โรคจูบ

พ่อแม่ระวัง! โรคจูบ โรคติดต่อที่พบได้ในเด็กวัย 2 ปีขึ้นไป

Alternative Textaccount_circle
event
โรคจูบ
โรคจูบ

 

โรคจูบ
เครดิต: MEDICAL PPT – blogger

อาการของโรค

  • หากเด็กติดเชื้อเป็นครั้งแรก ส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีอาการ แต่ก็มีบ้างประมาณร้อยละ 50 ที่จะแสดงอาการของโรคที่เรียกว่า โรคโมโน โดยระยะเวลานับตั้งแต่ได้รับเชื้อจนกระทั่งแสดงอาการคือ 4-6 สัปดาห์ ซึ่งอาการของโรคโมโนที่ว่านี้ก็ได้แก่ ไข้สูง เจ็บคอ จากคอหอย หรือทอน ซิล มีการอักเสบ และมีต่อมน้ำเหลืองที่คอโต ส่วนอาการอื่นๆที่อาจจะพบร่วมด้วยคือ อาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ คลำได้ ตับโต ม้ามโต มีจุดเลือดออกที่เพดานปาก ถ่ายอุจจาระเหลว ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน มีน้ำมูก เป็นต้น ซึ่งอาการส่วนใหญ่จะหายภายในเวลา 2 สัปดาห์ ยกเว้นอาการอ่อนเพลียที่ยังอาจหลงเหลืออยู่ได้นานหลายเดือน
  • สำหรับการติดเชื้อครั้งแรกแบบเฉียบพลันชนิดที่มีอาการรุนแรงนั้น มักจะเกิดในผู้ที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมแต่กำเนิดและพบเฉพาะในผู้ชาย ส่งผลให้ผู้ป่วยจะมีการทำงานที่ผิดปกติของเม็ดเลือดขาว
  • โรคระบบน้ำเหลืองเจริญผิดปกติ อาจเกิดหลังจากติดเชื้ออีบีแล้ว มักจะเกิดในผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต้านทานโรคบกพร่อง เช่น เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องแต่กำเนิดชนิด โดยผู้ป่วยจะมีอาการไข้ และอาการที่เกิดจากเม็ดเลือดขาวชนิด B เพิ่มจำนวนมากขึ้นในต่อมน้ำเหลืองทั่วร่างกาย ตับ ไต ปอด ไขกระดูก และลำไส้เล็ก เช่น มีตับโต มีต่อมน้ำเหลืองโตทั่วตัว ปวดท้องท้องอืด มีภาวะโลหิตจาง ภาวะซีด มีเกล็ดเลือดต่ำ และมีเลือดออกง่าย เป็นต้น
  • ส่วนโรคมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้ออีบีนั้น เช่น
    • มะเร็งโพรงหลังจมูก ที่ส่วนใหญ่พบในประเทศจีนโดยเฉพาะจีนตอนใต้ ประเทศในทวีปแอฟริกาเขตเหนือ และในชาวเอสกิโม ผู้ป่วยมักจะมาด้วยอาการคัดจมูก จมูกมีเลือดออก หูอื้อข้างเดียว ปวดศีรษะ มีก้อนที่คอ
    • มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ส่วนใหญ่พบในประเทศแถบแอฟริกาตอนกลาง และมักจะพบในวัยเด็ก อาการคือ คลำได้ต่อมน้ำเหลืองโตตามที่ต่าง ๆ เช่น ขากรร ไกร ใบหน้า รักแร้ ขาหนีบ หรือต่อมน้ำเหลืองในช่องท้องอาจโต และทำให้มีอาการท้องโต ปวดท้อง ซึ่งต่อมน้ำเหลืองเหล่านี้จะโตได้อย่างรวดเร็ว เป็นต้น

ดูแลลูกหลานอย่างไรให้ห่างไกล และมีวิธีการรักษาหรือไม่ คลิก!

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up