คุมน้ำหนักแม่ท้อง

คนท้องกินอย่างไรไม่ให้อ้วน กับ 9 วิธีคุมน้ำหนักตอนท้องให้ได้ผล

account_circle
event
คุมน้ำหนักแม่ท้อง
คุมน้ำหนักแม่ท้อง

คนท้องกินอย่างไรไม่ให้อ้วน คุมน้ำหนักตอนท้อง ยังไงไม่ให้มากเกินเกณฑ์  กลายเป็นเรื่องยากสำหรับแม่ท้องหลายคน เพราะความอยากอาหารมันรุมเร้า จะหยุดกินตามใจปากไม่ใช่เรื่องง่ายแถมยังกังวลว่า ถ้ากินไม่มากพอลูกอาจตัวเล็ก เติบโตไม่เต็มที่ กว่าจะรู้ตัวอีกทีน้ำหนักก็พุ่งพรวดจนคุณหมอสั่งเบรดไปคุมน้ำหนักด่วน

แม่ท้อง คุมน้ำหนักตอนท้อง ได้ไม่ดีเสี่ยงอันตรายทั้งตัวเองและลูกน้อย

คุมน้ำหนักแม่ท้อง

แม่ท้องทราบหรือไม่ว่า การกินมากเกินไปหรือเพิ่มการกินเป็น 2 เท่าเพราะมีอีกคนในท้องต้องกินด้วย ความจริงแล้ว ปริมาณอาหารที่มากเกินความต้องการของร่างกายกลับสะสมอยู่ในตัวแม่ และแม้จะรู้สึกว่า “ถ้าชั้นกินเยอะตอนท้องไม่ใช่เรื่องผิด เพราะยังไงน้ำหนักต้องขึ้นอยู่” น้ำหนักส่วนเกินนี้กลายเป็นต้นเหตุของโรคอ้วน ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ คลอดยาก และสุขภาพของลูกน้อยในครรภ์ เรื่องการ คุมน้ำหนักตอนท้อง ให้อยู่เกณฑ์เป็นสิ่งที่แม่ควรใส่ใจตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์

น้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับแม่ท้อง

ถึงจะมีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ในท้อง แต่ร่างกายขณะตั้งครรภ์ต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นเพียง 20 % จากตอนปกติเท่านั้น การกินมากเกินไปทำให้แม่อ้วนขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกๆ เดือน แม่ท้องจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองน้ำหนักมากเกินไปหรือยัง

หากแม่อยากรู้ว่าตัวเองตอนนี้ “น้ำหนักเกิน” จนต้องถึงเวลาคุมน้ำหนักตอนท้องหรือยัง สามารถวิธีการคำนวนดัชนีมวลกาย (BMI) ดังต่อไปนี้

                                 ดัชนีมวลกาย = น้ำหนัก(กิโลกรัม)

                                                              ส่วนสูง(เมตร)2

ตัวอย่าง  แม่ท้องน้ำหนัก 60 กิโลกรัม สูง 155 เซนติเมตร

ดัชนีมวลกาย  =             60_______

1.55 2

ดัชนีมวลกาย  =            25.39

เทียบผลลัพธ์ดูว่าน้ำหนักอยู่ระดับไหน

BMI 18.5 – 24.9    น้ำหนักปกติ      ควร คุมน้ำหนักตอนท้อง ให้อยู่ระหว่าง 11 – 15 กิโลกรัม

BMI 25 – 29.9        น้ำหนักเกิน        ควร คุมน้ำหนักตอนท้อง ให้อยู่ระหว่าง 6.7-11.2 กิโลกรัม

BMI มากกว่า 30      อ้วน                     ควร คุมน้ำหนักตอนท้อง ให้อยู่ระหว่าง 4.9-9.0 กิโลกรัม

คุมน้ำหนักแม่ท้อง

9 วิธีช่วยแม่คุมน้ำหนักตอนท้องให้ได้ผล

  1. ห้ามอดอาหาร แต่ให้เลือกกินแทน

พฤติกรรมการกินของแม่มีผลต่อพัฒนาการของลูกในท้อง การลดน้ำหนักที่นิยมกันทั่วไปอย่าง การอดอาหารบางมื้อ หรือการงดข้าวเย็น จึงไม่เหมาะสมกับแม่ท้อง และห้ามทำเป็นอันขาด แต่ควรหันมาใช้วิธีเลือกอาหารที่กินให้เหมาะสมแทน เพราะนอกจาก คุมน้ำหนักตอนท้องได้ดีแล้ว ตัวแม่และลูกน้องยังได้สารอาหารมีประโยชน์ครบถ้วนด้วย

  1. ควรปรึกษาแพทย์ก่อนคุมน้ำหนัก

โดยปกติแล้ว การลดน้ำหนักตอนท้องควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้ดูแลเท่านั้น แม่ไม่ควรตัดสินใจจากความรู้สึกเวลาส่องกระจกแล้วเป็นว่าตัวบวมขึ้น หรือใส่เสื้อผ้าตัวเดิมไม่ได้ เพราะต้องไม่ลืมว่าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา นอกจากนี้แพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการ คุมน้ำหนักตอนท้อง ที่ถูกต้องและไม่กระทบต่อสุขภาพของลูกน้อย

คุมน้ำหนักหลังคลอด

 3.รู้ก่อนว่าตัวเองต้องกินเท่าไรใน 1 วัน

ผู้หญิงที่มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติต้องการพลังงานอยู่ที่ 1900 – 2500 กิโลแคลอรีต่อวัน  เมื่อตั้งครรภ์จะต้องการพลังงานเพิ่มเฉลี่ย 300 กิโลแคลอรี่ ในช่วงไตรมาสที่ 2 -3 หรือเพียง 20 % เท่านั้น ยกเว้นกรณีที่น้ำหนักก่อนท้องน้อยหรือสูงกว่าเกณฑ์ หรือมีลูกแฝด จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน หลังจากแม่ท้องทราบแล้วว่าตัวเองควรกินเพิ่มอีกเท่าไร ก็สามารถจัดสรรอาหารในแต่ละวันได้เหมาะสมต่อไป

 4.เลี่ยงอาหารให้พลังงานสูง และของหวาน

อาหารจำพวกแป้งกินแล้วรู้สึกอิ่มท้อง แต่การกินแป้ง และของหวานที่ให้พลังงานสูงยิ่งทำให้น้ำหนักตัวแม่เพิ่มเร็วขึ้นด้วย แม่ท้องหลายคนชอบขนมหวาน เพราะกินแล้วรู้สึกสดชื่น มีแรง มีความสุข โดยเฉพาะช่วงแพ้ท้อง แต่น้ำหวาน ขนมหวาน หรือเบเกอรี่กลับเป็นเมนูที่ไม่มีสารอาหารที่ลูกน้อยต้องการ  แถมอาจทำให้แม่ท้องเสี่ยงต่อ ภาวะเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ ด้วย

เมนูที่แม่ท้องควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ น้ำอัดลม ของหวาน อาหารทอดน้ำมัน ชีสหรือนมสด (สูตรไม่พร่องไขมัน) เนื้อติดมัน คาเฟอีน แอลกอฮอล์ อาหารทะเลสด และของหมักดอง เป็นต้น

อ่าน เทคนิคการดูแลน้ำหนักแม่ท้องให้ได้ผล หน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

Summary
Review Date
Reviewed Item
คนท้องกินอย่างไรไม่ให้อ้วน กับ 9 วิธีคุมน้ำหนักตอนท้องให้ได้ผล
Author Rating
51star1star1star1star1star

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up