ตาบอด

เล่นมือถือในที่มืด เสี่ยง ตาบอด จริงหรือ

Alternative Textaccount_circle
event
ตาบอด
ตาบอด

เล่นมือถือในที่มืด เสี่ยง ตาบอด จริงหรือ

จากกรณีที่มีการโพสต์เรื่องเล่นมือถือในที่มืดนาน ทำให้เป็นมะเร็งตาหรือ ตาบอด ถาวร นั้น ได้มีหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งคุณหมอผู้เชี่ยวชาญออกมาให้ข้อมูลในเรื่องนี้แล้วว่า การเล่นมือถือในที่มืดนั้น ทำลายสายตาได้จริง แต่จะทำให้ตาบอดถาวรหรือไม่นั้นมาหาคำตอบกันค่ะ

ปัญหาเกี่ยวข้องกับสายตา มีอะไรบ้าง

ปัญหาสายตาที่ส่งผลให้ประสิทธิภาพการมองเห็นลดลง มีดังนี้

  • ตาล้า อาจเกิดขึ้นได้ เมื่อใช้สายตาจ้องมองสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเวลานาน เช่น ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ จอมือถือ  จนส่งผลให้เกิดอาการปวดตา
  • สายตาสั้น เกิดจากการหักเหของแสงที่กระทบในกระจกตาที่มีความโค้งสูงจนเกินไป เป็นสาเหตุที่อาจทำให้การมองเห็นในระยะไกลไม่ชัดเจน
  • สายตายาว เป็นปัญหาที่ตรงข้ามกับสายตาสั้น ทำให้มองเห็นสิ่งรอบตัวในระยะใกล้ไม่ชัดเจน
  • สายตาเอียง อาจทำให้มองเห็นเป็นภาพซ้อนได้ทุกระยะ ซึ่งอาจเป็นควบคู่กับสายตาสั้น หรือสายตายาวก็ย่อมได้
  • ตาแห้ง อาจเกิดขึ้นเมื่อต่อมในดวงตาไม่อาจผลิตน้ำตาให้เพียงพอ หากปล่อยให้ตาแห้งเป็นเวลนาน อาจทำให้แสบตา และสูญเสียการมองเห็นได้
  • ต้อกระจก โรคต้อกระจกอาจส่งผลให้การมองเห็นสิ่งรอบตัวไม่ชัดเมื่ออยู่ในแสงจ้า และแสงสลัวตอนกลางคืน
  • ต้อหิน การมองเห็นที่เปลี่ยนแปลงอาจขึ้นอยู่กับประเภทของโรคต้อหินที่ผู้ป่วยเป็น แต่ทุกประเภทล้วนส่งผลให้เกิดตาพร่า ปวดตา และตาขุ่นมัว
  • ความผิดปกติของจอประสาทตา อาจทำให้มองเห็นสิ่งรอบตัวเป็นภาพซ้อน เนื่องจากเซลล์ในเรตินาดวงตาถูกทำลาย ทำให้เรตินาแยกออกจากกัน
ตาบอด
เล่นมือถือในที่มืด เสี่ยง ตาบอด จริงหรือ

เล่นมือถือในที่มืดทำลายดวงตาอย่างไร

อันตรายจากการใช้มือถือในที่มืด เกิดจากประเด็นเรื่องแสงสีฟ้า (Blue Light) ที่ออกมาจากหน้าจอมือถือ รวมถึงคอมพิวเตอร์ โดยแสงสีฟ้า ก็คือแสงที่มีความยาวคลื่นสั้นอยู่ที่ 380-500 นาโนเมตร ทำให้มีการกระจายตัวของแสงสีได้มาก จึงทำให้มีอาการปวดตา สายตาล้าได้ง่าย สามารถสร้างความเสียหายให้เซลล์เรตินา (retinal cells) และแสงสีฟ้าอาจทำให้เกิดโรคศูนย์กลางจอประสาทตาเสื่อม (Macular Degeneration) รวมถึงโรคเกี่ยวกับดวงตาอื่น ๆ

การใช้แสงสีนี้อาจมีผลต่อระบบการนอนและการตื่นของร่างกายได้ ซึ่งแสงสีฟ้าสามารถพบได้ทั่วไปจากแสงอาทิตย์ จากหลอดไฟ  จาก Computer และ Smartphone

ทั้งนี้ แสงสีฟ้าไม่ได้ทำให้ผู้ใช้ตาบอด เพียงแต่ทำให้ผู้ใช้ไม่สบายตา เมื่อใช้ Computer หรือ มือถือนานๆ

อย่างไรก็ตาม การหลีกเลี่ยงจากแสงสีฟ้าอาจเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะนอกจากจะมีในโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์แล้ว แสงสีฟ้าอาจมาจากแสงอาทิตย์ได้เช่นกัน ดังนั้นนักวิจัยจึงแนะนำว่า ควรระวังการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือเล่นโทรศัพท์ในที่มืด เพราะการดูหน้าจอในที่มืดนั้นสามารถทำให้สายตาต้องจ้องกับแสงสีฟ้าโดยตรง จนอาจส่งผลกระทบต่อดวงตาได้

วิธีใช้โทรศัพท์เพื่อถนอมสายตา

  • ควรอยู่ห่างจากหน้าจอประมาณ 25 นิ้ว หรือประมาณ 1 ช่วงแขน
  • จุดศูนย์กลางของหน้าจอควรอยู่ในมุม 10-15 องศา จากระดับสายตา
  • ควรใช้ฟิล์มติดหน้าจอ ทั้งหน้าจอโทรศัพท์ และคอมพิวเตอร์ เพื่อลดแสงจ้า
  • ทุก  20 นาทีควรมองไปที่อื่น ไกลออกไป 20 นิ้ว เป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาที
  • ถ้าใช้เวลาอยู่หน้าจอเป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว ควรพักสายตาระยะสั้น เป็นเวลาประมาณ 15 นาที และควรพักสายตาระยะยาวทุก ๆ 2 ชั่วโมง
  • ควรใช้น้ำตาเทียม เมื่อตาแห้ง
  • ควรอยู่ในสถานที่ ที่มีแสงเพียงพอ และไม่ควรใช้โทรศัพท์ หรืออยู่หน้าจอในที่ที่มีแสงน้อย
  • ดื่มน้ำบ่อยๆ เพิ่มความชุ่มชื่นในตา
    ไม่ควรนอนหงายเล่นสมาร์ทโฟน เพราะหน้าจอจะไม่ได้รับแสงสว่างจากโคมไฟบนเพดาน แม้กระทั่งนอนตะแคงก็อาจทำให้ดวงตาต้องเพ่งจ้องที่หน้าจอหนักกว่าปกติเหมือนกัน
  • ถ้าใส่คอนแทคเลนส์ ควรพักสายตาด้วยการเปลี่ยนมาใส่แว่นตา
  • ควรตรวจสุขภาพดวงตาเป็นประจำ และปรึกษาคุณหมอเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตา

เล่นมือถือในที่มืด เสี่ยง ตาบอด จริงหรือ

จากกรณีที่มีการโพสต์ชวนเชื่อเรื่องเล่นมือถือในที่มืดนาน ทำให้เป็นมะเร็งตาหรือตาบอด ถาวร โดยระบุว่า ดูแล้วน่ากลัว ระวังกันไว้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ชอบเล่นโทรศัพท์

ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการยืนยันว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือในที่มืดเป็นเวลานานนั้นเสี่ยงหรือเป็นสาเหตุให้ ตาบอด หรือเกิดโรคมะเร็งตาแต่อย่างใด

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโมะเร็งตา หรือตาบอด

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสี่ยงของโรคมะเร็งตา หรือ “ตาบอด” ได้แก่ อายุที่เพิ่มมากขึ้น ความผิดปกติของเม็ดสีเมลานินในดวงตา หรือเกิดจากความผิดปกติของยีน เป็นต้น สำหรับคนไทย พบโรคมะเร็งตาในผู้ใหญ่ได้น้อยมาก แต่พบได้ในเด็กและมักมีอายุต่ำกว่า 5 ปี คือ โรคมะเร็งจอประสาทตา ซึ่งเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม แต่ก็เป็นโรคที่พบได้ไม่บ่อยเช่นกัน

ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่สบายใจได้นะคะว่า การเล่นมือถือในที่มืดไม่ได้ทำให้ตาบอด แต่ก็ทำลายดวงตาและการมองเห็นให้ไม่ชัดเจนได้มากพอสมควรเลยค่ะ จึงควรระมัดระวังหลีกเลี่ยงการใช้มือถือในที่มืดเพื่อรักษาดวงตาของเรานะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก

รามาแชนแนล, helloคุณหมอ, มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

ลูกขยี้ตา คันตาบ่อย ๆ ระวังเป็นตาแดงรับเปิดเทอม

แชร์เตือน!ลูกไม่สบตาอย่าปล่อยผ่านอาจสายตายาว ตาเหล่ ได้

ลูกเป็น แอสเพอร์เกอร์ ไม่มองหน้า ไม่สบตา ทำอย่างไร

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up