รีวิวคาร์ซีท 10 แบรนด์ยอดนิยม แข็งแรง เดินทางปลอดภัย - Amarin Baby & Kids
รีวิวคาร์ซีท

รีวิวคาร์ซีท 10 แบรนด์ยอดนิยม แข็งแรง ปลอดภัยทุกการเดินทาง

Alternative Textaccount_circle
event
รีวิวคาร์ซีท
รีวิวคาร์ซีท

วันนี้ทีมแม่ ABK อยากแนะนำอีกไอเท็มชิ้นสำคัญที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ลูกเราของเราระหว่างการเดินทาง นั่นก็คือ “คาร์ซีท” นั่นเอง แล้วต้องเลือกอย่างไร แบรนด์ใช้ดี วันนี้ทีมแม่มี รีวิวคาร์ซีท มาฝากทุกคนกันค่ะ

รีวิวคาร์ซีท 10 แบรนด์ยอดนิยม
แข็งแรง ปลอดภัยทุกการเดินทาง

คาร์ซีท (Car seat) คือ เบาะนั่งที่ทำหน้าที่เป็นเข็มขัดนิรภัยโดยใช้ระบบผูกรัดให้ติดกับเบาะนั่งของเด็ก โดยป้องกันไม่ให้เด็กกระเด็นจากเบาะ ไม่ว่าจะเกิดจากการเบรกอย่างแรง หรือรถชน นอกจากนี้ยังสามารถดูดซับแรงกระแทกบางส่วนได้ด้วย หมายความว่า คาร์ซีททำให้โอกาสบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของลูกน้อยของคุณลดลง
ในสหภาพยุโรปนั้น มีกฎหมายการจราจรทางบกที่กำหนดให้ติดตั้งคาร์ซีทสำหรับเด็กที่ส่วนสูงไม่ถึง 150 เซนติเมตร หรือหนักไม่ถึง 36 กิโลกรัม กำเนิดเป็นมาตรฐานคาร์ซีทสำหรับเด็ก มาตรฐานยุโรป R44/04 ซึ่งกำหนดคุณลักษณะของคาร์ซีทให้เป็นมาตรฐาน ซึ่งคาร์ซีทโดยทั่วไปสามารถแบ่งประเภทตามลักษณะการติดตั้ง หรือรูปร่างลักษณะของคาร์ซีทได้ 5 ประเภท ดังนี้

  1. Rearward-facing คือรูปแบบที่คาร์ซีทจะหันหน้าเข้าหาเบาะรถ เพื่อป้องกันเด็กกระเด็นไปด้านหน้า
  2. Extended Rearward-facing คือรูปแบบที่คาร์ซีทจะหันหน้าเข้าหาเบาะรถ แต่พิเศษกว่าประเภทแรกตรงที่มีฐานติดตั้งปรับเข้า-ออกได้
  3. Forward-facing แบบ Convertible คือคาร์ซีทที่ติดตั้งโดยให้เด็กหันหน้าไปทางหน้ารถ โดยสามารถปรับหมุนทิศทางของเบาะได้ 360 องศารอบตัว ซึ่งสามารถถอดสายรัดออกได้ และสามารถใช้เข็มขัดนิรภัยของรถได้
  4. High-back booster คือคาร์ซีทที่ติดตั้งโดยให้เด็กหันหน้าไปทางหน้ารถ มีรูปร่างเหมือนเบาะปกติ แต่มีส่วนป้องกันศีรษะ คอและลำตัว แต่ไม่มีสายรัด ใช้เข็มขัดนิรภัยของรถในการคาด
  5. Booster cusion คือคาร์ซีทที่มีลักษณะเหมือนเบาะรองนั่งเสริม เพื่อให้คาดเข็มขัดนิรภัยที่มากับรถได้ปลอดภัยขึ้น

 

ทำไมเราจึงควรเลือก คาร์ซีท คุณภาพดีให้ลูก

เมื่อเราทราบถึงประโยชน์ของคาร์ซีทและประเภทแล้ว เราก็จะพบว่าคาร์ซีทเป็นอีกหนึ่งไอเท็มสำคัญที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ทุกการเดินทางของเรามั่นใจมากขึ้น แต่คาร์ซีทก็เป็นอุปกรณ์เกี่ยวกับเด็กที่มีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ สำหรับลูกน้อย เราจึงต้องตัดสินใจให้ดี เลือกอย่างรอบคอบก่อนที่จะซื้อคาร์ซีทให้ลูกรัก ปัจจัยที่คุณพ่อคุณแม่ต้องพิจารณา ได้แก่

  1. ความปลอดภัย แน่นอนว่าคาร์ซีทถูกสร้างมาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกน้อยของคุณเมื่อต้องโดยสารรถยนต์ เนื่องจากอุปกรณ์ทั่วไปบนรถยนต์ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานกับเด็กเล็ก การที่มีอุปกรณ์เฉพาะทางเพื่อให้ความปลอดภัยกับเด็กเล็กโดยเฉพาะนั้นย่อมมีประสิทธิภาพกว่าอย่างแน่นอน
  2. การปรับพฤติกรรมเด็กเล็ก หลายครั้งที่เมื่อพาลูกน้อยไปเดินทางด้วยรถยนต์ เด็กเล็กมักตื่นเต้นกับการเดินทางจนไม่สามารถนั่งอยู่กับที่ได้ นอกจากจะอันตรายแล้วยังเป็นความยากลำบากของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิดอีกด้วย การให้เด็กนั่งคาร์ซีทตั้งแต่อายุน้อย ๆ เป็นส่วนหนึ่งในการปรับพฤติกรรมของเด็กด้วย ทำให้เมื่อเด็กโตขึ้น เด็กมักจะมีพฤติกรรมนั่งอยู่กับที่เนื่องจากเด็กเคยชินจากการนั่งคาร์ซีทอีกด้วย นอกจากนั้นประโยชน์ทางอ้อมคือทำให้คุณพ่อคุณแม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติโดยไม่ต้องกังวลกับลูกน้อย หรือมีสมาธิกับการขับรถได้ตามปกติ

จากประโยชน์ที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่า เมื่อเทียบกับสวัสดิภาพและชีวิตของลูกน้อยแล้ว ราคาของคาร์ซีทนั้นไม่ได้แพงเกินไปเลย นอกจากนั้นคาร์ซีทแต่ละตัวยังมีอายุการใช้งานนานหลายปี บางรุ่นสามารถใช้งานได้ตั้งแต่ลูกน้อยอายุไม่กี่เดือน จนถึงอายุ 5-7 ขวบ ดังนั้นการลงทุนซื้อคาร์ซีทครั้งนึงก็คุ้มค่าคุ้มราคาหากคุณเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณเอง

ขอบคุณภาพจาก https://www.ideas9.com/parenting/newborns-infants/baby-car-seat-installation.html

เทคนิคเลือกคาร์ซีทให้ลูกรัก

การเลือกซื้อคาร์ซีทที่เหมาะสม คุ้มค่านั้น นอกจากควรซื้อให้เหมาะสมกับอายุและขนาดของตัวเด็กแล้ว ยังต้องดูคุณสมบัติต่าง ๆ ของสินค้าดังนี้

  1. วัสดุแข็งแรงคงทน มีมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการยอมรับ เพราะคาร์ซีทเป็นอุปกรณ์ป้องกันอันตราย จึงต้องผลิตจากวัสดุที่แข็งแรง ไม่แตกหักง่าย ไม่หลุดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่อาจเกิดอันตรายต่อลูก ไม่มีสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดอันตราย เช่น มาตรฐานยุโรป ECE regulation 44/04, UN standard 129 หรือ Federal Motor Vehicles Safety Standard 213 ของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากในไทยเองยังไม่มีมาตรฐานสำหรับอุปกรณ์คาร์ซีทจากหน่วยงานภาครัฐอย่างเป็นทางการ
  2. แบรนด์น่าเชื่อถือ เลือกซื้อคาร์ซีทที่ผลิตโดยบริษัทที่น่าเชื่อถือ ได้รับการรับรองมาตรฐาน
  3. ความสมบูรณ์ของสินค้า ในกรณีที่คุณเลือกซื้อสินค้ามือสอง ไม่ใช่ของใหม่ ควรตรวจสอบสินค้าว่าไม่มีชิ้นส่วนขาดหายไป มีรอยร้าว หรือชำรุดเสียหาย เนื่องจากอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของการใช้งานได้ เช่น ระบบนิรภัยอาจขัดข้องหรือเสียหาย ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ทางที่ดีที่สุดคือควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ยังไม่ผ่านการใช้งานย่อมดีกว่าอุปกรณ์มือสองที่ผ่านการใช้งานมาก่อน ยกเว้นจะจำเป็นต้องใช้ของมือสองจริง ๆ
  4. การติดตั้งคาร์ซีท เพราะคาร์ซีทบางชิ้นถูกออกแบบมาให้ติดตั้งได้บนรถบางประเภทเท่านั้น ดังนั้นก่อนจะเลือกตัดสินใจซื้อ ควรดูสินค้าให้ดีว่าสามารถติดตั้งบนรถของคุณได้หรือไม่ หรือหากเป็นไปได้ ควรทดลองติดตั้งใช้งานกบรถของคุณก่อนจะซื้อมาใช้งานจะดีที่สุด

 

10 แบรนด์คาร์ซีทคุณภาพดีในดวงใจ

ทางทีมงานได้คัดเลือกคาร์ซีทแบรนด์ต่าง ๆ ในท้องตลาดมาเป็นตัวเลือกให้ทางคุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจเลือกซื้อ หรือเป็นไอเดียให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่สำหรับเลือกสินค้าที่เหมาะสม และดีที่สุดสำหรับลูกน้อย ดังนี้

  1. Britax

เป็นประเภท Booster seat จากแบรนด์ Britax รุ่น KIDFIX i-size ออกแบบมาให้ติดตั้งบนรถที่มีระบบ ISOFIX ติดตั้งแบบหันหน้าออกจากเบาะ (Forward-facing) เหมาะสมสำหรับเด็กตั้งแต่อายุ 3.5 ปี จนถึงอายุ 12 ปี รองรับส่วนสูงของเด็กตั้งแต่ 100 – 150 เซนติเมตร ตัวเบาะมีส่วนป้องกันแรงกระแทกจากด้านข้าง และป้องกันด้านหลังตลอดความสูงของเด็กตั้งแต่หัวจรดสะโพก มี ปรับแต่งความสูงให้เหมาะสมกับลูกของคุณได้ง่าย เบาะนุ่มนั่งสบาย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.britaxthailand.com/

รีวิวคาร์ซีท
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.britaxthailand.com/

 

  1. Fico

คาร์ซีทแบบ Forward-facing แบบ Convertible จากแบรนด์ Fico รุ่น AY919-A ติดตั้งได้ทั้งบนรถที่มีระบบ ISOFIX เหมาะสำหรับทารกแรกเกิดจนถึง 12 ปี รองรับน้ำหนักได้มากสุด 36 กิโลกรัม เข็ดขัดนิรภัยในตัวแบบ 5 จุด เพื่อความปลอดภัย ตัวเบาะนุ่ม ปรับเอนได้ 4 ระดับ รวมถึงปรับหมุนได้ 360 องศา สินค้าติดตั้งได้ง่าย น้ำหนักเพียง 9 กิโลกรัม และที่สำคัญที่สุดคือได้รับมาตรฐานยุโรป ECE 44/04

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ficocarseats.com

รีวิวคาร์ซีท
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.ficocarseats.com/

 

  1. Chicco

เป็น Forward-facing แบบ Convertible จากแบรนด์ Chicco รุ่น Fit4 ออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้ตั้งแต่ทารกแรกเกิดจนถึงเด็กน้ำหนักตัว 45.35 กิโลกรัม โดดเด่นที่สามารถถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนให้เหมาะสมกับขนาดเด็กวัยต่าง ๆ ได้ โดยแบ่งเป็น Stage 1-4 ปรับเอนได้ 9 ระดับ ทั้งรูปหันหน้าเข้าเบาะและหันออกจากเบาะ ป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง ทั้งศีรษะและลำตัว โครงสร้างเสริมเหล็ก แข็งแรงทนทาน ผ่านมาตรฐาน Federal Motor Vehicles Safety Standard 213 ของสหรัฐอเมริกา เป็นแบรนด์ชื่อดังจากอิตาลีที่มีชื่อเสียงยาวนานมากกว่า 60 ปี

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/Chiccothailand/

รีวิวคาร์ซีท
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.kiddopacific.com/

 

 

  1. Camera

Convertible car seat จากแบรนด์ Camera รุ่น AdelMAX ออกแบบมาให้สามารถติดตั้งได้ทั้ง Forward-facing และ Rearward-facing โดยติดตั้งบนเบาะรถทั่วไป และใช้เข็มขัดนิรภัยของรถในการยึดเอาไว้กับที่ ใช้งานได้ตั้งแต่เด็กทารกแรกเกิดจนกระทั่งน้ำหนัก 36 กิโลกรัม โครงสร้างรูปแบบรังผึ้ง แข็งแรง และรองรับแรงกระแทกได้ดี ใช้สายรัดระบบ 5 จุดปลอดภัย และได้รับมาตรฐานยุโรป ECE 44/04

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.camera.co.th

รีวิวคาร์ซีท
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.camera.co.th/

 

 

  1. Joie

อีกแบรนด์ในดวงใจของคุณพ่อคุณแม่ Convertible car seat จากแบรนด์ Joie รุ่น C1209 (Every stage) ออกแบบมาให้สามารถติดตั้งได้ทั้ง Forward-facing และ Rearward-facing ใช้งานได้ตั้งแต่เด็กทารกแรกเกิดจนกระทั่งน้ำหนัก 36 กิโลกรัม มีเบาะกันกระแทกด้านข้าง เบาะบุด้วยผ้ากำมะหยี่ นุ่มสบาย และมีโครงสร้างเสริมเหล็กเพิ่มความแข็งแรง มีระบบปรับปีกด้านข้างอัตโนมัติรองรับขนาดตัวเด็กได้หลายช่วงวัย มีสายรัดนิรภัย 5 จุด ผ่านมาตรฐานยุโรป ECE 44/04

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://th.joiebaby.com

รีวิวคาร์ซีท
ขอขอบคุณภาพจาก https://th.joiebaby.com/

 

  1. Nuna

Convertible car seat จากแบรนด์ Nuna รุ่น RAVA ติดตั้งง่ายด้วยการใช้เข็มขัดนิรภัยและใช้กับระบบ ISOFIX ได้เช่นกัน ใช้งานได้ตั้งแต่ทารกแรกเกิดจนอายุ 9 ปี หรือน้ำหนัก 30 กิโลกรัม เบาะนั่งกว้าง โครงสร้างแข็งแรง ปรับใช้งานได้ 3 รูปแบบตามช่วงวัย ได้รับมาตรฐาน Federal Motor Vehicles Safety Standard 213

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://nunababy.com/en/car-seats

รีวิวคาร์ซีท
ขอขอบคุณภาพจาก https://nunababy.com/

 

  1. RECARO

Booster cusion จากแบรนด์ RECARO รุ่น Young sport hero prime ติดตั้งง่ายด้วเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ ใช้งานได้ตั้งแต่เด็กอายุ 9 เดือน ถึง 12 ปี โครงสร้างด้านข้างป้องกันแรงกระแทกอย่างดี ผ่านมาตรฐานยุโรป ECE 44/04

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.recaro-kids.com

รีวิวคาร์ซีท
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.recaro-kids.com/
  1. GRACO

คาร์ซีทแบบ Booster cusion จากแบรนด์ GRACO รุ่น Airpop booster ติดตั้งง่ายด้วเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ ใช้งานได้ตั้งแต่เด็กอายุ 1 ปี ถึง 12 ปี เนื้อผ้าระบายอากาศได้ดี ไม่ร้อน อับชื้น นั่งสบายแม้จะเดินทางเป็นเวลานาน ปรับถอดพนักหลังออกได้เมื่อใช้กับเด็กโต น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก ผ่านมาตรฐานยุโรป ECE 44/04

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.gracobaby.com/

รีวิวคาร์ซีท
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.gracobaby.com/

 

  1. EMBIX

เป็น Forward-facing จากแบรนด์ EMBIX รุ่น C83 ติดตั้งด้วยระบบ ISOFIX ใช้งานได้ตั้งแต่เด็กอายุ 9 เดือน ถึง 12 ปี รองรับน้ำหนักสูงสุด 36 กิโลกรัม เบาะนั่งสบาย ลดแรงกระแทกตามด้านข้างได้เป็นอย่างดี โครงสร้างแข็งแรง มีรับประกัน 3 ปีตามเงื่อนไขบริษัท

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://web.facebook.com/embixthailand

รีวิวคาร์ซีท
ขอขอบคุณภาพจาก https://web.facebook.com/embixthailand

 

  1. EVENFLO

เบาะ Convertible car seat จากแบรนด์ EVENFLO รุ่น gold ใช้งานได้ตั้งแต่ทารกแรกเกิดถึง 12 ปี รองรับน้ำหนักสูงสุด 54 กิโลกรัม สายรัดนิรภัยแน่นหนาถึง 3 ชั้น แต่ล้อคได้ง่ายในเวลา 60 วินาที ตัวโครงสร้างแข็งแรง จะปรับเป็น Forward-facing หรือ Rearward-facing หรือจะปรับเป็น Booster cusion สำหรับเด็กโตก็ได้ ผ่านการทดสอบการกระแทกและพลิกคว่ำ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.evenflo.com

รีวิวคาร์ซีท
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.evenflo.com

 

จะเห็นได้ว่า มีคาร์ซีทหลากหลายแบรนด์และรุ่นในท้องตลาด ส่วนใหญ่ก็มีฟังก์ชัน ความเหมาะสมในการใช้งานแตกต่างกันออกไป คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกคาร์ซีทให้เหมาะสมกับการใช้งานและงบประมาณที่มี เพราะไม่ใช่ว่าของราคาแพงจะต้องดีกว่าเสมอไป เพื่อประโยชน์และสวัสดิภาพบนท้องถนนของลูกน้อยของคุณ อ่าน รีวิวคาร์ซีท กันจบแล้ว ลองเลือกแบรนด์ที่ใช่ แล้วหาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจกันดูนะคะ

ทั้งนี้หากคุณพ่อคุณแม่เตรียมวางแผนที่จะซื้อ คาร์ซีท แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเลือกหยิบจับดูของจริงได้ที่ไหน สามารถตามไปดูกันได้ที่งาน Amarin Baby & Kids Fair ครั้งที่ 22  ซึ่งได้รวบรวม คาร์ซีท หลากหลายแบบ หลายแบรนด์ให้เลือกมากมาย

✨รวมไปถึงสินค้าแม่และเด็กอื่นๆ อีกมากมาย พากันไปช้อปได้ตั้งแต่วันที่ 8-11 ก.ย. 65
⏰ เวลา 10.00 – 20.00 น. 📌 Hall 98-99  ไบเทค บางนา
❤️ แม่จ๋ากำเงินไว้.. มาช้อปแหลกเพื่อแม่ลูก ครบ ถูก ดี ยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้ง❗️
✨ ลงทะเบียนเข้างาน! รับฟรี 2 ต่อ 👉🏻 https://cooll.ink/abk22
💕 ต่อที่ 1 : รับฟรี! ชาม Amarin Baby & Kids Fair พร้อมผลิตภัณฑ์แม่-ลูก
💕 ต่อที่ 2 : ลุ้นรับฟรี! ของรางวัลเพื่อแม่ลูก จากกล่องสุ่มของใช้แม่ลูกและผลิตภัณฑ์จากอิเกีย มูลค่ารวมกว่า 300,000 บ.
.
สำหรับแม่ๆ ที่ช้อปผ่าน Lazada รับเพิ่มฟรี!
👉 จ่ายผ่านลาซาด้ารับคูปองลดเพิ่มสูงสุด 2,000.- (เฉพาะในงานนี้เท่านั้น)
👉 ของขวัญมากมายจากลาซาด้าและแบรนด์ชั้นนำ เมื่อช้อปภายในงาน (พบกันที่บูธ S16)
👉 คูปองสมาชิก LazMom Club ไว้ช้อปทุกเดือน
*เฉพาะแบรนด์และร้านค้าที่ร่วมงาน กว่า 100 ร้านค้า
.
💛 ลดจัดหนัก ไม่มีกั๊ก 4 วันรวด 🔥
💚 ยกขบวนสินค้าแบรนด์ดัง ดีลสุดโดน 🧸
💙 ยิ่งช้อปยิ่งคุ้ม รับสิทธิพิเศษเพียบ!! 🛍
📌 ในงาน Amarin Baby & Kids Fair ครั้งที่ 22
🚩 พบกัน วันที่ 8-11 ก.ย. 65 Hall 98-99 ไบเทค บางนา
⏰ งานเริ่ม 10.00 – 20.00 น.
🌱 มาที่นี่ครบ จบที่เดียว 💕 ครบทุกสิ่ง❗️ ครบทุกอย่าง❗️ ที่คุณต้องการ❗️
#ABK22 #AmarinBabyAndKidsFair22 #ไบเทคบางนา

 


ขอบคุณข้อมูลจาก

safetyhubs, eromman, sharingourexperiences, ideas9, pobpad

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

พาลูกนอกบ้าน เลือก รถเข็นเด็ก คาร์ซีทแบบไหน มั่นใจปลอดภัยชัวร์

เลือกซื้อ ติดตั้งคาร์ซีท อย่างไรให้เหมาะกับวัย ปลอดภัยกับลูกน้อย?

ไขข้อข้องใจให้คุณแม่ ทารกนั่งคาร์ซีทตั้งแต่แรกเกิด ปลอดภัยหรือไม่?

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up