อยากให้ลูกมีพัฒนาการดี

อยากให้ลูกมีพัฒนาการดี พ่อแม่ต้องทำ 5 สิ่งนี้ให้กับลูก!

Alternative Textaccount_circle
event
อยากให้ลูกมีพัฒนาการดี
อยากให้ลูกมีพัฒนาการดี

อยากให้ลูกมีพัฒนาการดี พ่อแม่จะต้องรู้ และต้องทำ 5 สิ่งดังต่อไปนี้!!

คุณพ่อคุณแม่ทุกท่านคะ  ไม่มีใครหรอกที่จะอยากให้ลูกของเรานั้นมีพัฒนาการที่ไม่ปกติ หรือไม่เป็นไปตามธรรมชาติของลูกในแบบที่ควรจะเป็น … ทุกคนต่างหยิบยื่นสิ่งดี ๆ ให้กับลูก ไม่ว่าจะเป็น การพาลูกไปเรียนพิเศษโรงเรียนแพง ๆ อย่างเช่น วิชาดนตรี ศิลปะ หรือเต้นรำ … ทุกกิจกรรมที่กล่าวมานั่นเป็นเรื่องดีค่ะ แต่อาจจะไม่ใช่สำหรับทุกครอบครัว เพราะยังมีบางครอบครัวที่อาจจะไม่พร้อมในเรื่องของการเงิน

ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลใจไปค่ะ เพราะวันนี้ทีมงาน Amarin Baby and Kids ได้นำเสนอข้อมูลวิธีการเสริมสร้างพัฒนาการให้กับลูกโดยที่อาจจะไม่ได้ใช้เงินเลยแม้แต่เพียงบาทเดียว หรือถ้าใช้จริงๆ ก็แน่นอนค่ะว่า ไม่แพงอย่างที่คิดเลยจริงๆ

อยากให้ลูกมีพัฒนาการดี
เครดิตภาพ: Telegraph

พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้กล่าวถึง การพัฒนาเด็กปฐมวัย ในช่วงอายุ 0-5 ปี คือโอกาสทองของการพัฒนาคุณภาพชีวิต รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาเด็กตั้งแต่ปฐมวัย ที่ครอบคลุมการดูแลเด็กตั้งแต่ในครรภ์และกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาเด็กปฐมวัยที่สอดคล้องกับพัฒนาการทุกด้าน อย่างไรก็ตามการเลี้ยงดูในบ้านเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับพัฒนาการของเด็กในวัยนี้

เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติที่ผ่านมานั้นทาง สสส.จึงร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและภาคีเครือข่าย จัดทำโครงการสิ่งเล็กๆ ที่สร้างลูก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้ผู้ปกครอง ได้เห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ให้แก่เด็กจากเรื่องใกล้ตัวที่ทำได้ง่าย ด้วยการใช้เวลาอยู่กับลูกผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น การอ่านนิทานให้ลูกฟัง หรือเล่นจ๊ะเอ๋กับลูก เป็นต้น

อยากให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวว่า จากข้อมูลผลสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย ปี 2558-2559 โดยองค์การยูนิเซฟประเทศไทย สำนักงานสถิติแห่งชาติ และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พบว่า ผู้ใหญ่ในครัวเรือน อย่างปู่ย่า ตายาย มีบทบาทสูงต่อการส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กในช่วงอายุ 3-5 ปีถึง 92.7% ขณะที่บทบาทของแม่ในการส่งเสริมการเรียนรู้อยู่ที่ 62.8% ตามด้วยบทบาทของพ่อ 34%

และที่น่าสนใจคือ พบว่าเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ที่เล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต เครื่องเล่นเกม สูงถึง 50% และเกือบ 7 ใน 10 ของเด็กอายุ 2 ปีขึ้นไป เล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเฉพาะเด็กใน กทม. และภาคใต้ ซึ่งการเล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตั้งแต่อายุยังน้อยอาจส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นได้

 

นอกจากนี้ยังพบช่องว่างของพัฒนาเด็กเล็กตามระดับการศึกษาของแม่และฐานะทางเศรษฐกิจ โดยพบว่า เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ที่มีหนังสือสำหรับเด็กอย่างน้อย 3 เล่ม มีเพียง 41.2% เท่ากับว่าอีก 59% มีหนังสือเด็กในบ้านไม่ถึง 3 เล่ม โดยเด็กที่ร่ำรวยมีหนังสือสำหรับเด็กในสัดส่วนที่มากกว่ากลุ่มที่ยากจนถึง 3 เท่า ดังนั้น

การเลี้ยงดูในบ้านเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับพัฒนาการของเด็กในวัยนี้ ซึ่งทุกครอบครัวมีต้นทุนไม่แพ้กันคือความรักความเอาใจใส่ เครื่องมือสิ่งเล็กๆที่สร้างลูก จึงถูกออกแบบจากสิ่งใกล้ตัว ง่าย ๆ ช่วยส่งเสริมพัฒนาการลูกได้ ด้วยอุปกรณ์ราคาศูนย์บาท

นอกจากนี้ แพทย์หญิงจิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ยังได้กล่าวว่า พัฒนาการที่ดีเริ่มต้นที่พ่อแม่และผู้ปกครอง จึงไม่อยากให้กังวลว่าการที่ลูกจะมีพัฒนาการที่ดีจะต้องลงทุนด้วยเงินจำนวนมากหรือมีเวลาที่มาก แต่มีจุดเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ ใกล้ตัวในชีวิตประจำวัน ด้วยกิจกรรมธรรมดาที่เติมความรัก ความเข้าใจ ความเอาใจใส่และความสม่ำเสมอในทุกๆ วัน

อยากให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี

5 ข้อต้องทำ หาก อยากให้ลูกมีพัฒนาการดี

  1. หยุดหยิบยื่นมือถือให้ลูก หากคุณพ่อคุณแม่คิดว่า การที่ใช้มือถือ ช่วยเสริมพัฒนาการทางด้านต่าง ๆ ให้กับลูกนั้น ก็ไม่ผิดค่ะ แต่คุณพ่อคุณแม่จะต้องไม่ลืมคำนึงถึงวัยของลูก และสุขภาพของลูกด้วย เด็กบางคน คุณพ่อคุณแม่ให้เล่นมือถือตลอดเวลา โดยคิดว่าให้ลูกเล่นมือถือก็ดี ลูกนิ่ง ไม่กวนนั้น เป็นความคิดที่ผิดพลาดมาก ๆ เลยละค่ะ จริงอยู่นะคะ ที่ลูกไม่ซน ทำให้เรามีเวลามากขึ้น … แต่ในทางกลับกัน ก็เป็นการทำลายสุขภาพของลูกเพิ่มมากขึ้นไปด้วย
  2. พาลูกไปเรียนรู้สิ่งแวดล้อมนอกบ้าน คำว่า นอกบ้าน ที่ว่านี้ไม่ได้หมายความถึงการที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องพาลูกไปสถานที่แพงๆ นะคะ แค่เดินอยู่รอบบ้าน ชี้ให้ลูกดูนก หรืออาจจะเล่นเกมทายก้อนเมฆ เท่านี้ก็เป็นการช่วยกระตุ้นพัฒนาการของลูกได้ไม่ยากแล้วละค่ะ
  3. ชวนลูกทำงานบ้าน การที่ให้ลูกช่วยทำงานบ้าน ยกตัวอย่างเช่น การกวาดบ้าน ก็ถือเป็นการช่วยกระตุ้นให้ลูกได้มีพัฒนาการได้ด้วยเช่นกัน โดยที่คุณแม่ไม่ต้องกลัวว่า ลูกจะกวาดไม่สะอาด เพราะมันเป็นเช่นนั้นแน่นอนค่ะ … แต่สิ่งที่คุณแม่จะได้นั้นก็คือ ลูกสามารถใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก กล้ามเนื้อมือมัดใหญ่ของเขาได้ดีขึ้น อีกทั้งยังรู้จักสังเกตว่าตรงไหนที่สกปรกบ้าง เป็นต้น
  4. อ่านนิทานให้ลูกฟัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืน เพียงคุณพ่อคุณแม่เลือกนิทานที่เหมาะสมกับวัยของลูก และเล่าให้ลูกได้ฟังก่อนนอนทุกคืน เชื่อไหมคะว่า สิ่งที่ลูกได้รับนั้น มันมีค่าและมีความหมายมากจริง ๆ ที่สำคัญยังถือเป็นการปลูกฝังให้ลูกรักการอ่านอีกด้วยนะคะ
  5. ชวนลูกคุย ไม่ต้องกลัวว่าลูกจะเหนื่อย หรือเบื่อกับการถามคำถามหรือการที่เราพูดกับเราเลยค่ะ เพราะยิ่งเราพูดคุยกับเขามากขึ้นเท่าไรลูกก็ได้คำศัพท์มากมายจากคุณพ่อคุณแม่มากเท่านั้น

และนอกจากทั้ง 5  ข้อที่ได้กล่าวมานั้น จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการให้กับลูกแล้ว ยังถือเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างคุณพ่อคุณแม่และลูกได้อีกด้วยนะคะ

เครดิต: HFocus

อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up