วิธีกระตุ้นให้ลูกดิ้น

10 วิธีกระตุ้นให้ลูกดิ้น ต้องเล่นกับลูกในท้อง

Alternative Textaccount_circle
event
วิธีกระตุ้นให้ลูกดิ้น
วิธีกระตุ้นให้ลูกดิ้น

“อยากให้ลูกฉลาด กินโอเมก้า-3 กินแล้วไม่ช่วยอะไร”

ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ยังเข้าใจผิดอยู่มาก และคิดว่าจะช่วยให้ลูกฉลาดได้ นั่นคือการกินโอเมก้า-3 ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่เคยได้รับการพิสูจน์เช่นกัน หากพิสูจน์ได้ก็ต้องเป็นมาตรฐานทางการแพทย์เช่นกัน สิ่งที่แม่ท้องจำเป็นต้องกินมากกว่าคือ โฟลิก ต่อให้ไม่อยากกินก็ต้องกิน เพราะโฟลิคช่วยป้องกันโรคทางสมองและลดความพิการได้ ธาตุเหล็ก ก็ต้องกินเพราะเป็นธาตุที่มีอยู่น้อยในชีวิตประจำวัน ป้องกันโลหิตจาง แคลเซียม ควรกินอย่างน้อยวันละ 600 มิลลิกรัม และวิตามินบี 6 ที่ช่วยเรื่องบรรเทาอาการแพ้ท้อง

 

วิธีกระตุ้นให้ลูกดิ้น
Credit Photo : Shutterstock

 

“ควรกระตุ้นลูกเมื่อจำเป็น”

จากที่กล่าวมาข้างต้นว่า เราไม่ควรกระตุ้นหรือปลุกเขาพร่ำเพรื่อ เพียงเพื่อจะแกล้งลูกสนุกๆ หรือเสริมสร้างพัฒนาการ แต่เราควรกระตุ้นลูกเมื่อจำเป็น นั่นคือ การตรวจการดิ้นของลูกนั่นเอง โดยเฉพาะในแม่ท้องกลุ่มเสี่ยงทั้งหลายที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยอาศัยหลักการตื่น 2 ชั่วโมง หลับ 2 ชั่วโมง หาก 2 ชั่วโมงแล้วลูกยังไม่ดิ้น วิธีปลุกคือ ให้ดื่มน้ำหวานๆ 1 กล่อง เช่น น้ำผลไม้ เพราะในน้ำเหล่านี้มีน้ำตาลกลูโคสซึ่งเป็นอาหารหลักของสมองของลูก เมื่อลูกได้รับน้ำตาลจากแม่เขาก็จะตื่น แต่หากน้ำตาลต่ำเขาจะหงอย เมื่อดื่มแล้วรออีก 2 ชั่วโมง ถ้าหากลูกยังไม่ดิ้นอีก ก็ควรรีบพบแพทย์ ส่วนคุณแม่ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงอยู่แล้ว ไม่มีความเสี่ยงใดๆ เราสามารถตรวจเช็คได้ง่ายคือ ถ้าลูกดิ้นทุกครั้งหลังอาหาร 3 มื้อ ก็ถือว่าใช้ได้

 

Must Read >> ลูกดิ้น ลูกสะอึก มีความต่างกันอย่างไร?

“ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ”

เพราะคนท้อง ไม่ใช่คนป่วย การมีกฎกติกามากมายบอกว่า ต้องทำอย่างนั้น ห้ามทำแบบนี้ จึงไม่ใคร่ถูกต้องนัก หากท้องแล้วต้องทำ 100 อย่าง ห้ามทำอีก 100 อย่าง เพื่อให้ลูกฉลาดและแข็งแรง นั่นแสดงว่าคุณแม่มีการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติมาตั้งแต่ต้นแล้ว สิ่งสำคัญอยู่ที่ตัวคุณแม่เป็นหลัก หากคุณแม่ไม่ได้มีความเสี่ยง เช่น เนื้องอกในมดลูก ตั้งครรภ์แฝด เลือดออก รกเกาะต่ำ เป็นต้น คุณแม่สามารถใช้ชีวิตปกติ สามารถทำกิจกรรมแบบที่เคยทำ ข้อห้ามอย่างเดียวคือ ห้ามทำอะไรสุดโต่ง เท่านั้นเอง นอกจากนี้ อย่าไปเครียดในเรื่องที่ไม่ควรเครียด เช่น วันนี้ไม่ได้เปิดเพลงให้ลูกฟังเลย ลูกไม่ฉลาดแน่เลย ฉันไม่เคยคุยกับลูกในท้องเลยทำยังไงดี เป็นต้น แต่คุณแม่ควรเครียดให้ถูกเรื่องมากกว่า
หากคุณแม่อยากเล่นกับลูกในท้องก็พอมีวิธีอยู่บ้าง เช่น การร้องเพลงให้ฟัง พูดคุยก่อนนอน อ่านหนังสือนิทานสนุกๆ ฯลฯ ก็เป็นการสร้างความรักความผูกพัน (Bonding) ระหว่างพ่อแม่ที่มีต่อลูกได้ดีทีเดียว แต่หากไม่มีเวลาก็ไม่ใช่เรื่องผิดร้ายแรงอะไร แค่ปล่อยให้เขาเติบโตไปตามธรรมชาติและไม่ละเลยก็พอ

อ่านต่อ >> ช่วยลูกในท้องแข็งแรง แม่ต้องกระตุ้นให้ลูกดิ้น หน้า 3

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up