โรคที่มากับมือ

5 โรคที่มากับมือ ไม่อยากเป็นล้างมือให้สะอาด

Alternative Textaccount_circle
event
โรคที่มากับมือ
โรคที่มากับมือ

 

 

5 โรคที่มากับมือ โรคที่พ่อแม่ควรระวังให้ดี!

  1. โรคท้องร่วง เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Escherichia coli ที่พบได้มากในลำไส้ของมนุษย์เรา แน่นอนค่ะว่า เจ้าแบคทีเรียชนิดนี้นั้น จะส่งผลต่อร่างกายหากลูก ๆ ล้างมือไม่สะอาด แล้วเผลอไปจับอาหาร ขนม หรือเครื่องดื่ม และเมื่อรับประทานเข้าไป แบคทีเรียชนิดนี้ ก็จะส่งผลกับร่างกายของลูกได้โดยตรงเลย
  2. โรคผิวหนัง เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อโรคที่มีชื่อว่า Corynebacterium xerosis เป็นแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคผิวหนัง ส่งผลให้ผิวลูกแห้งเป็นขุย ไม่เรียบเนียน และถ้าเป็นมากก็จะส่งผลให้เกิดอาการคันตามมาได้
  3. โรคไข้หวัด เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้ลูกเกิดการอักเสบหลังจากการติดเชื้อ ซึ่งเจ้าแบคทีเรียชนิดนี้มีชื่อเรียกว่า Streptococcus pyogenes เมื่อร่างกายได้รับการติดเชื้อ ก็จะทำให้เกิดอาการเจ็บคอ และเป็นไข้ได้ และหากเป็นมาก ก็ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจ หรือติดเชื้อในกระแสเลือดได้เลยละค่ะ
  4. โรคอาหารเป็นพิษ หากลูกเราเผลอไปหยิบจับสิ่งของรับประทาน หรือเอามือเข้าปากละก็ แน่นอนค่ะว่า เจ้าแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Staphylococcus aureus นั้นมันมาแน่นอนค่ะ ที่สำคัญแบคทีเรียชนิดนี้ร้ายกาจมาก เพราะมันทนความร้อนได้นั่นเอง เมื่อไรก็ตามที่เจ้าแบคทีเรียนี้เข้าสู่ร่างกายของลูก ก็อาจจะทำให้ลูกเป็นโรคอาหารเป็นพิษได้ค่ะ อาการก็คือ อาเจียน คลื่นไส้ ปวดท้อง และท้องร่วง เป็นต้น
  5. โรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่า ไวรัสอะไรที่เป็นบ่อเกิดของโรคนี้ เพราะแน่นอนว่า คุณพ่อคุณแม่รู้จักกันแทบทุกคน แต่สำหรับท่านไหนที่ยังไม่รู้ ทีมงาน Amarin Baby and Kids ก็จะมาบอกค่ะ ซึ่งไวรัสที่ว่านี้ก็คือ ไวรัส H1N1 นั่นเอง … คุ้นหูกันเลยใช่ไหมละคะ สำหรับไวรัสชนิดนี้ เมื่อเข้าสู่ร่างกายของลูกแล้ว ก็จะใช้เวลาฟักตัวอยู่ประมาณ 3 – 7 วัน แต่ถ้าหากลูกได้รับเชื้อโรคดังกล่าวในปริมาณที่มากละก็ เท่ากับเป็นการเร่งระยะการฟักตัวของโรคนี้ได้มากขึ้น … ไวรัสชนิดนี้จะพบมากในน้ำลาย เสมหะ และน้ำมูกของผู้ป่วยค่ะ และติดต่อได้จากมือ หรือสิ่งของเครื่องใช้ที่มีผู้ป่วยโรคได้หยิบจับไว้ ไม่ใช่แค่นั้นนะคะ เจ้าไวรัส H1N1 นี้จะเข้าสู่ร่างกายของลูกผ่านจากจมูกและตาอีกด้วยละค่ะ

 

ล้างมืออย่างไรให้สะอาดถูกต้องและปลอดภัยห่างไกลโรค คลิก!

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up