สอนลูกรับของขวัญอย่างไร ไม่ให้เสียน้ำใจ

Alternative Textaccount_circle
event

คุณแม่คนดีของพ่อหนูเลยตั้งอกตั้งใจถักผ้าพันคอลายเหลือง – แดงแบบเดียวกับพ่อมดน้อยแห่งโลกเวทมนตร์ให้เป็นของขวัญปีใหม่ แต่ที่ไหนได้ พอลูกชายวัย 8 ขวบแกะกล่องออกปุ๊บ เขาก็โยนมันทิ้งปั๊บ แถมบ่นงึมงำว่า ไม่เห็นเหมือนผ้าพันคอแฮร์รี่เลยอะŽ

 
คุณแม่ของออสตินฉุกคิด (ทั้งน้ำตา) ว่าถึงเวลาฝึกลูกของเธอให้เรียนรู้มารยาทในการรับของขวัญจากผู้อื่นเสียทีไม่อย่างนั้นเธอก็คงต้องมานั่งเสียใจ (เวลาที่ของขวัญของตัวถูกลูกปฏิเสธ) หรือต้องหน้าร้อนฉ่าเมื่อลูกทำหน้ายี้ใส่ของขวัญที่คนอื่นให้อีกแน่ๆ

 
ฝึกคำขอบคุณ อันดับแรกต้องสอนให้ลูกรู้จักพูดขอบคุณเวลาที่มีคนให้ของ ขอบคุณครับ คุณป้าŽ (พร้อมกับยกมือไหว้) เด็กๆ ไม่จำเป็นต้องแกล้งทำเป็นว่าชอบของขวัญ (เด็กวัยเรียนเกลียดการเสแสร้งเป็นทุนอยู่แล้ว) เพียงแค่เข้าใจความรู้สึกของคนให้ก็พอ ดังนั้นอธิบายกับเขาว่า ถึงแม้ของนั้นอาจไม่ใช่ของที่เขาถูกใจ แต่อย่างน้อยคนให้ก็ให้ด้วยใจและความรักนะ

 
อย่าเปรียบเทียบ ลูกต้องเรียนรู้ที่จะไม่ตะโกนว่า หนูจะเอาอันนั้น!!Ž เมื่อมีใครได้ของขวัญชิ้นอื่นที่เขาถูกใจมากกว่า

 
หัดเป็นผู้ให้ โรบี้ เฟร็ดแมน สปิชมันผู้เขียน  The Giftionary แนะนำว่า ควรให้เด็กๆ ได้มีส่วนร่วมในการเลือกซื้อของขวัญในเทศกาลต่างๆ เขาจะเข้าใจความรู้สึกของการเป็นผู้ให้ รวมถึงความปรารถนาดีที่สอดแทรกมาในกล่องของขวัญ ซึ่งนั่นจะทำให้เขาทำตัวดีขึ้นยามเป็นผู้รับของขวัญโดยอัตโนมัติ

 
ข้อสำคัญสำหรับพ่อแม่ก็คือ ถ้าหากลูกตะโกนขึ้นมาว่า ผมมีหุ่นยนต์แบบนี้แล้วŽ หรือ หนูไม่เห็นอยากได้กระโปรงเลยŽ ใส่หน้าคนให้ของขวัญ อย่าทำท่าตกอกตกใจเกินเหตุ หรือรีบดุลูกต่อหน้าคนอื่น เพราะนั่นจะทำให้สถานการณ์ยิ่งดูแย่ไปกันใหญ่ กลบเกลื่อนเปลี่ยนประเด็นดึงความสนใจไปเสีย แล้วค่อยไปสอนลูกทีหลังจะดีกว่า

 

 

บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up