ลำไส้กลืนกัน ความเจ็บปวดของลูกน้อยที่บอกไม่ได้
23.15 น้องเริ่มซึม แล้วหลับนานขึ้น เราก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น คิดว่าน้องคงหายแล้ว โค้กกับยาที่ให้คงช่วยไล่ลมออกมาหมดแล้ว น้องถึงไม่ปวดอีก
เที่ยงคืน สามีกลับถึงบ้าน น้องหลับแล้วแต่สามีไม่วางใจเลยพาไปรพ.
ตี 1 แฟนเล่าให้ฟังว่า น้องซึม เพลียมาก แต่หมอก็ตรวจเร็ว เจาะเลือดหาน้ำตาลในเลือดผลก็ปกติดี เอ็กซ์เรย์ลำไส้พบอุจจาระตกค้างหมอเลยสวนก้นให้ จากนั้นก็รอดูอาการสักพัก น้องไม่ปวดอีกเลยให้กลับบ้าน
ตี 5 ครึ่งกลับบ้านนอน ปกติไม่ตื่นมาปวด
11 โมงเช้า น้องตื่น สักพักก็ปวดท้องอีก ทีนี้ปวดหนัก เหยียดตัว หน้าแดง เกร็งมาก เรารู้สึกแย่กลัวว่าจะติดเชื้อในกระเพาะหรือไวรัสลงกระเพาะ เลยให้สามีพาไปอีก เรารออยู่บ้านเพราะคนโตไป ร.ร. เราต้องรอรับกลับบ้าน
13.30 พาน้องไปรพ.
17.00 สามีโทรมาบอกว่า น้องไม่ได้มีก๊าซในกระเพาะ แต่เป็น “ลำไส้กลืนกัน” ตรวจพบเพราะอัลตร้าซาวด์3 มิติ ต้องรักษาเบื้องต้นทำให้ลำไส้ที่กลืนกันหลุดออก ถ้าไม่ได้ก็ต้องผ่าตัดให้เราเตรียมตัวไปเจอกันที่รพ. ไม่มีเวลาอธิบายมาก
17.40 เจอกับสามี แล้วขับรถตามสามีไปรพ. ที่ไม่ได้ไปกับรถรพ. เพราะต้องรอคิวประมาณชม. นึงถึงจะได้รถ สามีเลยไม่รอขอขับรถพาไปเอง ระหว่างทางน้องก็ปวดท้องตลอด ทีนี้ปวดมากก็ดิ้น บางทีก็ร้องกรี๊ด
18.00 ถึงรพ. หมอพยาบาลรับตัวน้องตรวจทันที
![]()
18.30 พยาบาลกับสามีพาน้องไปห้องเอ็กซเรย์เพื่อฉีดสารทึบรังสีเข้าไปแล้วใช้เครื่องฉีดความดันเข้าไปทำให้ลำไส้พองแล้วคลายตัวหลุดออกจากกัน ฉีดไปแล้วเอ็กซ์เรย์ไปด้วยดูว่าสารทึบรังสีผ่านไปได้มั้ย หมอทำอยู่ 3 รอบถึงจะผ่านได้ สรุปคือน้องไม่ต้องผ่าตัด
20.00 ออกจากห้องเอ็กซเรย์ รอห้องว่าง ระหว่างนั้นน้องหลับสนิท ทั้งฤทธิ์ยาและอ่อนเพลีย
22.00 เพิ่งได้ห้อง นอนรพ. อยู่ 1 คืนก็กลับบ้านได้แล้วค่ะ
อ่านต่อ “อันตรายของลำไส้กลืนกัน” คลิกหน้า 3