น้องมะลิ น้องณดล 2 ซุป’ตาร์รุ่นจิ๋ว ถ่ายแฟชั่น ลงปกนิตยสารแพรว

event

น้องมะลิ-น้องณดล ถ่ายแบบขึ้นปกแพรว

3. พาเข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างสรรค์

ถ้าลูกเก็บตัวจนไม่มีเพื่อนสนิทเลย คุณพ่อคุณแม่คงต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ด้วยการหมั่นพาลูกไปร่วมกิจกรรมกับเด็กอื่นบ้าง อาจจะเป็นลูกของเพื่อน หรือลูกของพี่ป้าน้าอา หรือเชิญชวนเพื่อนร่วมชั้นมางานวันเกิดของลูก กิจกรรมเหล่านี้ จะช่วยให้ลูกค่อยๆ ทำความรู้จักและทำความคุ้นเคยจนเป็นเพื่อนกับคนอื่นได้ แต่สำหรับเด็กที่ชอบเข้าสังคม บางคนอาจมีนิสัยชอบโอ้อวดอยู่ลึกๆ คุณพ่อคุณแม่อาจหากิจกรรมให้ลูกได้แสดงบทบาทร่วมกับคนอื่น ทำงานเป็นทีมกับเด็กอื่น หรือมีกิจกรรมที่ต้องมีการช่วยเหลือร่วมมือกัน แบ่งหรือผลัดบทบาทกันทำ ซึ่งจะฝึกทักษะทางสังคมของลูกไปในทางสร้างสรรค์มากขึ้น

4. เอาใจเขามาใส่ใจเรา

ทักษะนี้เป็นทักษะสำคัญในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้เด็กรู้จักเห็นใจผู้อื่นอยู่เสมอ เช่น สอนลูกว่า ถ้าลูกไม่ชอบให้คนอื่นทำกับเราอย่างไร คนอื่นก็ไม่อยากให้ลูกทำกับเขาอย่างนั้นเช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้สอนได้ตั้งแต่ในช่วงวัยเตาะแตะ เพราะเป็นช่วงที่เด็กกำลังเรียนรู้ว่า ตัวเองเป็นตัวตนที่แยกออกจากคนใกล้ชิดโดยเฉพาะพ่อแม่ พร้อมกับเริ่มเรียนรู้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวมีเจ้าของ ดังนั้น ควรสอนให้ลูก รู้เขารู้เรา และแบ่งของเล่นให้เพื่อนเล่นบ้าง

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

5. ให้กำลังใจ

เด็กชอบเก็บตัวบางคน อาจมีที่มาจากการเป็นเด็กที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง รู้สึกไม่มั่นคง ขี้อาย ขี้กลัว และขี้กังวล เวลาพบเพื่อนใหม่จะรู้สึกขลาดๆ กล้าๆ กลัวๆ ไม่มั่นใจว่า เพื่อนใหม่จะชอบตัวเองหรือไม่ การปลีกตัวไปอยู่คนเดียว จึงเป็นเรื่องที่ปลอดภัยที่สุดในความคิดของเขา ทางที่ดี คุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นให้กำลังใจลูกรักอยู่เสมอๆ ไม่ว่าเรื่องเล็กน้อยเพียงใด แต่ในขณะเดียวกัน ไม่ควรผลักดันลูกให้ออกไปสู่สังคมมากเกินไป แต่ควรให้ลูกค่อยๆ ออกไปสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นด้วยตัวของเขาเองดีกว่า อีกอย่างการให้กำลังใจลูก จะช่วยให้เขาเติบโตเป็นเด็กที่คอยมอบกำลังใจดีๆ ให้แก่ผู้อื่นต่อไปด้วย

Must readสิ่งที่พ่อแม่ควรทำ 15 สิ่ง เพื่อให้ลูกรู้ว่า “พ่อแม่รักลูก”

6. ให้โอกาสเด็กได้ระบาย

เด็กที่ขี้อายมากๆ บางครั้งอาจจะชอบเก็บตัวมากเสียจนไม่มีเพื่อนที่สนิทพอที่จะระบายทุกข์สุขอยู่ในโรงเรียนเลยสักคน การเปิดโอกาสให้เด็กได้ระบายความรู้สึกนึกคิดออกมา โดยคุณพ่อคุณแม่คอยถามไถ่ลูกถึงเหตุการณ์ต่างๆ ในแต่ละวัน จะช่วยฝึกฝนให้เด็กได้พูด ได้ระบายในสิ่งที่เขาอยากระบาย และเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้แก่เด็กด้วยว่า สิ่งที่เขาคิดเขาพูดไม่ได้ไร้สาระ แต่ยังมีคนที่เข้าใจและยินดีรับฟังเขาเสมอ และเมื่อเขาโตขึ้น เวลาเพื่อนของเขามีปัญหา เขาก็จะเป็นผู้รับฟังที่ดีเหมือนกัน

ดังนั้น พ่อแม่คือบุคคลสำคัญในการเลี้ยงลูกให้น่ารัก และเป็นที่รักของผู้อื่น หากพ่อแม่มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับลูกตั้งแต่แรกเริ่ม ลูกก็จะเติบโตเป็นคนที่เป็นมิตรกับผู้คน และสามารถมีสัมพันธภาพที่ราบรื่นกับคนอื่นได้ดีตามไปด้วย

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!


ขอบคุณข้อมูลจาก : www.manager.co.th

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up