เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย

ลูกเล่นน้ำในบ่อ เสี่ยง เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย

event
เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย

ลูกป่วยเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ~ วันจันทร์/ อังคารที่ 28-29 มีนาคม 2559 ~

อาการทรงตัว ขยับแขน ขาได้  มีไข้ 37.6 ได้รับยาแก้ท้องเสียจึงถ่ายน้อยลง คุณหมอสั่งตรวจเลือดและอุจระ ผลออกมาปกติ วันอังคารช่วงบ่ายมีความดันขึ้น คุณแม่เครียดอีก ในวันพรุ่งนี้คุณหมอจะให้นักกายภาพบำบัดมาช่วยทำกายภาพบำบัดให้

~วันพุธที่ 30 มีนาคม 2559 ~

ช่วงเช้าไม่มีไข้ มามีไข้ช่วงเย็น 37.8 ถ่ายน้อยลง อาการทรงตัว แต่ในวันนี้ตอนเช้าลงไปถึงห้อง ไอซียู เห็นทีวีในห้องลูกเปิดอยู่ ตกใจและดีใจปนกัน พอไปเห็นลูก เค้าลืมตาได้ครึ่งนึงตาปรือๆ และมองทีวีอยู่ ดีใจที่สุดที่ลูกเริ่มลืมตาได้ แต่ก็ยังไม่ตอบสนองต่อคำพูด พูดกับเค้า จับตัวเค้า เค้าก็ไม่รู้สึกไม่มองไม่หันตาม  ในวันนี้ลูกได้ถอดสายน้ำเกลือ คาไว้แต่เข็มให้ยา และได้เริ่มทำกายภาพบำบัด คุณหมอบอกว่าถ้าวันนี้อาการทรงตัว ไม่มีความดันขึ้น ทุกอย่างปกติ จะให้ย้ายขึ้นห้องปกติคืนนี้

ได้ย้ายขึ้นห้องตอน 21:30 น.  วุ่นวายพอสมควร พอขึ้นห้องมาลูกจามตลอดและมีน้ำมูก และต้องคอยเช็ดน้ำลายด้วย แถมยังอึอีกสองครั้ง ตอนอยู่ในห้อง ไอซียู พยาบาลและผู้ช่วยจะเป็นคนดูแลทั้งหมด แต่พอขึ้นห้องมาคุณแม่ต้องหัดทำทุกอย่างวุ่นละสิทีนี้

~ วันพฤหัส 31 มีนาคม 2559 ~

อาการทุกอย่างทรงตัว ลืมตาได้มองทีวีได้แต่ยังตาปรือๆอยู่ ทำกายภาพบำบัดเป็นวันที่สอง ถ่ายเหลว ประมาณสี่ครั้ง ก้นก็เลยเริ่มกลับมาแดงอีกครั้ง มีไข้ต่ำๆ 37.5 แต่ช่วงกลางคืนหลับได้มากขึ้น

~ วันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2559 ~

อาการทรงตัว มีไข้ต่ำๆ 37.6 ทำกายภาพบำบัดเป็นวันที่สาม แขน ขาเริ่มมีแรงต้านมากขึ้นนิดหน่อย พี่ๆนักกายภาพให้กำลังใจดีมากทำให้คุณพ่อคุณแม่ยิ้มได้บ้าง และมีกำลังใจสู้ต่อไป ช่วงบ่ายลงไปทำ TC แสกน ผลสมองยังปกติดีทุกอย่าง ดีใจมากๆเลย

~ วันเสาร์ที่ 2 เมษายน 2559~

มีไข้ต่ำๆ 37.8 ลืมตาได้มากกว่าเดิมมองทีวีคุณแม่ก็เลยเปิดช่องการ์ตูนที่เค้าชอบไว้ทั้งวันเลย วันนี้หลังจากให้อาหารทางสายตอน 12:00 ซักพักก็อาเจียนออกมา วุ่นเลย อาจจะเป็นเพราะปกติเค้าไม่ได้กินนมเป็นอาหารหลักทุกมื้อ พอได้รับอาหารทางสายซึ่งมีนมเป็นส่วนประกอบหลัก ก็ทำให้มีอาเจียนบ้างถ่ายเหลวบ้าง วันนี้ทำกายภาพบำบัดโดยการจับนั่ง และใช้เตียงช่วยพยุงให้น้องลุกขึ้นมายืนก็ผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีอาการความดันขึ้น

~ วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน 2559 ~

เมื่อคืนที่ผ่านมามีอาเจียน 1 ครั้ง ถ่ายเหลว 2 ครั้ง มีไข้ต่ำๆ 37.6 วันนี้ลืมตาได้เต็มตา มองทีวีตลอด ขยับแขนได้เอง ยกแขนได้เองเล็กน้อย ทำกายภาพบำบัดจับยืนด้วยเตียงและนั่งเก้าอี้เหมือนเดิม ยกแขนได้เองด้วย ดีใจมากๆๆๆ วันนี้ให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียครบ 14 วันแล้ว ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติคุณหมอจะให้กลับบ้านในวันพรุ่งนี้ ช่วงกลางคืนขยับตัวได้ พลิกตัวตะแคงได้ ขยับแขน ขา ได้แรงขึ้น

~ วันจันทร์ที่ 4 เมษายน 2559 ~

มีไข้ต่ำๆ 37.6  ทำกายภาพบำบัดจับยืน จับนั่ง เริ่มเก็กคอได้เองบ้าง ยกมือตามคำสั่งได้บางครั้ง คุณหมอมาตรวจตอนเช้า ให้น้องลองมองตามว่าคนไหนพ่อ คนไหนแม่ น้องสามารถกรอกตาตามได้ หลังจากนั้นก็ร้องไห้โฮเลย มีอาการเพิ่มมาคือ ร้องไห้ได้ เหมือนรู้สึกตัว แต่ไม่สามารถทำอะไรได้เองก็เลยร้องไห้ออกมา คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี อธิบายไม่ถูกเลยจริงๆ

วันนี้คุณหมอให้กลับบ้านได้แต่คงต้องกลับรถโรงพยาบาล เพราะน้องยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้นั่งเองยังไม่ได้ ตลอดหลายวันที่ผ่านมาคุณพยาบาลก็ได้สอนให้คุณแม่หัดทำทุกอย่างเองได้หมดแล้ว เช่น ให้การให้อาหารทางสาย การดูดเสมหะ การเช็ดตัว เปลี่ยนแพมเพิร์ส การทำกายภาพบำบัด พี่ๆ นักกายภาพก็ได้สอนไว้แล้วเช่นกัน พอกลับบ้านก็เป็นหน้าที่ของคุณพ่อ คุณแม่แล้ว

พอช่วงบ่ายคุณพ่อเค้าก็ออกไปหาซื้อของใช้ต่างๆ ที่ลูกต้องใช้เตรียมกลับบ้าน พออยู่กับลูกสองคนคุณแม่ก็ร้องไห้สิทีนี้ มันหลายๆสิ่งรวมกัน ดีใจที่จะได้กลับบ้านด้วย ก็ได้แต่บอกลูกว่าเรากลับไปเริ่มต้นกันใหม่ที่บ้านเรานะลูก ไปหัดทำกายภาพบำบัดกัน แม่จะไม่ยอมแพ้ กี่เดือนกี่ปีแม่ก็จะทน แม่จะต้องทำให้ลูกกลับมาเหมือนเดิมให้ได้ ทั้งที่ในใจแม่นั้นไม่สามารถรู้ได้เลยว่าลูกจะกลับมาเป็นปกติหรือไม่

ได้ออกจากโรงพยาบาลช่วงเย็น ประมาณ 17:10 น. ลูกก็นอนหลับตลอดทาง พอกลับมาถึงบ้านเจอหน้าทุกๆคนที่บ้าน น้องก็ร้องไห้ใหญ่เลย  เป็นแสงแดดยามเย็นที่คุณแม่จะจำไม่มีวันลืมเลย พอกลับมาบ้านคุณแม่จะเล่าย่อๆ นะคะ  ทำทุกอย่างเหมือนอยู่โรงพยาบาล ให้อาหารทางสายเป็นเวลา ทำกายภาพบำบัดทุกวัน ช่วงหลังน้องเริ่มรู้สึกตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มขี้เกียจจะนอนอย่างเดียว แต่ก็ต้องบังคับกันค่ะ มีร้องโยเยบ้าง เริ่มจับลุกขึ้นมาเดินวันแรกๆ ก็เริ่มจากน้อยๆ ก่อนครั้งละ 5 นาที ขาก็สั่นเลย วันต่อๆ มาก็ค่อยๆ เพิ่มให้นานขึ้นเรื่อยๆ เป็นครั้งละ 20 นาที วันละ 3 ครั้ง จนน้องเริ่มเดินได้คล่องขึ้นก็ทำราวให้เค้าหัดเดินเอง

พอวันที่ 9 เมษายน ก็เหมือนปาฏิหาริย์ คืนนั้นลูกตื่นมากลางดึก แล้วก็พูดออกมาคำแรกว่า แม่ แม่ยุ้ย กระเด้งตัวลุกขึ้นแทบไม่ทัน จากที่ลูกปากแข็งไม่เคยขยับเลย พอเค้าเริ่มพูดได้ ก็เริ่มขยับลิ้นได้ จากที่แม่เคยป้อนน้ำแค่น้อยๆ ก็เพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ จนเค้ากลืนได้เก่งขึ้น (คุณหมอกลัวจะสำลักต้องระวังเป็นพิเศษ) หลังจากนั้นก็เริ่มป้อนพวกของเหลว เช่น โจ๊ก  อีกไม่กี่วันคุณหมอก็ให้ถอดสายอาหารออกได้ แล้วก็มาหัดกินอาหารต่างๆ กัน

ก็เริ่มพูดคุยได้ปกติ แต่จะยังจำอะไรไม่ค่อยได้ แล้วก็หัดฝึกทุกๆ อย่างไปพร้อมๆ กัน การเดิน การกิน การพูด การทบทวนความจำ ใช้เวลาในการฟื้นฟูประมาณ 1 เดือน น้องก็กลับมาเป็นปกติ นี่คือความสุขที่สุดในชีวิตของคนเป็นพ่อ แม่ ที่สุดแล้วค่ะ

คุณแม่ก็หวังว่าสิ่งที่คุณแม่โพสต์นี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นบ้างไม่มากก็น้อย หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ

ขอบคุณเรื่องราวจาก คุณแม่ ปังปุณ  https://pantip.com/topic/35408613?

อย่างไรก็ดี จากการที่คุณแม่เล่าถึงภาวะ เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ของลูกน้อยนั้น ซึ่งสาเหตุสำคัญ ก็คือ จากการติดเชื้อ แบคทีเรีย ซึ่งหากคุณแม่ท่านอื่นกลัวว่าลูกน้อยของเราจะป่วยหรือมีภาวะนี้เกิดขึ้น สิ่งที่คุณแม่ต้องทำ คือ ให้สังเกตว่าลูกน้อยของคุณมี ไข้ ปวดศีรษะรุนแรง ปวดตึงต้นคอ ก้มคอไม่ลง/คอแข็ง ควรต้องรีบพบแพทย์ และไม่ควรซื้อยาทานเอง เพราะอาจทำให้บดบังอาการ จนอาจทำให้มาพบแพทย์ล่าช้า และทำให้ได้รับการรักษาล่าช้า จนเป็นอันตรายต่อชีวิตลูกน้อยได้

อ่านต่อ “บทความดีๆ น่าสนใจ” คลิก!


ข้อมูลอ้างอิงจาก : haamor.com

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up