อาการแพ้ท้อง

หมอรามาแนะเทคนิค! เอาชนะ “อาการแพ้ท้อง” แบบถูกต้อง

event
อาการแพ้ท้อง
อาการแพ้ท้อง

อาการแพ้ท้อง

ผลกระทบของการแพ้ท้องมากผิดปกติ

ในกรณีที่คุณแม่มีอาการแพ้ท้องไม่มากนัก มักไม่มีปัญหา โดยทั่วไปอาการแพ้ท้องจะเป็นมากในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ หลังจากนั้นอาการทั้งหลายจะค่อยๆดีขึ้น สามารถรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มได้มากขึ้น

คุณแม่ต้องสังเกตตัวเอง ถ้าน้ำหนักลดจากก่อนท้อง 4-5 กก. ขึ้นไป กินอะไรไม่ได้เลย ดื่มแต่น้ำก็ยังอาเจียน ควรไปพบสูติแพทย์ที่ฝากครรภ์ เพราะถ้าปล่อยไว้จะส่งผลเสีย คือ ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ ระบบต่าง ๆ ในร่างกายแปรปรวน อาจถึงขั้นไตวายได้

ช่วงแพ้ท้องที่คุณแม่ที่กินอาหารไม่ได้ ร่างกายจะไม่มีพลังงานก็จะดึงเอาไขมันที่มีอยู่ในร่างกายมาใช้ จนอาจเกิดภาวะความเป็นกรดในร่างกาย ทำให้ออกซิเจนในเลือดน้อยลง เรียกว่าภาวะแลคคีโตนซิส ทำให้ตัวอ่อนได้ออกซิเจนไม่เต็มที่ เพราะมีแต่ของเสียในอยู่ร่างกายค่ะ

แต่ในกรณีที่มีอาการแพ้ท้องมากผิดปกติ คุณแม่ตั้งครรภ์จะไม่สามารถรับประทานอาหารได้เพียงพอ และมีภาวะขาดน้ำด้วย แพทย์ต้องให้ความช่วยเหลือแก้ไขอาการที่แพ้มากเหล่านี้ เพราะหากปล่อยนานไป จะมีผลต่อสุขภาพของคุณแม่และทารกแน่นอน

แพ้ท้องน้อย-ไม่แพ้เลย อันตรายไหม?

คุณแม่ที่มีอาการแพ้น้อยหรือแทบไม่แพ้เลยอาจจะกังวลว่า แล้วแบบนี้เจ้าตัวเล็กจะแข็งแรงหรือเปล่า อันตรายมั้ย ตอบให้สบายใจว่าไม่อันตรายค่ะ ถ้าคุณแม่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่มีเลือดออกในช่วงตั้งครรภ์ ก็ถือว่าโชคดีที่คุณแม่แพ้น้อย หรือไม่แพ้เลย เพราะคุณแม่จะสามารถกินอาหารได้ปกติ และไม่ต้องทรมานกับอาการแพ้ท้อง

เพราะจริง ๆ แล้ว อาการแพ้ท้องจะมากหรือน้อยนั้นแล้วแต่คนค่ะ ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าทำไมจึงแพ้ไม่เท่ากัน สิ่งสำคัญคือคุณแม่ต้องทำใจสบายๆ อย่าเครียด บางคนอาการแพ้ท้องหายไปนานแล้ว แต่ยังดูเหมือนว่าแพ้อยู่เพราะความเครียด ความกังวลนั่นเองค่ะ

โดยปกติอาการแพ้ท้องจะหายไปในช่วงประมาณ 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ แต่ส่วนใหญ่ 90% อาการแพ้ท้องหายสนิทเมื่ออายุครรภ์ประมาณ 5 เดือน

ทั้งนี้อาการแพ้ท้องอาจเป็นกันได้ทุกคนแต่คุณแม่ไม่ต้องกังวลเรามีวิธีช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้อง ลองไปชมคลิป >> หมอรามาแนะนำ วิธีดูแลแม่ท้องที่ถูกต้อง เมื่อมีอาการแพ้ท้อง ได้ที่ด้านล่างนี้เลยค่ะ ⇓

ขอบคุณคลิปวีดีโอจาก : RAMA CHANNEL

อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!


ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.rakjung.com , www.vitamin24hr.com

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up