Let’s Play Festival 2025 วันที่ลูกได้เล่นอิสระและพ่อแม่ได้ค้นพบความหมายของการเล่นอีกครั้ง
ทุกวันนี้เด็ก ๆ หลายคนต่างอยู่กับตารางเรียนที่แน่นเอี๊ยด มีวิชาต่าง ๆ ให้เรียนเต็มไปหมด จนบางทีเราในฐานะพ่อแม่ก็ลืมไปว่าการเล่นสำคัญแค่ไหน
เราอาจมองว่าการเล่นต้องรอช่วงเวลาพักหรือเวลาว่าง แต่จริง ๆ แล้วการเล่นคือหัวใจของการเติบโตเลยนะคะ เพราะเวลาที่เขาได้เล่น เด็ก ๆ ไม่ได้แค่สนุก แต่เขากำลังได้เรียนรู้โลกในแบบของเขาเอง ได้ลองผิดลองถูก ได้ใช้จินตนาการ โดยไม่ต้องมีแบบฝึกหัดหรือคะแนนมากดดัน
เมื่อลูกโตขึ้นเราอาจจะคิดว่า ถ้าไม่เร่งเรียนอาจจะตามคนอื่นไม่ทันใช่ไหมคะ แต่จริง ๆ แล้วการเล่นนี่แหละค่ะ คือพื้นฐานสำคัญที่ทำให้เขาเติบโตอย่างมั่นคง มีความสุข เรียนรู้และรับมือกับโลกใบใหญ่ที่รอเขาอยู่ได้อย่างดี เพราะเด็กที่ได้เล่นอย่างเต็มที่ มักจะเป็นเด็กที่เติบโตเต็มที่ทั้งกาย ใจ และความคิดเช่นกันค่ะ
แล้วทำไม เด็กต้องเล่นอิสระ งานเทศกาลเล่นอิสระดีอย่างไร เดี๋ยววันนี้กุ๊กเล่าให้ฟังค่ะ




บรรยากาศของการเล่นเปิดโลก
สุดสัปดาห์ทีผ่านมา กุ๊กได้พาเด็ก ๆ ไปสัมผัส “เทศกาลเล่นอิสระ” เป็นปีที่ 2 ค่ะ ลูกติดใจจากปีก่อนและชอบกันมากค่ะ
บรรยายาศในงานนั้นทำให้เรารู้สึกเหมือนย้อนไปเห็นวัยเด็กของตัวเองที่เคยวิ่งเล่นกลางแจ้ง ปีนต้นไม้ เล่นดิน เล่นทราย โดยไม่ต้องกลัวเลอะ ไม่ต้องกลัวผิด ไม่ต้องมีผู้ใหญ่คอยบอกว่าต้องเล่นยังไง ที่นี่เป็นพื้นที่ที่เด็ก “ได้เป็นเด็กอย่างแท้จริง” และเราในฐานะแม่…ก็ได้มีเวลาหยุดดูโลกผ่านสายตาของลูกอีกครั้ง
ทันทีที่เดินเข้าพื้นที่งาน สิ่งที่สัมผัสได้คือ “ความเป็นมิตร” ของบรรยากาศรอบตัว ทั้งสีเขียวของต้นไม้ เสียงเด็ก ๆ หัวเราะ ผ่านของเล่นต่างๆ เสียงพ่อแม่คุยกันเบา ๆ ระหว่างเฝ้าลูก พื้นที่ที่ไม่เน้นความหรูหรา แต่เน้นความเรียบง่ายที่เข้าถึงหัวใจเด็ก ๆ ทุกคน ไม่มีการแบ่งว่าใครเก่งกว่าใคร ไม่มีเด็กที่ “ทำได้” หรือ “ทำไม่ได้” มีแค่พื้นที่ให้ลอง เป็นพื้นที่ให้เด็กค้นพบด้วยตัวเอง
ปกติเรามักจะได้ยินคำว่าเด็กคือผ้าขาวใช่ไหมคะ แต่ในงานนี้เขาบอกว่า เด็กคือผ้าสี เป็นสีสันในแบบของตัวเอง เพราะเด็กทุกคนแตกต่าง มีความชอบไม่เหมือนกัน เพียงแค่ได้เล่นอย่างอิสระ เราอาจค้นพบความชอ ความสามารถและตัวตนของลูกได้เลยค่ะ




เด็กเล่นได้ทุกอย่าง เด็กเล่นได้ทุกที่
ในงานเขาเล่าว่า การเล่นกับชิ้นส่วนที่หลากหลาย หรือ Loose Part เป็นการเล่นปลายเปิด เด็กสามารถจินตนาการเชื่อมโยงได้อย่างไร้ขอบเขตในแบบเฉพาะของตัวเอง เมื่อได้คนพบสิ่งใหม่ ๆ จึงเกิดเป็นประสบการณ์ ที่มีความเฉพาะของแต่ละคนอย่างอิสระ ทำให้เด็กคนพบตัวเองและเห็นคุณค่าของสิ่งรอบตัว อย่างเช่นโซนต่างๆในงานนี้ เช่น
ลานเล่นธรรมชาติ
พื้นที่ที่ทำให้เราได้เห็นคุณค่าความสุขที่เรียบง่ายแต่พิศษของลูกเลยค่ะ ใต้ต้นใหญ่ที่มีมุมศิลปะ งานเวิร์คช็อป เด็กๆ ได้ขุดดิน ตักน้ำ เล่นทราย เอาใบไม้ หรือ วัสดุธรรมาชาติมาทำเป็นผลงานศิลปะ สังเกตได้เลยว่า เวลาที่ลูกได้สัมผัส ได้ลองทำด้วยมือเล็ก ๆ ของเขา เด็กจะเกิดความตั้งใจ มีสมาธิ แบบที่เราไม่ต้องบอกเลยค่ะ
ลานเล่นวัสดุเหลือใช้
กล่องวัสดุหลากหลายขนาด กระดาษลัง ไม้ กระบอก เชือก ถูกแปลงร่างเป็นเขาวงกต บ้าน รถที่เด็กๆเป็นคนขับเอง ของเล่นจากเศษวัสุดเหลือใช้ ไม่ใช่ของเล่นราคาแพง แต่เวลาที่เขาได้เล่น ได้จินตนาการไปกับของเล่นเหล่านั้น กลับสร้างรอยยิ้มที่มากมายเต็มลานกิจกรรมนี้เลยค่ะ
ลานปีนป่าย
ลานที่เปิดให้เด็กได้ลองเสี่ยงอย่างมีสติ ไม่ว่าจะเป็นการปีนเชือก เดินบนทางแคบ กระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง บริเวณนี้มีพี่ๆทีมงานคอยดูแลอยู่รอบๆ ให้เด็กได้ลองด้วยตัวเองอย่างปลอดภัย สิ่งที่สังเกตได้เลยคือเด็ก ๆ จะค่อยๆปีนด้วยความกลัวเล็กน้อยในตอนแรก แต่เขาทำทำได้สำเร็จ แววตาของความภูมิใจคือของขวัญที่พิเศษที่สุดสำหรับพ่อแม่เลยค่ะ
ลานเล่นร่วมกัน
เด็ก ๆ จากที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่กลับเล่นกันได้ราวกับเป็นเพื่อนกันมานาน บางคนแบ่งทรายให้ บางคนต่อบ้านด้วยกัน บางคนชวนกันวิ่งรอบสนาม พ่อแม่ที่ได้ดูอยู่ห่าง ๆ จะเห็นเลยว่าการเข้าสังคมเกิดขึ้นจากการได้ลองเล่นกับเพื่อนใหม่จริง ๆ




แล้วเด็กได้อะไรจากการเล่นอิสระแบบนี้บ้าง
- สร้างทักษะชีวิตที่จำเป็น (Life Skills)
- การจัดการทางอารมณ์
- ทักษาการแก้ปัญหา
- ทักษาสังคมและการปรับตัว
- พัฒนาสมองและร่างกายอย่างสมดุล
- พัฒนาการจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์
- พัฒนาการทางร่ายกายตามช่วงวัย
- สมองส่วน Executive Function (EF)
- เป็นทางออกของการติดจอ
- เสริมสร้างความสุขและสุขภาวะทางจิตใจ
- เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก
- เป็นพื้นที่เสริมความมั่นใจในตนเอง
- เป็นพื้นที่ลดความเครียด
- เป็นช่วงเวลาสร้างสายสัมพันธ์ในครอบครัว
- เป็นพื้นที่สร้างโอกาส/ลดความเลื่อมล้ำให้เด็กทุกคน




ความหมายของคำว่าเล่นอิสระที่พ่อแม่ได้เข้าใจอีกครั้ง
หลายคนคิดว่างานนี้เน้นให้เด็กเรียนรู้ แต่จริง ๆ แล้ว พ่อแม่เองก็ได้เรียนรู้เยอะมากจากงานนี้เช่นกัน อย่างกุ๊กเอง ได้มองเห็นลูกๆ เลยได้เรียนรู้ว่า เขาสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง มีความตั้งใจมากกว่าที่คิดและมีความชอบและศักยภาพบางอย่างที่ซ่อนอยู่ แค่เราต้องมีพื้นที่หรือโอกาสให้เขาได้ลอง เทศกาลเล่นอิสระ ไม่ใช่แค่งานอีเวนท์หรือแค่พื้นที่ให้เล่น แต่คือประสบการณ์ที่ช่วยให้เด็กได้เป็นตัวเองและพ่อแม่ได้เข้าใจโลกของลูกลึกขึ้น อาจจะเป็นเพียงวันหนึ่งที่ลูกได้เล่นอิสระ แต่เชื่อไหมคะว่า…อาจจะเป็นวันที่เปลี่ยนมุมมองการเลี้ยงลูกของเราไปตลอดเลยค่ะ
เทศกาลเล่นอิสระ จัดปีละ 1 ครั้ง
เวลา: 13.00–20.00 น.
สถานที่: อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ค่าเข้า: ฟรี