวเล็ก อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจเลือดพบว่าสุขภาพของฉันแข็งแรง เลือดไม่จาง ไม่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ไม่มีเชื้อเอดส์ และเชื้อโรคเลือดบวกซิฟิลิส

        เมื่อฉันถามเรื่องความพิการของเด็ก หมอบอกว่า โดยทั่วไป หมอจะคัดกรองหากลุ่มทารกเด็กดาวน์โดยการเจาะเลือดของแม่ หรือเจาะน้ำคร่ำของแม่ ตอนอายุครรภ์ 4 เดือน ตอนนี้อายุครรภ์ฉันเกินแล้ว คงไม่ได้ตรวจ การตรวจด้วยอัลตร้าซาวนด์ ไม่พบความพิการใหญ่ ๆ เช่น ไม่มีศีรษะ ไม่มีสมอง ทารกบวมน้ำ แต่ไม่สามารถประกันได้ว่าเด็กไม่พิการ ตอนนี้เด็กอายุครรภ์ถึง 7 เดือน อีกสองเดือนก็คลอด คงต้องมาลุ้นกันตอนคลอด หมอแนะนำให้พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ ฉันเองกังวลมากว่าเด็กจะพิการ เพราะฉันไม่รู้ว่าท้อง ฉันทั้งดื่มจัด ทั้งสูบบุหรี่ กว่าจะนอนก็เกือบเช้า แต่ฉันไม่ได้บอกหมอ เพราะกลัวหมอจะว่าให้

        สองสัปดาห์ต่อมา หมอพบว่าเด็กโตช้ามาก น้ำคร่ำมีน้อย หมอจึงปรึกษาหมอสูติเฉพาะทางครรภ์เสี่ยงสูง ที่เรียกว่าเอ็มเอฟเอ็ม (MFM : Maternal –fetal Medicine ) พบว่าทารกในครรภ์มีกระเพาะอาหารเล็กกว่าปกติ ส่วนความพิการอย่างอื่นๆ เห็นไม่ชัดเจน หมอมีความเห็นว่า ทารกอาจจะมีอะไรผิดปกติ การที่ทารกกระเพาะเล็ก กลืนกินน้ำคร่ำได้น้อย ทำให้ปัสสาวะออกน้อย ส่งผลให้น้ำคร่ำซึ่งปกติมีส่วนประกอบของปัสสาวะเด็กมีจำนวนน้อย ฉันรับฟังด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ กระวนกระวาย กลัวลูกพิการ แต่อย่างไรฉันไม่บอกให้สามีรู้ เพราะเขากำลังมีความสุข ฉันไม่อยากให้เขากังวล อีกสองสัปดาห์ต่อมา ฉันเจ็บครรภ์คลอด ในขณะที่อายุครรภ์ 34 สัปดาห์ เมื่อไปถึงโรงพยาบาล หมอตรวจภายใน พบว่าปากมดลูกยังไม่เปิด แต่ทารกหัวใจเต้นช้า แสดงว่าเด็กมีการขาดออกซิเจน หมอให้ฉันรับการผ่าตัดด่วน เมื่อฉันฟื้นจากยาสลบ ฉันถามสามีที่ยืนเฝ้าข้างๆ เตียงว่าลูกเป็นอย่างไรบ้าง สามีเบือนหน้าหนี น้ำใสๆ คลอตา ฉันคิดว่าลูกคงเป็นอะไรสักอย่าง เมื่อถามหมอที่มาเยี่ยม คุณหมอให้พยาบาลพาฉันไปดูลูกที่ห้องไอซียูเด็กอ่อน เมื่อฉันหายเจ็บแผลแล้ว

        ลูกของฉันเป็นลูกสาว น้ำหนักน้อยแค่ 1,500 กรัม หายใจไม่ได้ ต้องใส่ท่อหายใจ ดูเผินๆ ก็เป็นเด็กปกติ เมื่อเข้าไปใกล้ จึงพบว่าลูกสาวไม่ลืมตา เมื่อเอามือเปิดเปลือกตา พบว่าดวงตาเล็ก ขุ่นและบอดสองข้าง เพดานโหว่จนไปถึงลิ้นไก่ นิ้วมือนิ้วเท้าเป็นพังผืดไม่แยกนิ้ว แขนขาโก่งบิด ฉันถึงกับเข่าอ่อนทรุดลงด้วยความเสียใจ สงสารลูก หากลูกรอดชีวิต ในสภาพคนพิการนี้ ลูกจะทุกข์ทรมานแค่ไหน หมอบอกฉันว่าลูกของฉันเป็นทารกกลุ่มอาการเอ็ดเวิร์ด นอกจากอาการภายนอกที่มองเห็น ปอดลูกยังไม่สมบูรณ์ หัวใจรั่วอย่างรุนแรง ฉันถามหมอว่าลูกจะรอดชีวิตไหม?

         

        บันทึกของหมอ

        ทารกกลุ่มอาการเอ็ดเวิร์ดมีโครโมโซมคู่ที่ 18 เกินมา 1 ข้าง (Trisomy 18) พบได้บ่อยรองจากกลุ่มทารกเด็กดาวน์ ไม่ทราบสาเหตุการเกิดที่แท้จริง ปัจจุบันยังไม่มีการคัดกรองภาวะนี้ในมารดาตั้งครรภ์ แต่หากเจาะน้ำคร่ำจะตรวจพบได้ พบมากในมารดาที่อายุมาก โดยพบ 1: 6,000-8,000 ของเด็กเกิดมีชีพ โดยร้อยละ 80 เป็นเพศหญิง เกิดความพิการได้ทุกอวัยวะ เช่น สมองพิการ ปัญญาอ่อน ตาบอด ไม่มีม่านตา หูหนวก หัวใจ ปอด ไตพิการ แขน ขา นิ้วพิการบิดงอ ปากแหว่งเพดานโหว่ ปากและกรามเล็ก ไม่มีใบหู ฯลฯ มักไม่รอดชีวิต อาจเสียชีวิตในครรภ์ หรืออายุไม่เกิน 1ขวบ ลักษณะที่ทำให้สงสัยว่าลูกจะเป็นภาวะนี้คือ แม่อายุมาก ลูกโตช้าในครรภ์ น้ำคร่ำมีมาก หรือน้ำคร่ำน้อย ลูกดิ้นน้อย ลูกขาดออกซิเจนในครรภ์

         

        บทความโดย พญ.ชัญวลี ศรีสุโข
        ภาพโดย : Shutter stock

          รถเข็นฝึกเดิน Chicco

          รถเข็นฝึกเดินแบบเดินตาม ยี่ห้อ Chicco ขาย 1800(ราคาเต็ม 2,800) สภาพ 90% ใหม่มากๆ ไม่ค่อยได้ใช้ มีเสียงเพลง เวลาเข็น ปรับระดับที่จับได้2ระดับ

            Tags

            เสื้อในให้นม พร้อมส่ง หลายแบบ หลายไซต์

            เสื้อในให้นม พร้อมส่ง หลายแบบ หลายไซต์ ใส่สบาย ไม่อึดอัด ลายทันสมัยไม่แก่
            สอบถามและสั่งซื้อได้ค่ะ
            Line ID : lovefrommom
            Tel : 081-804-5804
            Inbox : https://www.facebook.com/messages/lovefrommomshop

              Tags

              เปลสวิง Bright Starts

              – เปลสวิง InGenuity™ by Bright Starts™ Cozy Coo™ Sway Seat
              – ราคา 3,500 บาท
              – มือสองสภาพ 90%
              -ใช้งานง่าย ช่วยเบาแรงคุณแม่มือใหม่ ด้วยการแกว่งไปแกว่งมาที่นุ่มนวล เบาะนั่งนุ่มละมุ่นเหมือนลูกน้อยอยู่ในอ้อมกอดคุณแม่ ที่นั่งสามารถปรับระดับได้ด้วย มีระบบไกวอัตโนมัติ 3 ระดับ
              มีโมบายห้อยให้ลูกน้อยได้มอง พร้อมเสียงเพลงธรรมชาติกล่อมลูกน้อย และปลอดภัยด้วยเข็มขัดสำหรับไว้ป้องกันลูกน้อย
              -088-5240670

                Tags

                ทำไมทารกแรกเกิดจึงมีเต้าโตและมีน้ำนมไหล?

                ภาวะนี้เกิดขึ้นในเด็กแรกเกิดอายุ 2-3 วัน พบได้ทั้งทารกเพศชายและเพศหญิง ซึ่งไม่ใช่อาการผิดปกติแต่อย่างใด และจะยุบหายไปได้เองภายใน 2 สัปดาห์ ทั้งนี้เกิดขึ้นจากอิทธิพลฮอร์โมนเพศ (ฮอร์โมนโพรแลกติน และ โกรธฮอร์โมน) ที่ได้รับมาจากแม่ผ่านทางสายสะดือ ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้ทารกเพศหญิงมีเมือกขาว หรือ เลือดประจำเดือนออกมาทางช่องคลอดของทารกเพศหญิงได้เช่นกัน ซึ่งเป็นภาวะปกติในทารกแรกเกิด จะหายไปได้เองโดยไม่ต้องทำการรักษาแต่อย่างใด

                mastitis dia 23

                การดูแลทารกเมื่อมีหน้าอก หรือน้ำนมไหลออกมา 

                ฮอร์โมนที่ได้รับจากแม่นี้ จะกระตุ้นให้ต่อมน้ำนมของทารกทำงาน เมื่อเวลาผ่านไป ฮอร์โมนจะลดลงได้เอง เต้านมจะยุบลงไปเป็นปกติ โดยไม่ต้องรักษาใดๆ ห้ามไม่ให้ใช้มือบีบเพื่อเอาน้ำนมออก เพราะอาจทำให้มีปัญหาเต้านมอักเสบ แล้วกลายเป็นฝีตามมา

                Intumescencia mamaria mejorada


                ขอบคุณข้อมูลจาก : สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ https://www.facebook.com/SuthiRaXeuxPhirocnKic/photos/a.717729214919895.1073741858.591075960918555/916207411738740/?type=1&__mref=message_bubble

                ขอบคุณภาพจาก : http://drgarcia-tornel.blogspot.com/2010/12/intumescencia-neonatorum-del-recien.html

                  เสื้อผ้าเด็กเเละเสื้อผ้าครอบครัว

                  🌾ขอฝาก Page เสื้อผ้าเด็ก 6เดือน – 5 ขวบ เเละชุดครอบครัว

                  www.facebook.com/lestouspetits
                  www.lestouspetitsclothing.com

                  Exclusive design, Handmade เกรด premium โดย designer ฝรั่งเศส เเละคนไทย ใช้ผ้านำเข้า 100%

                  🎈เดือนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษ ซื้อชุดคุณเเม่ หรือคุณพ่อ พร้อมชุดลูก ลด 20%ทั้ง SET ค่ะ🎊

                  🎉🎉สินค้าได้รับคัดเลือกจากงาน Real parenting ให้เดินเเบบ ร่วมกับสินค้า brand Gap Bossini เเละ Benettons

                    Tags

                    Kid Safety – คิดก่อนพาเด็กไปสถานที่พลุกพล่าน

                    เรื่อง : รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์

                    ที่มาจากคอลัมน์ : Kid Safety ฉบับเดือนกรกฎาคม 2553

                    ภาพจาก : Shutterstock

                     

                    ความหมายของคำว่า “สถานที่พลุกพล่าน” มั่นใจว่าย่อมเป็นที่เข้าใจโดยทั่วไปโดยไม่ต้องพึ่งพจนานุกรมใดๆ ว่าหมายถึง ที่ๆ มีผู้คนแออัด เบียดเสียด ยัดเยียด ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า ตลาดสด ในงานเทศกาล นิทรรศการต่างๆ และรวมถึง โรงหนัง หอประชุมและแน่นอน..ในฝูงชน(ม็อบ)ที่รวมตัวกันหนาแน่นเพื่อจุดประสงค์เพื่อการต่อต้านหรือเรียกร้องต่างๆ

                     

                    เสี่ยงต่อโรคติดต่อ เสี่ยงต่อจิตใจ อารมณ์แปรปรวน


                    “ผลเสียในเรื่องสุขภาพร่างกาย เมื่อผู้ปกครองพาลูกหลานไปอยู่ในกลุ่มคนจำนวนมากๆ แออัดยัดเยียด บางครั้งกลางแดดร้อน บางครั้งฝนตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กเล็กที่มีโรคประจำตัว อาจติดเชื้อได้ง่ายได้ง่ายจากโรคติดต่อทางเดินหายใจ โรคทางเดินอาหารทำให้ท้องร่วงท้องเสีย ทำให้ร่างกายขาดน้ำ อาหาร และการขับถ่ายไม่ถูกสุขลักษณะ ล้วนมีผลต่อสุขภาพร่างกายทั้งสิ้น ส่วนในเรื่องสุขภาพจิต การชุมนุมแต่ละครั้งจะมีการใช้เสียงในระดับดัง บางครั้งอาจจะใช้คำไม่สุภาพ ใช้วาจาค่อนข้างแรง เด็กเล็กๆ ไม่เข้าใจ อาจจะส่งผลให้มีอาการผวาตกใจ ต่างจากเด็กโตหรือผู้ที่บรรลุนิติภาวะแล้วก็เป็นอีกเรื่อง” น.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกรมสุขภาพจิตผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นฯ

                    “เรื่องของความรุนแรงนั้น ไม่ได้หมายความถึงการทำร้ายร่างกายเท่านั้น แต่การใช้คำพูดที่รุนแรง น้ำเสียงดุดัน ก็ถือเป็นความรุนแรงได้ เด็กๆ ที่เข้าร่วมการชุมนุม ได้ฟังการปราศัยก็มีโอกาสที่จะซึมซับและเลียนแบบวิธีการพูดดังกล่าวได้

                    พ.ญ.รัตโนทัย พลับรู้การ กลุ่มงานจิตเวชเด็กและวัยรุ่น กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี

                    “อย่าพาเด็ก ๆ เข้าสู่สนามการชุมนุม เพราะจะทำให้เด็กเกิดการซึมซับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น การด่า เสียงบ่น เสียงตะโกน ซึ่งล้วนแต่บ่มเพาะภาวะความเครียดและภาวะความก้าวร้าวให้เกิดขึ้นในจิตใจเด็กทั้งสิ้น ขณะนี้เด็กจะแยกแยะไม่ได้ว่าส่งไหนดีสิ่งไหนไม่ดี แต่จะรับไปทั้งหมด” ดร.จิตรา ดุษฎีเมธา ประธานโครงการศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว)

                    ซึ่งยังมีอีกสิ่งที่จะลืมไม่ได้อย่างเด็ดขาด ก็คือ ในการชุมนุมที่เข้าสู่ภาวะวิกฤต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ข้อเรียกร้องไม่ได้รับการตอบสนอง การที่ฝูงชนถูกปลุกเร้าให้ฮึกเหิมหรือเกลียดชังอีกฝ่ายอย่างรุนแรง จนเกิดเป็นความคลั่งแค้น หรือการถูกปราบอย่างเด็ดขาด รุนแรง กระทั่งเกิดโกลาหลเข้าขั้นจราจล..ซึ่งนั่นก็คงไม่ต้องเดากันอีกแล้วว่า…เด็กๆ จะเป็นอย่างไร?…

                     

                      [Blogger-ซาร่า คาซิงกินี] ตอนที่ 2 ถามเรื่องเลี้ยงลูกจากคุณแม่มืออาชีพ

                      “เมื่อซาร่ามีปัญหาในการเลี้ยงลูก ก็ถามจากคุณแม่มืออาชีพ…”

                       

                                แม่มือใหม่ทุกคนก็ต้องมีต้นแบบที่คอยสอนวิธีให้กับเรา ต้นแบบของซาร่าก็คือคุณแม่ของซาร่าเอง หรือคนใกล้ตัวที่เราเห็นและได้สัมผัสวิธีการเลี้ยงลูกในแบบของเขา เวลาซาร่ามีปัญหาก็ปรึกษาพวกเขานี่แหละค่ะ

                      ซาร่าอยากเลี้ยงแม็กซ์เวลล์ให้ดีที่สุด เวลามีปัญหาที่เราไม่เคยเจอมาก่อนก็ถามจากคนรอบตัวที่เคยผ่านเรื่องเหล่านี้มาแล้วและดูเป็นคุณแม่มืออาชีพมากกว่าเรา คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหลายคนเลี้ยงลูกคนเดียว เวลาลูกดื้อก็ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร เดี๋ยวนี้มีคลับ และกลุ่มทางโซเชี่ยลมีเดียสำหรับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวโดยเฉพาะ ซาร่าอยากแนะนำให้คนที่ไม่รู้จะปรึกษาใครลองหากลุ่มที่เราคุยแล้วสบายใจไว้เป็นเพื่อนเรานะคะ อีกมุมที่ดีคือเวลาเราได้ให้คำปรึกษาคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวด้วยกัน แล้วคำแนะนำของเราช่วยเขาได้ มันรู้สึกดีมากๆ เลยค่ะ

                                แม้ว่าหลายคนจะเปรียบเทียบลูกตัวเองกับคนอื่นๆ แต่สำหรับแม็กซ์เวลล์แล้ว ซาร่าไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เขาไม่ต้องโตมาเป็นคนเก่งอะไรมากมาย แค่เติบโตมาเป็นคนดี เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขก็พอแล้วค่ะ

                       

                       

                        พบโครงกระดูกแม่ลูก กอดกัน 4 พันปี

                        เว็บไซต์ข่าวจีน “ซีซีทีวี” ได้รายงานว่า ทางการจีนขุดพบโครงกระดูกแม่ลูกกอดกันอายุราว 4,000 ปี ที่บริเวณแหล่งทางโบราณคดีของประเทศ “หล่าเจีย” ในเขตหมินเหอ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลชิงไห่ . . . โดยพื้นที่ดังกล่าวมีความเก่าแก่ตั้งแต่ยุคสัมฤทธิ์ และยังคงมีนักโบราณคดีค้นพบศิลปะวัตถุต่างๆเรื่อยมา

                        lajia-2

                        ทั้งนี้ โครงกระดูกสองแม่ลูกคาดว่า เกิดขึ้นตอนแผ่นดินไหวในเขตดังกล่าวเมื่อช่วงก่อนคริสตกาลราว 2,000 ปี ทำให้แม่ลูกคู่นี้กอดกันมาเป็นเวลาราว 4,000 ปีแล้ว โดยนักโบราณคดีคาดว่า แม่อาจเป็นฝ่ายปกป้องลูกจากแผ่นดินไหว จนทั้งสองเสียชีวิตโดยใช้ช่วงนาทีสุดท้ายด้วยกัน

                        lajia-3

                        lajia-4

                        ภาพการค้นพบโครงกระดูกครั้งนี้ โดยเฉพาะภาพโครงกระดูกแม่ลูกสร้างความประทับใจให้แก่ชาวเน็ตจีนเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ยังมีโบราณวัตถุอื่นๆ ถูกขุดพบ รวมทั้งก๋วยเตี๋ยวจานแรกของโลกด้วย

                         


                        เครดิตภาพ: ไชน่านิวส์

                        ขอบคุณข่าวจาก : www.msn.com

                          ถ่ายภาพตั้งครรภ์ ภาพครอบครัว ภาพเด็ก

                          สนใจถ่ายภาพท้อง ภาพครอบครัว ติดต่อได้ที่ 0818424773 หรือ Line ID: jibknot ค่ะ
                          หรือดูผลงานเพิ่มเติมได้ที่ www.tinytimestudio.com/gallery

                            Tags

                            พาสต้าตุ๋น ตุนพลัง (6 เดือน)

                            พาสต้าตุ๋น ตุนพลัง (6 เดือน)


                            ใช้เวลา 15 นาที

                            ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่)

                            พาสต้า ต้มสุกชนิดใดก็ได้                    3 ช้อนโต๊ะ

                            ฟักทองสุก                                                3 ช้อนโต๊ะ

                            ไข่แดงสุก                                                 1 ฟอง

                            นมที่ลูกดื่ม                                               150 มิลลิลิตร
                            วิธีทำ

                            1. นำนมที่ลูกดื่มเทลงปั่น พร้อมๆกับฟักทอง และพาสต้าจนละเอียด
                            2. จากนั้นโรยด้วยไข่แดงพร้อมเสิร์ฟ

                             

                            บทความโดย : กองบรรณาธิการเรียลพาเรนติ้ง

                              ซุปพาสต้าสายฝน (8 เดือน)

                              ซุปพาสต้าสายฝน (8 เดือน)

                              ใช้เวลา 15 นาที

                               

                              ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่)

                              พาสต้า แบบเส้นเล็กสั้นๆ ต้มสุก         2 ช้อนโต๊ะ

                              อะโวคาโด                                                1 ช้อนโต๊ะ

                              นมที่ลูกดื่ม                                              150 มิลลิลิตร

                              ปลาแซลมอนนึ่งสุก                               1 ช้อนโต๊ะ

                               

                              วิธีทำ

                              1. นำอะโวคาโดต้มกับนมให้นิ่ม จากนั้นนำไปปั่นให้เข้ากัน
                              2. แต่งหน้าด้วยพาสต้า และปลาแซลมอน พร้อมเสิร์ฟ

                               

                              บทความโดย : กองบรรณาธิการเรียลพาเรนติ้ง