ป้องกันก่อนระบาดหนัก! ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปอาร์เอสวี ลดเสี่ยงป่วยหนัก นอน รพ. โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง

เข้าสู่ฤดูฝนมาสักพัก ไวรัสอาร์เอสวีระบาดหนัก ลูกวัยเบบี๋เริ่มป่วยบ่อยขึ้น ตัวร้อน ไอถี่ นอนซมอย่างนิ่งนอนใจ เสี่ยงติดเชื้อในปอดรุนแรง เด็กทุกคนจะต้องเคยติดเชื้ออาร์เอสวีอย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิตก่อนอายุ 5 ขวบ และ 90% ของเด็กจะติดเชื้ออาร์เอสวีภายใน 2 ขวบปีแรก โดยมีถึง 50% ของเด็กที่ติดเชื้อภายในขวบปีแรก คุณพ่อคุณแม่ปกป้องลูกได้ด้วยปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปอาร์เอสวี

ลูกป่วยคล้ายเป็นไข้หวัด แต่ทำไมติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวีรุนแรงกว่า

แม้อาการเบื้องต้นของอาร์เอสวี กับไข้หวัดจะคล้ายกัน คือลูกมักมีไข้สูง ไอ หอบเหนื่อย มีเสมหะ จนอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจผิดว่าลูกป่วยเป็นไข้หวัดธรรมดา แต่การติดเชื้ออาร์เอสวีนั้นเป็นโรคทางเดินหายใจที่รุนแรงกว่า มีโอกาสลุกลามลงสู่ทางเดินหายใจส่วนล่าง ทำให้เกิด ปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบ หรือหลอดลมฝอยอักเสบ จนทำให้ลูกต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีครอบครัวไหนอยากให้เกิดขึ้น

องค์การอนามัยโลก (WHO) ประมาณการว่า มีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ทั่วโลกติดเชื้ออาร์เอสวีมากถึง 33.8 ล้านรายต่อปี และเสียชีวิต 160,000 ราย นอกจากนี้ เชื้ออาร์เอสวียังส่งผลให้ 2 ใน 3 ของเด็กทารกและเด็กเล็กทั่วโลกมีระบบทางเดินหายใจอักเสบเฉียบพลัน โดยเฉพาะทารกที่อายุต่ำกว่า 1 ปี ไม่ว่าจะสุขภาพแข็งแรงหรือคลอดก่อนกำหนดล้วนมีความเสี่ยงที่จะทำให้ติดเชื้ออาร์เอสวีรุนแรงจนต้องนอนโรงพยาบาลได้เช่นกัน

เหตุผลสำคัญที่ทำให้เชื้ออาร์เอสวีรุนแรงขึ้นเนื่องจากไม่มียารักษาโรคโดยตรง ทำได้เพียงให้ยารักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ ยาลดน้ำมูก หรือยาแก้ไอ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ร่างกายของลูกอาจจะทรุดลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการดูแลสุขภาพของลูกต้องเริ่มจากการป้องกันไม่ให้ติดเชื้ออาร์เอสวี ตั้งแต่แรก โดยเฉพาะในเด็กวัยแรกเกิดจนถึง 12 เดือน

ภูมิคุ้มกัน RSV

ภูมิคุ้มกันอาร์เอสวีเกราะชั้นดีลดเสี่ยงป่วยหนัก นอน รพ.

ทางราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย (RCPedT) ร่วมกับสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย ชมรมเวชศาสตร์ทารกแรกเกิดแห่งประเทศไทย สมาคมโรคระบบหายใจและเวชบำบัดวิกฤตในเด็กแห่งประเทศไทย และสมาคมโรคหัวใจเด็กประเทศไทย จึงได้จัดทำแนวทางการให้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป Nirsevimab ขึ้นมา

ภูมิคุ้มกัน RSV

ทางราชวิทยาลัยฯ แนะนำให้ Nirsevimab ในทารกแข็งแรงดีที่อายุต่ำกว่า 8 เดือนทุกราย และอาจพิจารณาให้ในทารกแข็งแรงดีอายุ 8-12 เดือน เพื่อป้องกันโรครุนแรงจากการติดเชื้ออาร์เอสวี โดยให้เพียงโดสเดียวก่อนฤดูกาลการระบาด สามารถคงประสิทธิภาพในการป้องกันครอบคลุมทั้งฤดูกาลการระบาด

จากงานวิจัยพบว่า ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปอาร์เอสวี Nirsevimab มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโรค

  • ลดความเสี่ยงในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนล่างได้ถึง 79.5%
  • ลดความเสี่ยงในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากการติดเชื้ออาร์เอสวีโดยรวมได้ถึง 83.2%
  • ลดระยะเวลาการเข้ารับการรักษา และลดโอกาสการเข้ารับการรักษาตัวในหออภิบาลผู้ป่วยเด็กวิกฤตได้ถึง 75.3%
จากสถานการณ์โรคที่ต้องเฝ้าระวัง โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สังเกตได้ว่าจากกราฟ เป็นกราฟขาขึ้นของโรคติดเชื้ออาร์เอสวีมีการระบาดในเด็กที่เพิ่มขึ้น จึงควรเฝ้าระวังเป็นอย่างมาก ยิ่งในเด็กเล็กด้วยแล้ว ทุกครอบครัวควรรีบป้องกัน ให้ความสำคัญและใส่ใจเพิ่มมากขึ้น
ข้อมูล: กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค

ตอนนี้ ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ และเป็นฤดูระบาดของอาร์เอสวี ซึ่งเริ่มตั้งแต่มิถุนายน และมักจะระบาดสูงสุดในเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม จึงขอเชิญชวนให้คุณพ่อคุณแม่รีบปรึกษาแพทย์ เพื่อหาแนวทางป้องกันด้วยการรับภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปอาร์เอสวี สำหรับทารกที่เกิดในระหว่างช่วงฤดูกาลระบาดของอาร์เอสวี ควรได้รับเนอร์ซีวิแมบโดยเร็วที่สุดหลังคลอด โดยภูมิคุ้มกันจะขึ้นทันทีตั้งแต่ได้รับเนอร์ซีวิแมบ และปกป้องลูกน้อยได้อย่างน้อย 6 เดือนตลอดฤดูกาลระบาด

#TogetherAgainstRSV #AllinfantProtection #ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป #ปกป้องลูกน้อยจากการติดเชื้ออาร์เอสวีตลอดฤดูกาลระบาด

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล


เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ – วิธีลดไข้ทารกแรกเกิด ทารกเป็นไข้ ควรดูแลอย่างไร?

วิธีลดไข้ทารกแรกเกิด
วิธีลดไข้ทารกแรกเกิด