กินยาคุมแล้วมีลูกยาก กับความเชื่อที่แม่ควรรู้

Alternative Textaccount_circle
event

3.ยาคุมกำเนิดกับมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

จากงานวิจัยพบว่า คนกินยาคุมกำเนิด เป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกน้อยกว่าคนทั่วไป

4.ยาคุมกำเนิดกับมะเร็งปากมดลูก

นายแพทย์พูนศักดิ์ สุชนวณิช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติ-นรีเวช โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น ได้ให้ความรู้เอาไว้ว่า ภายในช่องคลอดจะมีความเป็นกรดอ่อนๆ เพื่อรับประทานยาคุมกำเนิดเข้าไป ฮอร์โมนจะเป็นด่างอ่อนๆ บางครั้งอาจมีการติดเชื้อ อักเสบได้ง่าย คุณแม่ที่รับประทานยาคุมไปนานๆ อาจมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูกสูง ยาคุมกำเนิดมีหลักฐานบ่งชี้ว่าทำให้มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้น แต่ปัจจัยเสี่ยงที่เด่นและชัดเจนกว่า คือการติดเชื้อไวรัส HPV

ความเชื่อเรื่องยาคุม5.ยาคุมกำเนิดกับมะเร็งตับ

นายแพทย์พูนศักดิ์ สุชนวณิช ชี้แจงว่า ยาคุมกำเนิดถูกออกแบบมาให้คุมในระยะเวลาสั้น 1-3 ปี การกินยาคุมนานๆ อาจทำให้มีการออกฤทธิ์ที่ตับ เพราะตับต้องกรองสารอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร หรือสารพิษ คุณแม่จึงควรกินยาคุมกำเนิดในระยะเวลาสั้นๆ

จากงานวิจัยหลายรายการพบว่า ยาคุมกำเนิด ยิ่งใช้นาน ยิ่งมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งตับมากขึ้น สำหรับผู้หญิงผิวขาว และผิวดำ แต่ไม่เพิ่มความเสี่ยงในผู้หญิงเอเชีย และอัฟริกา ซึ่งมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งตับสูงอยู่แล้ว

โดยปกติ ยาคุมกำเนิดมีผลชั่วคราว ไม่ควรกินติดต่อกันเกิน 5 ปี ถ้ามีความจำเป็นก็ไม่ควรเกิน 10 ปี และถ้าต้องการคุมกำเนิดถาวรควรเลือกการทำหมัน หรือใส่ห่วงคุมกำเนิดดีกว่า

กินยาคุมแล้วอารมณ์ทางเพศลดลง?

นายแพทย์พูนศักดิ์ สุชนวณิช กล่าวว่า จากการศึกษา และเก็บตัวอย่าง พบว่า อารมณ์ทางเพศเป็นความรู้สึก ซึ่งมีผลมาจากพื้นฐานทางครอบครัว หรือคู่สมรส ไม่เกี่ยวกับยาคุมแต่อย่างใด

เครดิต: นิตยสารชีวจิต, ผู้จัดการออนไลน์, นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

อ่านเพิ่มเติม คลิก!!

ยาคุมกำเนิด กับยาชนิดอื่น กินร่วมกันแล้วไม่ได้ผล

กินยาคุม ทำไมยังท้องได้

อึ้ง!! เด็กซื้อยาคุมกำเนิด กับผลข้างเคียงที่ตามมาในอนาคต

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Save

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up