ป้อนกล้วยทารก

ป้อนกล้วยทารก ก่อนวัยเริ่มอาหารเสริมอันตรายถึงชีวิต!

Alternative Textaccount_circle
event
ป้อนกล้วยทารก
ป้อนกล้วยทารก

ป้อนกล้วยทารกแรกเกิด ลำไส้อุดตันจริงหรือไม่ ?

แพทย์หญิงอรพร ดํารงวงศ์ศิริ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า เนื่องจากระบบการย่อยอาหารของทารกแรกเกิดยังไม่แข็งแรงสมบูรณ์เต็มที่ ทําให้การย่อยการดูดซึมอาหารไม่มีประสิทธิภาพมากเท่ากับผู้ใหญ่

อาหารสำหรับทารกแรกเกิดที่ดีที่สุด คือ นมแม่ ซึ่งทารกสามารถย่อยและดูดซึมได้ดี แต่หากป้อนอาหารอื่นๆ ที่ไม่ใช่นม ให้แก่ทารกแรกเกิด เช่น ข้าว กล้วย หรืออาหารเสริมอื่นๆ เข้าไป อาหารเหล่านี้จะไม่สามารถย่อยและดูดซึมในกระเพาะ อาหารและลําไส้ของทารกได้ อาจก่อให้เกิดอาการผิดปกติได้ เช่น ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ท้องเสีย แพ้อาหาร และจะก่อให้เกิดปัญหาลําไส้อุดตันจากเศษอาหารที่ไม่ย่อยนี้ได้ ซึ่งอาจรุนแรงจนต้องรักษาด้วยการผ่าตัดลำไส้ หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้

และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมถึงต้องรณรค์ให้ความรู้กับพ่อแม่มือใหม่ว่าให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวไปจนถึงลูกอายุ 6 เดือน หลังจากนั้นจึงค่อยๆ เริ่มให้อาหารเสริมชนิดอื่นๆ ได้ สำหรับนมแม่นั้นมีสารอาหารครบถ้วน ประหยัด และถูกหลักทางโภชนาการมากกว่าอาหารชนิดอื่นๆ ทั้งยังช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกายลูกได้ดีมากๆ ด้วยค่ะ

“แม่ ย่า ยายจ๋า ถ้ารักหนูอย่าป้อนกล้วยบด ข้าวบด หรือแอบให้น้ำหนูก่อน 6 เดือนนะ เพราะแม่อาจสูญเสียหนูไปก่อนวัยอันควร หนูยังอยากเติบโตและอยู่กับทุกคนในครอบครัว” ถ้าลูกพูดได้ตั้งแต่แรกคลอดเขาก็คงอยากจะบอกคุณแบบนี้ก็ได้นะคะ ฉะนั้นอย่าทำร้ายลูกทางอ้อมแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์กันอีกต่อไปเลยค่ะ

 

บทความแนะนำ คลิก>> อุทาหรณ์! ลูกไม่โต เพราะ กล้วยอุดตันลำไส้ จนเน่า

 

มาดูกันต่อว่าความโชคร้ายที่จะเกิดกับลูกวัยทารกหลังจากป้อนอาหารอื่นๆ นอกเหนือจากนมแม่ให้เขากินก่อน 6 เดือนนั้นจะสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพของลูกอย่างไรได้บ้าง…

1. สำลักได้ง่าย

ในเด็กระบบการกลืนอาหารแข็งของเด็กยังไม่พร้อมที่อายุ 3-4 เดือน การกลืนการดูดการกิน จึงไม่ใช่เรื่องที่เด็กจะสามารถทำได้ง่ายๆ เหมือนกับในผู้ใหญ่ แน่นอนว่าเด็กจะสำลักอาหารที่ป้อนให้เขา และที่น่าเศร้าคือเด็กทารกไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เวลาที่เกิดการสำลักขึ้นมา ขอบอกว่าอันตรายมาก

2. ลำไส้มีปัญหา

การย่อยอาหารและช่วงก่อนออกมาเป็นอุจจาระต้องใช้แบคทีเรียช่วย ซึ่งเอนไซม์ที่ใช้ในการย่อยแป้งและไขมัน รวมไปถึงแบคทีเรียในลำไส้จะพร้อมก็ตอนอายุ 5-6 เดือน การเริ่มอาหารเร็วเกินไปจะทำให้เกิดปัญหาทางลำไส้ได้

3. ติดเชื้อมากขึ้น

หลายกลไก ทั้งจากการสำลักน้อยๆ จากเชื้อที่ผ่านไปทางลำไส้

4. ขาดสารอาหาร

นมแม่มีสารอาหารและพลังงานสูง เพราะประกอบไปด้วยไขมันในสัดส่วนที่พอประมาณ (น่าจะ30%) เนื่องจากจำเป็นในการสร้างเสริมสมอง ถ้าหากเลี้ยงลูกด้วยอาหารแข็งอื่นๆ แล้วไปลดนมแม่ ก็มีความเสี่ยงที่จะขาดสารอาหารทั้งกลุ่มแร่ธาตุวิตามิน และในกลุ่มไขมัน

5. อ้วน

เด็กที่เริ่มอาหารแข็งเร็ว เมื่อติดตามไปนานๆ จะมีสัดส่วนเด็กอ้วนมากกว่าเด็กที่กินนมอย่างเดียวจน 6 เดือน(ถึง1ปี)

6. นอนหลับไม่สบาย

ให้ลูกวัยทารกกินอาหารเสริมก่อน 6 เดือน อย่างที่บอกว่าระบบย่อยยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์ อาหารที่ป้อนเข้าไปเวลาย่อยไม่ได้ ย่อยไม่หมด ทำให้เด็กท้องอืด อึดอัดแน่นท้อง ตอนนอนก็ไม่สบายตัวจึงต้องร้องไห้กวนโยเยได้ตลอดทั้งคืน

ย้ำกันอีกสักครั้งว่านมแม่ช่วงก่อน 6 เดือนสำหรับลูกนั้นดีที่สุดและเพียงพอแล้วค่ะ เพราะข้อมูลขององค์การอนามัยโลกและองค์การยูนิเซฟ นมแม่เป็นอาหารที่มีคุณค่ามากที่สุด – เป็น“ยอดอาหาร” สำหรับทารกในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต ประกอบไปด้วยสารอาหารต่างๆ ภูมิคุ้มกัน ฮอร์โมน ตลอดจนอนุมูลอิสระที่จำเป็นสำหรับทารกในการป้องกันความเจ็บป่วยและทำให้ทารกเจริญเติบโตอย่างแข็งแรงสมบูรณ์  ส่วนการเริ่มอาหารเสริมที่นอกเหนือจากนมแม่เริ่มให้ได้หลังลูก 6 เดือน โดยที่ยังทานนมแม่ควบคู่ไปด้วยค่ะ

จริงๆ แล้วไม่ได้มีแค่กล้วยอย่างเดียวที่ไม่สนับสนุนให้ป้อนลูกเร็วก่อนวัยเริ่มอาหารเสริม แต่ยังมีอีกหลายอย่างค่ะ ไปดู พร้อมกันต่อว่ามีอะไรบ้างที่ไม่เหมาะให้ลูกวัยทารกกินค่ะ…

อ่านต่อ 6 อาหารที่ไม่ควรป้อนทารก หน้า 3

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up