บางคนอาจจะเคยเห็นว่าคะแนน SAT MATH เป็นหนึ่งในเกณฑ์การรับสมัครเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วการสอบ SAT MATH คืออะไรและมีข้อสอบแบบไหนบ้าง ดังนั้นในบทความนี้จึงได้รวบรวมข้อมูลสำคัญของการสอบ SAT MATH มาฝากน้อง ๆ ทุกคนกันจะมีข้อมูลอะไรน่าสนใจบ้างไปติดตามกันเลย
ทำความรู้จัก SAT MATH ข้อสอบคณิตศาสตร์ของคนที่อยากโกอินเตอร์
SAT MATH คือข้อสอบส่วนหนึ่งของการสอบ SAT โดย SAT MATH เป็นข้อสอบภาษาอังกฤษที่ใช้วัดความถนัดด้านคณิตศาสตร์ มีเนื้อหาที่ครอบคลุมตั้งแต่คณิตศาสตร์ชั้นมัธยมต้นไปจนถึงคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมปลาย มีคำถามทั้งหมด 58 ข้อและมีคะแนนเต็ม 800 คะแนน โดยปัจจุบันการสอบจะเป็นลักษณะ Digital SAT MATH คือสามารถสอบผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้แล้ว
ข้อสอบ SAT MATH จะประกอบไปด้วยเนื้อหา 4 ส่วน ได้แก่ Heart of Algebra หรือความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับพีชคณิต, Problem Solving and Data Analysis การแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวันด้วยความรู้ด้านคณิตศาสตร์, Passport to Advanced Math หรือการวิเคราะห์ แก้ไขและสร้างสมการและสุดท้าย Additional Topics หรือเนื้อหาด้านเรขาคณิต
ข้อสอบ SAT MATH มีกี่แบบ เช็กคำตอบได้ที่นี่
ข้อสอบ SAT MATH จะประกอบไปด้วยข้อสอบ 2 ประเภท คือ Calculator และ No Calculator ซึ่งข้อสอบแต่ละประเภทจะมีเงื่อนไขการสอบแบบใดบ้างเราไปดูข้อมูลกันเลย
1. SAT Math Test – Calculator
Calculator เป็นข้อสอบ SAT MATH ที่สามารถใช้เครื่องคิดเลขในการทำข้อสอบได้ โดยจะมีข้อสอบทั้งหมด 38 ข้อ ให้เวลาทำข้อสอบ 55 นาที ข้อสอบในส่วนนี้จะเป็นรูปแบบเลือกตอบ 30 ข้อ และเติมคำ 8 ข้อ
SAT MATH เป็นการสอบที่จำเป็นสำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการจะเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รวมไปถึงหลักสูตรนานาชาติในมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วการเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรนานาชาติมักจะใช้คะแนน SAT เป็นเกณฑ์ในการพิจารณารับเข้าศึกษาต่อด้วย
นอกจาก SAT MATH จะจำเป็นสำหรับการศึกษาต่อหลักสูตรนานาชาติในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยแล้ว การศึกษาต่อต่างประเทศก็จำเป็นจะต้องใช้คะแนน SAT MATH เช่นกัน โดยแต่ละมหาวิทยาลัยก็จะมีเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำที่แตกต่างกันไปและในบางมหาวิทยาลัยอาจจะพิจารณาคะแนน SAT MATH ร่วมกับการสอบเขียน Essay ด้วย ดังนั้นก่อนการสมัครสอบจึงควรต้องศึกษารายละเอียดการรับสมัครให้ดี
แนะนำเทคนิคการเตรียมตัวก่อนสอบ SAT MATH ให้ได้คะแนนตามเป้า!
หลังจากได้รู้รายละเอียดของการสอบ SAT MATH กันไปแล้ว คงจะมีน้อง ๆ หลายคนที่กังวลว่าจะได้คะแนนไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ แต่อย่าเพิ่งกลัวกันไปเพราะในบทความนี้ได้รวบรวมเทคนิคการเตรียมตัวสอบ SAT MATH มาให้น้อง ๆ ได้ฝึกฝนและเตรียมตัวกันก่อนเข้าห้องสอบ จะมีเทคนิคอะไรบ้างไปดูกันเลย
ฝึกฝนการใช้เครื่องคิดเลข เนื่องจากข้อสอบ SAT MATH นั้นมีพาร์ทที่อนุญาตให้ใช้เครื่องคิดเลขในการทำข้อสอบได้ ดังนั้นหากเรามีความคุ้นชินกับการใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ บนเครื่องคิดเลขก็จะช่วยให้เราสามารถทำข้อสอบในพาร์ทนี้ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ทำความเข้าใจโจทย์ จากหัวข้อที่สำคัญที่สุดไปยันหัวข้อที่สำคัญน้อยที่สุด โดยเนื้อหาที่มีจำนวนข้อมากที่สุดในข้อสอบ SAT MATH นั้นคือ Heart of Algebra หรือ พีชคณิต โดยมีจำนวนมากถึง 19 ข้อจากทั้งหมด 58 ข้อ ถือเป็น 33% ของข้อสอบ ดังนั้นหากเราเข้าใจโจทย์และเนื้อหาในส่วนนี้ก็จะสามารถเก็บคะแนนส่วนใหญ่ของการสอบได้
เลือกติว SAT MATH และฝึกทำข้อสอบเสมือนจริง เพราะการติว SAT MATH จะช่วยให้น้อง ๆ ทราบเนื้อหาที่มีอยู่ในข้อสอบโดยละเอียดและยังช่วยเพิ่มเทคนิคการทำข้อสอบในแต่ละหัวข้อได้ด้วย นอกจากนี้การฝึกทำข้อสอบเสมือนจริงโดยไม่ใช้มือถือหรือคอมพิวเตอร์ช่วยหาข้อมูลจะช่วยให้เราคุ้นเคยกับสนามสอบและยังสามารถหาจุดอ่อนในการทำข้อสอบของตัวเองได้อีกด้วย
เลือกติว SAT MATH ที่ไหนดีที่จะช่วยอัปคะแนนสอบพร้อมเข้ามหาลัยในฝัน
การเลือกติว SAT MATH ถือเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่จะช่วยให้คะแนนสอบของเราเป็นไปตามที่คาดหวังไว้ ดังนั้นการเลือกสถาบันที่จะมาช่วยเราเตรียมความพร้อมในการติว SAT MATH จึงเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้การเตรียมตัวด้านอื่น ๆ โดยการเลือกสถาบันติวสอบ SAT MATH นั้นควรจะเลือกจากสถาบันที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการติวสอบ SAT MATH และควรจะต้องพิจารณาหลักสูตรและรูปแบบการสอนด้วยว่าเหมาะกับสไตล์การเรียนของเราหรือไม่
อ่านมาจนถึงตรงนี้ใครที่กำลังเตรียมตัวติวสอบ SAT MATH แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกติว SAT MATH ที่ไหนดี EngSnack ถือเป็นอีกหนึ่งสถาบันที่น่าสนใจ เพราะนอกจากคอร์สเรียน SAT MATH ของ EngSnack จะถูกออกมาเพื่อให้เข้ากับสไตล์การเรียนของน้อง ๆ แต่ละคนแล้ว EngSnack ก็ยังเป็นสถาบันติวสอบ SAT MATH ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 5 ปีและทำให้น้อง ๆ หลายคนได้คะแนน Top Score กันมาแล้ว ใครที่สนใจคอร์สเรียนหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถทักไปหาพี่ ๆ ที่เว็บไซต์ของ EngSnack กันได้เลย
โรงเรียนนกฮูกวิช ใช้หลักสูตรการเรียนการสอนจากประเทศสหรัฐอเมริกาและยังเป็นสมาชิกขององค์กร NAEYC หรือ The National Association for the Education of Young Children องค์กรปฐมวัยของรัฐบาลประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ไม่แสวงหากำไร การเป็นสมาชิกขององค์กรทำให้โรงเรียนได้รับการอบรมรวมไปถึงหลักสูตรการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ ที่เน้นการบูรณาการหลักสูตรปฐมวัย บนหลักการพัฒนาเด็กสากล ช่วยกระตุ้นทักษะความคิด การคัดกรอง ความฉลาดเลือก การควบคุมตนเอง self direct ทักษะการแสวงหาคำตอบ และการคิดแก้ปัญหาให้กับนักเรียน ตามแนวทางการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21
นายฌ็อง–ดาวิด คริสติญอง อาเรล รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า “The Kia Carnival ได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนานในด้านระบบความปลอดภัยขั้นสูง สมรรถนะการขับขี่ และความสะดวกสบายที่เหนือระดับ รวมถึงการเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่ตอบสนองทุกกิจกรรมของครอบครัว โดยจากอินไซต์ของลูกค้าเกีย พบว่ามีจำนวนกลุ่มคุณแม่ที่ขับ The Kia Carnival เพิ่มมากขึ้น โดยคุณแม่กลุ่มนี้เป็นคุณแม่ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลลูก ร่วมใช้เวลาและสร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกๆ และสำหรับลูกๆ แล้ว แม่คือซูเปอร์ฮีโร่ตัวจริงในชีวิตประจำวันที่สามารถจัดการทั้งงาน ครอบครัว และกิจกรรมของลูกๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม และนี่คือเหตุผลที่ทำให้เกียเปิดตัวแคมเปญ ‘The Kia Carnival Wonder MOM รถคันนี้ ที่ได้ใจแม่’ ภายใต้แนวคิด ‘เพื่อแม่…ที่เป็นได้มากกว่า’ เพราะบริษัทเชื่อว่าเหล่าคุณแม่คือส่วนสำคัญที่สามารถช่วยเชิญชวนและชักจูงลูกค้าในอนาคตให้เลือกใช้รถ The Kia Carnival ซึ่งเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ MPV ขนาดใหญ่ที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัว นอกจากนี้ยังได้ยังเชิญคุณแม่คนดัง อย่าง พลอย-ชิดจันทร์ และลูกๆ รวมถึงอินฟลูเอนเซอร์สายครอบครัว อย่าง คุณแม่ยูกับน้องมาร์ติน จากเพจ Mama.Martin, คุณแม่การ์ตูนกับน้องมาตา จากเพจแม่จ๋าๆ พามาตาไปเที่ยวหน่อย และอินฟลูเอนเซอร์อีกกว่า 50 คน มาร่วมสร้างและแบ่งปันเรื่องราวอันน่าประทับใจกับแคมเปญทดลองขับ The Kia Carnival ในครั้งนี้”
โดยแคมเปญนี้เปิดโอกาสให้คุณแม่ได้สร้างโมเมนต์สุดประทับใจ เซอร์ไพรส์ลูกๆ กับธีมรถสุดคิวท์ที่ถูกตกแต่งขึ้นมาเป็นพิเศษ ด้วยการนำ The Kia Carnival ที่ถูกตกแต่งด้วย 3 ธีมสุดโปรดของเด็กๆ ได้แก่ “ธีมเจ้าหญิงหิมะ” “ธีมนางเงือก” และ “ธีมซูเปอร์ฮีโร่” ไปเป็นรถยนต์คู่ใจสร้างเซอร์ไพรส์สุดว้าวรับลูกจากโรงเรียนหรือจากสถานที่ใดก็ได้ พร้อมรับตุ๊กตาลิขสิทธิ์ดิสนีย์หลังจากเสร็จสิ้นการทดลองขับ สำหรับผู้ที่สนใจทดลองขับ The Kia Carnival สามารถลงทะเบียนได้ที่ http://www.kia-wondermom.comตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน ถึง 31 กรกฎาคม 2567 พร้อมเลือกโชว์รูมที่สะดวกรับรถ ธีมรถ และวันและเวลาที่ต้องการ โดยทางบริษัทจะนำส่งรถทดลองขับให้ถึงที่บ้านหรือตามสถานที่ที่ระบุเพื่อความสะดวกของลูกค้า
พิเศษไปกว่านั้น สำหรับผู้ที่จอง The Kia Carnival (รุ่น LX, EX, SXL, and SXL Luxury) ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึง 31 กรกฎาคม 2567 และออกรถยนต์ภายในวันที่ 30 กันยายน 2567 มีสิทธิ์ลุ้นเป็นผู้โชคดีรับรางวัลสุดพิเศษ ได้แก่ รางวัลที่ 1 แพ็กเกจเที่ยวสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สำหรับ 4 คน จำนวน 1 รางวัล, รางวัลที่ 2 บัตรกำนัลห้องพักกับห้อง Space Connex รวมอาหารเช้า ณ โรงแรม The Grande Centre Point Space Pattaya 3 วัน 2 คืน สำหรับเข้าพัก 4 คน จำนวน 3 รางวัล และรางวัลที่ 3 คอร์สเรียนขี่ม้า พร้อมอาหารมื้อพิเศษกับครอบครัวที่ร้าน The Hay – Equestrian Center & Eatery ครอบครัวละ 4 ใบ จำนวน 10 รางวัล โดยจับรางวัลผู้โชคดีในวันที่ 8 สิงหาคม 2567 และประกาศรายชื่อผู้โชคดีในวันที่ 9 สิงหาคม 2567 ผ่านช่องทางเพจเฟสบุ๊กทางการของ เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) นอกจากนั้นยังมีรางวัลพิเศษสำหรับคุณแม่ 150 ท่านแรกที่โพสต์ภาพกิจกรรมทดลองขับ The Kia Carnival และติดแฮชแท็ก #KiaWonderMOM ใต้โพสต์กิจกรรมบนเพจเฟสบุ๊กทางการของเกีย เซลส์ (ประเทศไทย) และบนเฟสบุ๊กส่วนตัว โดยเปิดโพสต์สาธารณะ ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน ถึง 31 กรกฎาคม 2567 รับทันทีบัตรของขวัญสตาร์บัคส์ มูลค่า 300 บาท
The Kia Carnival รถยนต์เอ็มพีวีระดับลักซ์ชัวรี ซึ่งเป็น Grand Utility Vehicle ที่ได้รับการออกแบบให้เหมาะกับทุกครอบครัว มอบประสบการณ์การเดินทางระดับพรีเมียม โดดเด่นในด้านความอเนกประสงค์ที่ผสานนวัตกรรมพื้นที่ใช้สอยความสะดวกสบาย คุณภาพ และสไตล์อันโดดเด่นไว้ด้วยกันได้อย่างเหนือชั้น มีให้เลือกทั้งแบบ 11 ที่นั่ง ใน 3 รุ่นย่อย คือ The Kia Carnival LX, The Kia Carnival EX และ The Kia Carnival SXL และรุ่นใหม่ 7 ที่นั่ง ในรุ่น The Kia Carnival SXL Luxury เหมาะกับครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกในครอบครัว 5-7 คน โดย The Kia Carnival มอบพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวางและให้ความยืดหยุ่นกับการออกแบบการจัดวางที่นั่ง โดยไม่สูญเสียเนื้อที่หรือลดทอนความสบายของผู้โดยสารคนใด สำหรับในรุ่น SXL Luxury เบาะโดยสารแถวที่สองมาพร้อมที่นั่งแบบ Premium Relaxation ที่สามารถปรับนอนได้ พร้อมระบบทำความร้อนและระบายอากาศ พนักพิงและที่พักเท้าแบบปรับด้วยไฟฟ้า สะดวกสบายให้ความรู้สึกแบบที่นั่งเฟิร์สคลาสช่องทางเดินระหว่างแถวที่นั่งในห้องโดยสารถูกออกแบบมาให้ผู้โดยสารสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระและสะดวกสบาย รวมถึงที่นั่งแถวหลังสุดที่สามารถพับราบเพิ่มความอเนกประสงค์ในการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น มาพร้อมประตูสไลด์แบบไฟฟ้าระบบ Smart power Sliding door และฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (เปิด-ปิดอัตโนมัติ) ด้วยระบบ Smart power tailgate ที่ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเดินเข้าที่นั่งแถวหลังได้อย่างสะดวกสบาย และสามารถเปิดท้ายรถได้อย่างง่ายดายในขณะที่ถือสัมภาระ The Kia Carnival มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล Smartstream ขนาด 2.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 202 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร สามารถขับขี่เป็นระยะทางไกลได้โดยไร้ข้อกังวล นอกจากนี้ยังมีระบบการควบคุมการขับขี่ที่ช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายเหมือนขับรถยนต์นั่งโดยสารทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทัศนวิสัย ตำแหน่งที่นั่ง รวมถึงระบบกันสะเทือนและระบบควบคุมพวงมาลัยที่ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างนุ่มสบาย
สำหรับผู้ที่สนใจทดลองขับรถยนต์ The Kia Carnival และร่วมสนุกกับกิจกรรมในแคมเปญ “The Kia Carnival Wonder MOM รถคันนี้ ที่ได้ใจแม่” สามารถลงทะเบียนทดลองขับได้ที่ http://www.kia-wondermom.com
ช่วงนี้เด็ก ๆ เปิดเทอมกันแล้ว คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่าน น่าจะกำลังมองหาโรงเรียนหรือสถาบันสอนพิเศษให้กับเด็ก ๆ กันอยู่ วันนี้ School Visit เลยอยากพาทุกคนมาเยี่ยมชมโรงเรียนสอนพิเศษ MC Academy ย่านปทุมวัน ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการสอนวิชาคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษเป็นพิเศษ จุดเด่นและแนวทางการสอนของโรงเรียนจะเป็นอย่างไร วันนี้เราจะพาไปดูกันค่ะ
MC Academy เป็นโรงเรียนสอนพิเศษที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Marshall Cavendish Education บริษัทที่มีความชำนาญในด้านการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน จากประเทศสิงคโปร์ และมีชื่อเสียงยาวนานมากว่า 50 ปี นอกจากนี้ยังมีตัวแทนจำหน่ายสื่อการเรียนการสอนกว่า 90 ประเทศทั่วโลก ทั้งในรูปแบบของสิ่งพิมพ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์
โรงเรียนสอนพิเศษ MC Academy เปิดเมื่อปลายปี พศ.2566 ปัจจุบันเปิดสอนวิชาคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นวิชาที่มีความสำคัญและผู้ปกครองส่วนใหญ่ให้ความสนใจ โดยสอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
มุมต่างๆ ภายในโรงเรียน
Singapore Math
คุณพ่อคุณแม่รู้หรือไม่ว่า ประเทศสิงคโปร์นั้นประสบความสำเร็จในการพัฒนาทักษะด้านคณิตศาสตร์ของนักเรียนมาอย่างยาวนาน วิธีการสอนคณิตศาสตร์แบบสิงคโปร์ จะเปลี่ยนจากการท่องจำไปเป็นการทำความเข้าใจและถูกนำไปประยุกต์ใช้ในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ที่ โรงเรียน MC Academy นำเอาเทคนิคการสอนต่าง ๆ เหล่านี้ มาช่วยพัฒนาทักษะด้านคณิตศาสตร์ของเด็ก ๆ ให้ดียิ่งขึ้น โดยสอนตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษา แต่ใช้วิธีการสอนและหลักการในรูปแบบ Singapore Math หลักสูตรต่าง ๆ ถูกคิดค้นมาอย่างดีโดยผู้เชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์จากประเทศสิงคโปร์ หลักสูตรเหล่านี้จะช่วยเสริมทักษะและกระบวนการคิดให้เด็กไทยได้คิดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
ความสะอดาดและความปลอดภัยของชั้นเนอสเซอรี่ดีเยี่ยม เพราะมีเครื่องฟอกอากาศ เครื่องใช้ เครื่องนอนของเด็กๆ – ทางโรงเรียนเป็นผู้ดูแลความสะอาดเพื่อให้ได้ตามมาตรฐาน และมีพยาบาลวิชาชีพ 2 คน แบบ Full time เพื่อดูแลนักเรียนแบบ Active เชิงรุก
หลักสูตรเฉพาะของทางโรงเรียนเป็นการผสมผสานระหว่าง British Curriculum ( Early Years Foundation Stage หรือ EYFS ) กับแนวคิดเรกจิโอ เอมิเลีย โดยใช้การเล่นเป็นการเรียนรู้ผ่านการปฏิสัมพันธ์กับ surrounding ของเด็ก ๆ ตามรูปแบบของเรกจิโอนั่นเองค่ะ
EYFS ให้ความสำคัญกับ 5 ปีแรกของเด็กๆ เพราะเป็น “ The part of Growing up ”
Communication and Languages หรือ ภาษาและการสื่อสาร
Physical Development หรือ การพัฒนาทางกายภาพ (กล้ามเนื้อ – ร่างกาย)
Personal + Social Emotional Development หรือ พัฒนาการทางอารมณ์ของตนเองและต่อสังคม
ที่ Thinkberry จัดการเรียนการสอนเป็น THEME BASED โดยการใช้ Natural Resource เช่น Theme : Spring Garden and Wonderful Creators, Theme : Plants and Flowers หรือ Theme : I can be anything เป็นต้นค่ะ
Celebrate the friend’s birthday month พร้อมการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษไปในตัว
ผีเสื้อจากวัสดุรักษ์โลก
เด็กๆเริ่มต้นตั้งแต่เตรียมดินเลยนะคะ
สร้างผลงานในกิจกรรม Love and Care ช่วงวันแห่งความรัก
Development of Movement หรือพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวทั้งร่างกาย การทำงานประสานกันระหว่างตาและมือ ฝึกกล้ามเนื้อมัดใหญ่ มัดเล็ก ผ่านการเล่น, กิจกรรมแนวมอนเตสซอรี่ และการใช้ชีวิตในโรงเรียน
Language ภาษา รู้จักการแยกเสียง คำศัพท์ จากทั้งการสื่อสาร นิทาน ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
Development of the Senses กิจกรรมที่ต้องใช้ประสาทสัมผัสต่าง ๆ
Fundamental Life Skills การดูแลกิจวัตรของตัวเองเหมือนกับที่คุณพ่อคุณแม่ทำให้
Exercise of Practical Life – กิจกรรมในชีวิตประจำวันที่แบ่งแยกชัดเจน เพื่อฝึกให้เด็กจดจำขั้นตอนที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นพื้นฐานของการเรียนคณิตศาสตร์