นมแม่คุมกำเนิดได้!!

Alternative Textaccount_circle
event

ให้ลูกดูดนมแม่มาตลอดจนตอนนี้เขาอายุใกล้จะครบขวบแรกแล้ว เคยได้ยินมาว่าการให้ลูกดูดนมแม่สามารถช่วยคุมกำเนิดได้ จริงหรือเปล่า

มีงานวิจัยที่ศึกษาเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่กับประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด พบว่า แม่ที่ให้ลูกดูดนมเพียงอย่างเดียว โดยไม่ให้นมผสม น้ำ หรืออาหารเสริมเลยในช่วง 6 เดือนแรก จะช่วยยับยั้งการตกไข่ ทำให้ไม่มีประจำเดือนได้ และมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูงเมื่อเทียบกับการคุมกำเนิดวิธีอื่น (ร้อยละ 98) แต่เมื่อลูกได้รับอาหารเสริมหลังอายุ 6 เดือนไปแล้ว การดูดนมแม่จะไม่บ่อยเท่าเดิม ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดจึงลดลง และมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ ต้องคุมกำเนิดโดยวิธีอื่นต่อไป

นอกจากนี้ยังพบว่าแม่ที่ให้นมลูกโดยไม่ใช้นมผสมเลย มีเพียงอาหารเสริมตามวัยเท่านั้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มมีประจำเดือนหลังลูกอายุครบ 1 ขวบ ถือเป็นความฉลาดของธรรมชาติที่ลงตัว โดยกำหนดมาแล้วว่า หากแม่เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเองเท่านั้น ระยะห่างในการมีบุตรคนต่อไปจะเว้นช่วงพอดิบพอดี แม่ก็ไม่เหนื่อยเกินไปและร่างกายก็ไม่ทรุดโทรมจนเกินเหตุ เพราะเหตุนี้คนในสมัยโบราณแม้จะไม่มีวิธีการคุมกำเนิด ก็มีลูกปีเว้นปีได้โดยไม่เดือดร้อน ไม่ต้องเสี่ยงใช้สารเคมีหรือฮอร์โมนอื่นเพื่อคุมกำเนิดให้เสี่ยงต่อผลข้างเคียงด้วย (ถึงแม้จะมีไม่มากก็ตาม) ส่วนคุณแม่ที่ไม่ได้ให้นมลูก หลังคลอดก็จะมีการตกไข่ตามปกติ หากยังไม่พร้อมจะมีคนต่อไป ก็ต้องใช้วิธีคุมกำเนิดค่ะ

ให้ลูกดูดนมแม่นานๆ จะมีลูกคนต่อไปยาก?

คำตอบคือ ไม่ค่ะ เพราะพอลูกหยุดดูดหรือดูดน้อยลงแล้ว ฮอร์โมนก็จะกลับมาทำงานตามปกติ และไม่ได้ทำให้เยื่อบุมดลูกฝ่อแต่อย่างใด แถมยังอาจช่วยทำให้มีลูกคนต่อไปได้ง่ายขึ้นด้วย ในกรณีที่คุณแม่เป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกอยู่ผิดที่ (endometriosis หรือ chocolate cyst) กว่าจะได้ลูกคนโตมา คุณแม่อาจผ่านการรักษาเพื่อลดพังผืดด้วยวิธีต่างๆ เช่น ฉีดยาไม่ให้มีประจำเดือน หรือเลาะพังผืดโดยใช้วิธีส่องกล้อง เมื่อคลอดลูกคนแรกแล้ว และต้องการมีคนต่อไปให้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องผ่านวิธีการต่างๆ เหมือนตอนที่มีลูกคนแรก คุณหมอสูติฯ จะแนะนำให้ลูกดูดนมแม่เพียงอย่างเดียว (exclusive breastfeeding) เพื่อกดการทำงานของรังไข่ ไม่ให้มีประจำเดือน เพราะการมีประจำเดือนแต่ละรอบจะทำให้ในช่องท้องมีพังผืดเพิ่มมากขึ้น การให้ลูกคนโตดูดนมแม่ไปเรื่อยๆ จนกว่าพร้อมจะปล่อยให้มีคนที่สอง จึงช่วยทำให้มีลูกคนต่อไปได้ง่ายขึ้นค่ะ

 

บทความโดย: พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์ กุมารแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านทารกแรกเกิด

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up