ทำใบขับขี่รถยนต์

ประกาศงด!!อบรม ทำใบขับขี่รถยนต์ ต่อ-ใหม่ทำไงเช็กดู

Alternative Textaccount_circle
event
ทำใบขับขี่รถยนต์
ทำใบขับขี่รถยนต์

ใครต้องการ ทำใบขับขี่รถยนต์ ช่วงการแพร่ระบาดโควิด19 นี้เช็กให้ดี กรมขนส่งออกประกาศงดอบรมและทดสอบเริ่มต้นเดือนนี้ แนะวิธีต่อ-ทำใบอนุญาตใหม่ให้ทำตามขั้นตอนนี้

ประกาศงด!! อบรม ทำใบขับขี่รถยนต์ ต่อ-ใหม่ต้องทำไงเช็กดู

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้ต้องมีมาตราการป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาด งดเว้นกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มกัน ดังนั้นกรมการขนส่งทางบกจึงได้ออกประกาศ งดการอบรม และทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตขับรถและผู้ประจำรถรายใหม่ ณ สำนักงานขนส่งทุกแห่ง 

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทยระลอกใหม่ ซึ่งมีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างเกิดขึ้นในหลายจังหวัดของประเทศไทย เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรมการขนส่งทางบก จึงงดการให้บริการด้านใบอนุญาตขับรถเฉพาะบางกิจกรรมที่ต้องเข้ารับการอบรมและทดสอบ ณ สำนักงานขนส่ง ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ดังนี้

  • งดการอบรมและทดสอบสำหรับการขอรับใบอนุญาตขับรถ บัตรประจำตัวคนขับรถ และใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถใหม่ทุกชนิด
  • งดการอบรมสำหรับการขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถ บัตรประจำตัวคนขับรถ และใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถทุกชนิด
  • งดการออกหน่วยเคลื่อนที่ด้านทะเบียนและภาษีรถ และด้านใบอนุญาตขับรถ ณ หน่วยบริการเคลื่อนที่รับชำระภาษีรถประจำปีที่ห้างสรรพสินค้าหรือแหล่งชุมชน (Shop Thru for Tax) และศูนย์บริการร่วม
  • งดการดำเนินการของโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก ในเขตกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 17 มกราคม 2564 สำหรับโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกในเขตจังหวัดอื่นให้เป็นไปตามประกาศจังหวัดหรือประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด

    งดอบรม ทำใบขับขีรถยนต์ ช่วงโควิด19
    งดอบรม ทำใบขับขีรถยนต์ ช่วงโควิด19

ซึ่งการงดการอบรม และทดสอบเพื่อขอใบอนุญาตขับรถนั้น ทำให้ผู้ที่ต้องการขอรับใบขับขี่รถยนต์ใหม่ และผู้ที่ต้องต่อใบอนุญาตเมื่อครบกำหนด ไม่สามารถขอรับบริการได้ที่สำนักงานขนส่งในช่วงเวลานี้ เพราะการอบรมนั้นเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการ ทำใบขับขี่รถยนต์

ขั้นตอนการทำใบขับขี่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์

1.จองคิวอบรม โดยกรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบ ซึ่งสามารถจองได้ 3 ทาง ได้แก่ จองออนไลน์ จองคิวทางโทรศัพท์ อบรมกับทางเอกชน

2.เตรียมเอกสารให้พร้อมเมื่อถึงคิววันที่จอง ซึ่งเอกสารที่จะต้องเตรียมมี ดังนี้

  • ใบปรินท์เอกสารการจองอบรม
  • บัตรประชาชนตัวจริง (ผู้ขอใบขับขี่ใหม่)
  • ใบรับรองแพทย์ มีอายุไม่เกิน 1 เดือน (ผู้ขอใบขับขี่ใหม่)
  • ทะเบียนบ้าน (ผู้ขอใบขับขี่ใหม่)
  • ใบขับขี่ใบเดิมที่หมดอายุ 

3.เดินทาง ควรไปก่อน 7:30 น. เนื่องจากจะต้องยื่นเอกสารช่วง 8:00 น.
4. ทดสอบสมรรถภาพร่างกายในช่วงเช้า จะมีทั้งหมด 4 แบบทดสอบ

  • ทดสอบสายตาบอดสี
  • ทดสอบสายตาทางลึก
  • ทดสอบสายตาทางกว้าง
  • ทดสอบปฏิกิริยาทางเท้า

    ทดสอบป้ายจราจร ขั้นตอนในการ ทำใบขับขี่รถยนต์
    ทดสอบป้ายจราจร ขั้นตอนในการ ทำใบขับขี่รถยนต์

5. อบรมกับทางกรมขนส่งทางบกอย่างน้อย 5 ชั่วโมง ซึ่งการอบรมจะแบ่งออกเป็น 2 ภาคคือ ภาคเช้า เริ่ม 9.30 – 12.00 น. และภาคบ่ายคือ 13.00 – 15.30 น.
6. สอบภาคทฤษฎี (ผู้ขอใบขับขี่ใหม่) จะต้องทำข้อสอบทั้งหมด 50 ข้อ โดยจะต้องทำถูก 45 ข้อขึ้นไป
7. สอบภาคปฏิบัติจะมีทั้งรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ (ผู้ขอใบขับขี่ใหม่)
รถมอเตอร์ไซค์จะต้องสอบทั้งหมด 3 ท่า
– ขี่ทรงตัวบนทางแคบ
– ขี่ซิกแซก
– ปฏิบัติตามป้ายสัญญาณจราจร
รถยนต์จะต้องสอบทั้งหมด 3 ท่า
– การขับรถเดินหน้าและหยุดเทียบบนทางเท้า
– การขับรถเดินหน้าถอยหลังในทางตรง
– การขับรถถอยหลังเข้าจอดในช่องว่างด้านซ้าย
8. ออกใบขับขี่ชั่วคราว เมื่อผ่านครบทุกขั้นตอน โดยใบอนุญาตขับขี่ชั่วคราวจะมีอายุการใช้งานได้ 2 ปี และสามารถเอามาเปลี่ยนเป็นแบบ 5 ปีได้ หลังจากครบ 1 ปีแล้ว ส่วนผู้ขอต่อใบขับขี่เดิมจะได้รับใบอนุญาตขับขี่ใบใหม่เลยในวันเดียวกัน

ต่อ-ใหม่ ใบขับขี่ ช่วงนี้ต้องทำอย่างไร?

จากการประกาศงดการอบรม และทดสอบเพื่อขอใบอนุญาตขับรถ ซึ่งเป็นขั้นตอนในลำดับที่ 4 และ 5 นั้น ทำให้ช่วงเวลาของการป้องกัน และควบคุมการแพร่เชื้อดังกล่าวนี้ จะไม่สามารถไปขอรับบริการทำใบขับขี่รถยนต์ที่กรมการขนส่งทางบกทุกแห่งได้ แต่จะมีวิธีการอื่นที่สามารถทำให้ผู้ที่จำเป็น และต้องการขอ หรือต่อใบอนุญาตขับขี่สามารถเข้ารับบริการได้โดยทำตามขั้นตอน ดังนี้

สำหรับผู้ที่ต้องการขอใบอนุญาตขับขี่ใหม่ สามารถเข้ารับการอบรม และทดสอบของทางโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกแทนได้ และนำหนังสือรับรองผ่านการอบรม และทดสอบจากสถาบันการศึกษา และโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองนั้น ๆ มาทำการออกใบอนุญาตขับขี่ใหม่ที่กรมการขนส่งทางบกได้ไม่เกิน 6 เดือน นับแต่วันที่ออกหนังสือรับรอง

สำหรับผู้ที่ต้องการต่อใบอนุญาตขับขี่เดิม โดยผู้ที่ใบอนุญาตขับรถสิ้นอายุไม่เกิน 1 ปี หรือการต่ออายุล่วงหน้าไม่เกิน 90 วัน ให้อบรมผ่านระบบ e-Learning ทางเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com หรืออบรมกับโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกแทนหลังการอบรมแล้วเสร็จ สามารถนำผลการอบรมติดต่อสำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อเข้ารับการทดสอบสมรรถภาพของร่างกายและออกใบอนุญาตขับรถ โดยผลการอบรมออนไลน์มีระยะเวลา 90 วัน นับแต่วันที่ผ่านการอบรม

การ ทำใบขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์
การ ทำใบขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์

การออกใบแทน กรณีใบอนุญาตขับรถชำรุดหรือสูญหาย  สามารถขอเข้ารับบริการที่กรมการขนส่งทางบกได้ตามปกติในวันและเวลาราชการ

การเปลี่ยนชนิดใบอนุญาตขับรถชั่วคราว 2 ปี เป็นส่วนบุคคล 5 ปี  สามารถขอเข้ารับบริการที่กรมการขนส่งทางบกได้ตามปกติในวันและเวลาราชการ

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ที่ยังไม่มีความจำเป็นไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการในด้านใบอนุญาตขับรถ หรือด้านทะเบียนและภาษี ควรงดเว้นการติดต่อที่สำนักงานขนส่ง หรือใช้บริการระบบออนไลน์ที่กรมการขนส่งทางบกมีไว้รองรับ เช่น ชำระภาษีรถออนไลน์ การอบรมออนไลน์ เป็นต้น ในกรณีจำเป็นที่ต้องมาดำเนินการที่สำนักงานขนส่ง ขอความร่วมมือประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าในการติดต่อราชการ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดต่อแพร่กระจายของโรค

การชำระภาษีรถออนไลน์

จากคำขอความร่วมมือของอธิบดีกรมการขนส่งทางบกให้ในช่วงเวลาที่ต้องช่วยกันป้องกันการแพร่เชื้อโรคระบาดโควิด19 นั้น จึงขอนำขั้นตอนในการชำระภาษีรถออนไลน์ที่จะช่วยลดจำนวนผู้คนที่จะเข้ามาติดต่อกับทางกรมขนส่งลงไปได้บ้างมาให้ได้พิจารณากัน ซึ่งวิธีดังกล่าวก็มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก สะดวก ดังนี้

ประเภทรถยนต์ที่ทำได้

  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รย.1) อายุไม่เกิน 7 ปี
  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รย.2) อายุไม่เกิน 7 ปี
  • รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รย.3) อายุไม่เกิน 7 ปี
  • รถจักรยานยนต์ (รย.12) อายุไม่เกิน 5 ปี
  • เป็นรถที่จดทะเบียนจังหวัดใดก็ได้
  • รถที่ค้างชำระภาษีไม่เกิน 1 ปี และชำระภาษีล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน

ขั้นตอนการใช้งาน

1. เข้าเว็บไซต์ กรมการขนส่งทางบก แล้วเลือกบริการ “เลือกลงทะเบียนสมาชิกใหม่”

ชำระภาษีรถออนไลน์
ชำระภาษีรถออนไลน์

2. กรอกข้อมูลตามขั้นตอนโดยระบุให้ครบถ้วน ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง เสร็จสิ้นขั้นตอนการลงทะเบียนสมาชิก

3. เมื่อลงทะเบียนสมาชิกแล้ว ให้ Login เพื่อเข้าใช้บริการ จากนั้นเลือก “ชำระภาษีรถประจำปี” ในเมนูย่อยเลือก “ชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ต” และทำตามขั้นตอนที่ปรากฎทีละขั้นตอน เมื่อจบขั้นตอนท้ายสุดกดปุ่มยืนยัน ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการชำระภาษีออนไลน์

การตรวจสอบสถานะ

สามารถตรวจสอบสถานะการดำเนินการยื่นชำระภาษี สถานะการจัดส่งเอกสาร หมายเลข EMS เลขกรมธรรม์ หรือปัญหาจากการยื่นชำระ ได้ที่เมนู “ตรวจสอบผลการชำระภาษี/เปลี่ยนช่องทางชำระเงิน” โดยขนส่งแจ้งไว้ว่ารวมระยะเวลาตั้งแต่ชำระเงินค่าภาษีสำเร็จถึงวันที่ได้รับเอกสารจากไปรษณีย์ ประมาณ 5 วันทำการ ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบขั้นตอนการดำเนินการ หมายเลข EMS หรือกรณีพบข้อผิดพลาด ได้ที่เว็บไซต์ ที่เมนู “ตรวจสอบผลการชำระภาษี/เปลี่ยนช่องทางชำระเงิน” เช่นกัน

ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเมื่อใช้ระบบออนไลน์

  • ค่าจัดส่งเอกสาร รายการละ 32 บาท
  • ค่าธรรมเนียมธนาคาร รายการละ 20 บาท
  • ค่าธรรมเนียมการใช้บัตร (กรณีชำระด้วยบัตรเครดิต) ร้อยละ 2 รวม VAT 7% ของค่าธรรมเนียม

ดังนั้นก่อนออกจากบ้านไปขอรับบริการกับกรมการขนส่งทางบก ไม่ว่าจะเป็นการขอทำใบขับขี่รถยนต์ หรือการชำระภาษีรถนั้น ลองเช็กดูให้ดีว่ามีวิธีการอื่นที่สามารถช่วยให้ทำรายการอยู่ที่บ้าน ที่ส่วนตัว โดยไม่ต้องออกไปข้างนอก ติดต่อพบปะผู้คนมากมายหรือไม่ อย่างเช่นวิธีการขอรับบริการกับกรมการขนส่งทางบกออนไลน์ที่ทาง ทีมแม่ ABK ได้นำมาให้ดูกัน ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ได้เป็นอย่างดี อย่าลืม ก่อนออกจากบ้าน เช็กให้ชัวร์ หยุดอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ กันนะทุกคน

ข้อมูลอ้างอิงจาก matichon.co.th/silkspan.com/oohoo.io/th

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

สาวไทยรีวิวฉีด วัคซีนโควิด-19 ฟรีที่แคนาดา ผลข้างเคียงเป็นยังไง

แม่เตรียมตัวให้พร้อม! ประกาศเลื่อนเวลา ปิดห้าง เริ่ม 4 มคนี้พร้อมกันทั่วประเทศ

ท้องไม่พร้อม ไม่สนุก!! รู้ยังวัยรุ่น ฝังยาคุม ฟรี

ศธ. ประกาศสถานศึกษา 28 จังหวัด ปิดเรียนถึง 31 ม.ค. 64

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up