คลายเครียดให้ตัวเล็กขี้กังวลวัย 3-6 ขวบกันเถอะ

Alternative Textaccount_circle
event

ทุกครั้งที่เด็กชายแมทธิว วัย 5 ขวบ มีแผลแม้แค่เล็กจิ๊ด เขาต้องร่ำร้องขอให้พันผ้าพันแผลทุกครั้ง “ฉันต้องเสียเวลาครึ่งวันทำให้แกเชื่อว่า แผลแค่นี้ไม่ทำให้นิ้วขาด” คุณแม่เมลิสาเล่า เธอใช้เทคนิคชมลูกว่า เขาเข้มแข็งเหมือนแบทแมน แต่คุณแม่คนเก่งก็ต้องคิดหามุกใหม่ เพราะแมทธิวมีเรื่องกังวลนับร้อยแปด

สำหรับเด็กวัยเรียน ทุกสิ่งดูน่าหวาดหวั่นไปหมด ตั้งแต่ “เอเลียนที่ซ่อนอยู่ใต้เตียง” ไปจนถึง “ถ้าหนูเผลอกลืนเม็ดแตงโมลงไป มันจะงอกในท้องไหม” เลยทีเดียว เมื่อถึงวัยนี้ หนูๆ เข้าใจโลกมากกว่าตอนอยู่ชั้นอนุบาลเยอะ พวกเขารู้ว่ามีคนน่ากลัวเดินไปเดินมาอยู่ข้างนอก และรู้ว่าคนเรามีเจ็บมีตายกันได้ นอกจากนี้ภาพยนตร์ หนังสือ รวมถึงการ์ตูนที่เด็กๆ อ่านยังหลากหลายขึ้น จินตนาการเลยพลอยกว้างไกลตามไปด้วย ถึงแม้ว่าตอนนี้อาการเหล่านั้นจะยังไม่ปรากฏ แต่ความกังวลก็ยังฝังลึก รอเวลาที่จะผุดขึ้นมาในตอนกลางดึกหรือช่วงที่พวกแกเครียด เช่น ตอนเลื่อนชั้นเรียนหรือคุณแม่จะมีน้องใหม่

สิ่งที่ต้องทำไม่ใช่การโอ๋ลูกจนหลับทุกคืน เพราะนั่นไม่ทำให้ความกลัวหายไปอย่างแท้จริง เด็กๆ ควรเรียนรู้ที่จะรับมือกับความกังวลและเพิ่มความมั่นใจให้ตนเองโดยมีพ่อแม่เป็นผู้ช่วย หากเขานอนไม่หลับเพราะกลัวผี ลองหัดให้เขาสวดมนต์ ทำสมาธิ หรือหายใจเข้าออกช้าๆ ลึกๆ และถ้าเขามีเรื่องสงสัย (เช่น กลืนเม็ดแตงโมเข้าไปแล้วจะงอกในท้องไหม) พ่อแม่ก็ไม่ควรเอาแต่บ่นว่า “ไร้สาระ” แต่ต้องช่วยตอบคำถามนั้นตามข้อเท็จจริงอย่างมีเหตุผล

แต่หากความกังวลเหล่านั้นชักจะเนิ่นนาน หรือรุนแรงเกินไปจนลูกไม่ยอมไปโรงเรียนหรือมีปัญหานอนไม่หลับ อาจมีสาเหตุที่มากกว่าแค่ความกลัว คงต้องรีบปรึกษาคุณครูและตรวจดูว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังแล้วล่ะค่ะ

 

บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up