เริมที่ปาก

เริมที่ปาก อันตรายแฝงใกล้ตัวจากการลองเทสเตอร์ลิปสติก

Alternative Textaccount_circle
event
เริมที่ปาก
เริมที่ปาก

มารู้จักกับ “โรคเริม”

อย่างที่บอกไปค่ะว่า “ไวรัสเริม” มี 2 ชนิด ที่ทำให้เกิดโรคเริม คือ…

  • Herpes simplex virus (HSV1) เป็นไวรัสเริมที่เกิดขึ้นเฉพาะที่ปาก
  • Herpes simplex virus (HSV2) เป็นไวรัสเริมที่เกิดขึ้นเฉพาะที่อวัยวะเพศ

การติดเชื้อจะเกิดขึ้นได้ ต้องมีเชื้อไวรัสในน้ำเหลืองจากแผล น้ำลาย น้ำเหลืองหรือน้ำอสุจิ แล้วเชื้อไวรัสต้องเข้าสู่ผิวหนังที่ มีรอยถลอกหรือรอยแผล และอาจจะเข้าสู่เยื่อเมือก เช่น บริเวณปากและอวัยวะเพศ

ซึ่งเมื่อไวรัสเข้าสู่ร่างกายแล้วจะมีกระบวนการติดเชื้อ โดยที่เฮอร์ปีส์ไวรัส (Herpes simplex virus) จะแทรกซึมเข้าไปในเซลล์ผิวหนังที่อยู่ชั้นล่างๆ ของผิวหนังโดยที่บางครั้งก็ไม่มีอาการ  แต่ในบางคนไวรัสจะแบ่งตัวและทำลายเซลล์ผิวหนัง จึงเกิดมีการอักเสบทำให้มีตุ่มน้ำใสเกิดขึ้นเป็นกลุ่ม อยู่บนปื้นแดง เมื่อตุ่มน้ำแห้งหรือแตกไปจะเกิดเป็นสะเก็ด แล้วหายโดยไม่มีแผลเป็น[2]

บทความแนะนำ คลิก>> ผดร้อนในทารก อาการทางผิวหนังจากอากาศร้อน
เริมที่ปาก
Credit Photo : Shutterstock

โรคเริมมีอาการอย่างไร?

สำหรับคนที่เป็นโรคเริมในครั้งแรกอาจไม่ทราบว่าลักษณะอาการเป็นอย่างไร ดังนั้นเราจะไปเช็กอาการที่เกิดขึ้นพร้อมกันค่ะ…

  • จะมีผื่นผิวหนัง และอาการปวด หลังจากได้รับเชื้อ 2-12 วัน
  • มีรอยบวมแดงบริเวณที่ติดเชื้อ ซึ่งจะกลายเป็นตุ่มน้ำใสเป็นกลุ่มอย่างรวดเร็ว
  • ตุ่มน้ำในบริเวณที่ชื้นแฉะจะเป็นอยู่นานกว่า และอาจมีอาการคันร่วมด้วย
  • ตุ่มน้ำใสจะแห้งไปภายใน 7-10 วัน และหายโดยไม่มีแผลเป็น

สำหรับคุณแม่ หรือคนอื่นๆ ในครอบครัวที่เคยเป็นโรคเริมไม่ว่าจะที่ปาก หรือตรงอวัยวะเพศ ถึงแม้ว่าจะรักษาจนหายเป็นปกติแล้ว ก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีกครั้ง เนื่องจากเชื้อของโรคยังมีอยู่ เมื่อใดก็ตามที่ถูกกระตุ้น ไม่ว่าจะด้วยจากความเครียด นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือการไปสัมผัสเข้ากับเชื้อไวรัสเริม ก็เสี่ยงต่อการเกิดโรคขึ้นได้อีกครั้งค่ะ

อ่านต่อ การรักษาเริมที่ปาก หน้า 3

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up