เจ้าหนูจอมสั่ง (เสียงดังเกินไปแล้วนะ!)

Alternative Textaccount_circle
event

ก็ตั้งแต่เริ่มพูดจาคล่องปร๋อแล้วหนูๆ ก็ไม่เคยหยุดถามเราเลยนี่นา แถมยิ่งนับวันความเก่งกาจที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งทำให้เจ้าตัวเล็กเริ่มเรียนรู้ว่าตัวเองสามารถควบคุมสิ่งต่างๆ รอบกายได้อย่างสนุกสนาน และยังขยันบริหารพลังที่เขาเพิ่งค้นพบซะด้วย ถึงเวลานี้คุณแม่อย่างเราก็งานเข้ากันไปตามระเบียบ

 
ช่วงเวลาที่เขาชี้นิ้วสั่งดั่งเราเป็นทาส (ที่เรายอมเป็นโดยไม่มีข้อกังขา) ไม่ว่าจะเป็น “เอาตุ๊กตาเจ้าหญิงมาให้หนูเดี๋ยวนี้นะ!” “หนูจะเอาขนมปังที่ไม่มีผักเลย!” หรือ “แก้วสีเขียวของหนูอยู่ไหน หนูจะเอา!” พร้อมกับหน้าตาบูดบี้ชวนโมโหที่ชวนให้เราอยากเสียจริตมากที่สุด หลายครั้งอาจพบว่าตัวเองยอมทำตามคำสั่งนั้นอย่างไร้สติ ไม่ว่าแก้วสีเขียวหรือตุ๊กตาเจ้าหญิงก็มาปรากฏกายต่อหน้าลูกได้ภายใน 5 วินาที

 
แต่ต้องระวังนะคะ หากเจ้าตัวเล็กเคยชินกับการถูกตามใจภายใต้คำขอที่ไม่น่าฟังแบบนี้แล้ว เมื่อเขาโตขึ้น การสอนให้พูดเพราะๆ อาจจะกลายเป็นเรื่องยากก็ได้

 
• การปลูกฝังสิ่งที่ถูกต้องอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ถ้าเขาลืมพูดคำว่า “ขอหน่อยนะคะ” หรือ “นะครับ” เราต้องเตือนเขาเดี๋ยวนั้น ถ้าเขาเอ่ยปากเบาๆ อยู่ในลำคอ เราต้องบอกไปเลยว่า “หนูจะพูดว่าอะไรนะคะ คุณแม่ไม่ค่อยได้ยินเลย”

 
• เด็กในวัยนี้ยังไม่เข้าใจเรื่องของระบบเวลาหรอกค่ะ การบอกเขาว่า “รอแม่สัก 2 นาทีสิลูก” ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย สิ่งที่เขาต้องการคือคำอธิบายที่เป็นรูปธรรมชัดเจน อย่างเช่นบอกว่า “พอเราเข้าไปในห้องนอนแล้ว แม่ถึงจะอ่านนิทานเล่มโปรดของหนูให้ฟังนะคะ”

 
• ถ้าเราไม่สามารถให้สิ่งที่ลูกต้องการได้ในขณะนั้น ลองเสนอทางเลือกที่ไม่แย่เกินไปนักสำหรับทั้งเราทั้งคู่ บอกลูกว่า “หนูกินคุกกี้ได้จ้ะ แต่ต้องหลังอาหารมื้อเย็นแล้วนะ” วิธีนี้ช่วยให้ลูกไม่รู้สึกเสียความมั่นใจในตัวเองและยังป้องกันสงครามย่อยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ด้วย ด.ช.สุริยวงศ์ เอกพจน์

 

 

บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up