เงินน้อยแต่อยากเลี้ยงลูกให้ดี

9 วิธีแก้ปัญหาพ่อแม่ ไม่มีเงินเลี้ยงลูก บอกเลยช่วยได้!

Alternative Textaccount_circle
event
เงินน้อยแต่อยากเลี้ยงลูกให้ดี
เงินน้อยแต่อยากเลี้ยงลูกให้ดี

“มีลูกหนึ่งคน จนไป 10 ปี!!” อีกหนึ่งคำกล่าวที่ติดปากคนเป็นพ่อเป็นแม่ทุกคน … แน่นอนค่ะว่า ยุคนี้สมัยนี้ ด้วยค่าเงินที่สูงขึ้น ประกอบกับปัญหาทางเศรษฐกิจที่ยังคงคาราคาซังกันอยู่ จะหยิบจับ หรือขยับอะไรทีก็ยังต้องคิดแล้วคิดอีก ยิ่งกำลังจะมีลูกหรือมีลูกแล้วด้วยนี่ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะอาจจะสามารถทำให้ชีวิตทั้งชีวิตของคนเป็นพ่อเป็นแม่เปลี่ยนได้เลยเช่นกัน และตัวกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนั้นก็คือ “เงิน”

คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านอาจจะกำลังประสบปัญหาที่ว่า “ไม่มีเงินเลี้ยงลูก” หรือกลัวว่าการมีเงินอันน้อยนิดจะไม่สามารถทำให้ลูกได้ดีหรือประสบกับความสำเร็จได้เหมือนกับคนอื่น ๆ แล้วด้วยความรักลูก ก็เลยต้องไปหยิบยืมเอาเงินในอนาคตมาใช้ จนก่อให้เกิดหนี้ พอได้เงินมาเท่าไร ก็ต้องเอาไปใช้หนี้หมด … แบบนี้ก็คงจะไม่ค่อยถูกต้องเสียเท่าไร … ไม่เป็นไรค่ะ ผ่านมาแล้วให้มันผ่านไป จากนี้ไปแค่ปฏิบัติ 9 วิธีนี้ให้ได้ รับรองทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกไม่ลำบากแน่นอนค่ะ

ไม่มีเงินเลี้ยงลูก กลัวลูกไม่ได้ดี แก้ได้ด้วย 9 วิธีนี้!

1. เลือกของใช้มือสอง

สมัยนี้จะเห็นว่า คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่ เลือกซื้อเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ (บางชนิด) ในลักษณะเป็นของมือสอง … เนื่องจากราคาไม่แพง ประกอบกับความคิดที่ว่า เด็กโตไว จะให้ไปซื้อของมือหนึ่งมาใช้ก็กลัวเสียดายเงิน หรืออาจจะต้องใช้เงินเยอะ … หากคุณพ่อคุณแม่มีความคิดเช่นนี้ละก็ ถือว่าเป็นคุณมาถูกทางแล้วละค่ะ เด็กโตไวจริง การที่เราจะต้องไปซื้อเสื้อผ้าตัวละเป็นพัน หรือห้าร้อย หกร้อย แล้วได้แค่ตัวเดียวนั้น สู้ไปซื้อเสื้อผ้ามือสองเด็ก ใช้เงินเท่ากันแต่ได้ปริมาณที่มากกว่า ไม่ดีกว่าหรือ … หากคุณพ่อคุณแม่พอมีเงินบ้างละก็ จัดได้ว่าก็ดีค่ะคุ้มดี แต่อาจจะต้องเลือกและทำความสะอาดด้วยวิธีการฆ่าเชื้อกันด้วยนะคะ … แต่จะดีกว่าไหมคะ ถ้าหากเราใช้ของมือสองโดยไม่เสียเงินเลยสักบาทเดียว!

นั่นหมายถึงว่า คุณพ่อคุณแม่จะต้องยอมรับของที่คนอื่นมอบหรือส่งต่อให้โดยไม่คิดมาก เพราะหลาย ๆ ครอบครัวที่เขาพอมีพอกินหรือมีมากนั้น ชอบโละเสื้อผ้าของลูกกันอยู่บ่อย ๆ ค่ะ เนื่องจากซื้อมาเยอะแล้วใส่ไม่ทันบ้าง หรือลูกโตไวแล้วใส่ไม่ได้บ้าง จึงอยากที่จะส่งต่อให้เด็กคนอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรู้จัก หากคุณพ่อคุณแม่โชคดี ได้รับการส่งต่อมาละก็ เผลอ ๆ ได้ของดีมือหนึ่งเลยเสียด้วยซ้ำนะคะ ดังนั้น หากคนรู้จักของคุณพ่อคุณแม่ต้องการหยิบยื่นน้ำใจนี้ให้ละก็ อย่าปฏิเสธเลยค่ะ รับน้ำใจของเขาไว้จะดีกว่า เพราะสิ่งนี้จะสามารถช่วยทำให้เราประหยัดเงินไปได้มากเลยทีเดียว

2. ทำหลักประกัน

อย่าลืมนะคะ เด็ก ๆ ไม่สบายบ่อย แล้วเวลาเข้าโรงพยาบาลรักษาทีก็เสียเงินไม่ใช่น้อย หากคุณพ่อคุณแม่พอที่จะมีเงินเก็บ หรือสามารถเก็บได้ละก็ การซื้อประกันสุขภาพให้กับลูกนี่ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากจริง ๆ ค่ะ ยกตัวอย่างเช่น คุณพ่อคุณแม่ต้องเสียเงินให้กับบริษัทประกันเป็นรายปี รายสามเดือน หรือรายเดือน เป็นจำนวนเงินประมาณ 9,000 บาท (ขึ้นอยู่กับอายุของลูกและคุณพ่อคุณแม่และทุนประกันนะคะ) พอลูกเข้าโรงพยาบาลครั้งนึง แน่นอนค่ะว่า เราจะต้องเสียเงินมากกว่านี้แน่นอน จะดีกว่าไหม ถ้าหากเรายอมเสียเงินก้อนนี้มากกว่าเงินค่ารักษาพยาบาลทั้งก้อน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเท่าไร … แต่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนที่บริษัทหรือที่ทำงานมีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลบุตรตรงนี้ให้ บอกเลยสั้น ๆ ค่ะว่า “คุณโชคดีมาก!”

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up