แชร์ประสบการณ์ตรง!! สิ่งที่พ่อแม่ควรทำเพื่อกล่อมลูกนอนหลับ

Alternative Textaccount_circle
event

65_3

5. ชวนคุยเรื่องเชิงบวก

คือชวนถามว่าวันนี้ลูกสนุกกับอะไรบ้าง แล้วแม่ชื่นชมกับลูกอะไรบ้างในวันนี้ บอกกับเขาว่าค่ำคืนนี้ได้เวลาที่เราจะพักผ่อนแล้วและพรุ่งนี้เราจะได้ตื่นขึ้นมาทำอะไรสนุกยิ่งกว่าวันนี้อีก มีสิ่งที่น่าสนุกรอเราอยู่ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งการพูดเชิงบวกเหล่านี้จะเป็นพลังที่ดีให้เด็กอิ่มเอมใจและหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

6. ตั้งสติเข้าใความต้องการความปั่นป่วนของเด็ก

หลายๆครั้งเราพ่อแม่ผู้ใหญ่อย่างเราก็หงุดหงิดใจกับการจัดการการนอนของเด็กๆ เพราะเราใช้เหตุผลคาดหวังในสิ่งที่เราอยากได้แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ช่วยทำให้ลูกนอนเร็วขึ้นหรือนอนหลับลงด้วยสภาวะที่สู่โหมดปกติ เด็กบางคนจะปั่นป่วนสับสนในความต้องการของตัวเองมากในเวลาง่วงนอน หรือเด็กบางคนตื่นร้องไห้กลางดึก เพราะเป็นช่วงของการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายหลายๆอย่าง

สิ่งที่พ่อแม่ควรทำคือตั้งสตินึกย้อนกลับว่าถ้าเราเป็นลูกเราต้องการอะไร และต้องการให้พ่อแม่เข้าใจเขาอย่างไน เราจึงจำเป็นต้องแสดงถึงความเข้าใจในความรู้สึกของเด็กๆก่อน เช่น บอกกับเขาว่าแม่เข้าใจนะว่าลูกอยากเล่น งั้นลูกก็เล่นไปนะอีก 5 นาทีเรานอนกันนะ หรือตัวอย่างบทความครั้งที่แล้ว ซึ่งจะเป็นวิธีการเชิงบวกที่ได้ผลลัพท์ที่ดี หลักสำคัญคือทำให้เด็กๆรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย ช่วยเหลือให้ลูกสงบอยู่ในอารมณ์ที่เป็นปกติ เข้าใจในความปั่นป่วน มากกว่าที่จะทำโทษและเพิ่มความเครียดกดดันให้กับเด็ก

7 ตอบสนองเมื่อลูกร้องเรียกหา

ตามธรรมชาติเด็กๆจะร้องเรียกหาพ่อแม่เมื่อถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพังโดดเดี่ยว ดังนั้นเมื่อเด็กๆร้องเรียกในกลางดึก แนะนำให้ตอบสนองด้วยเสียงก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อให้เขารับรู้ว่าเราไม่ได้ไปไหนอยู่ใกล้ๆ แล้วกลับเข้ามากอด กล่อมนอนอย่างสงบ ซึ่งไอเดียนี้จะสร้างความไว้วางใจในวิธีการตอบสนองของเราพ่อแม่ได้ลูกจะสงบและกลับไปนอนได้เร็ว

8 กล่อมหลับด้วยกันใกล้ชิด ให้ความรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย

ลูก หรือสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนมเกือบทั้งหมด ต้องการที่จะอยู่ใกล้ชิดพ่อแม่หรือคนเลี้ยงที่เขารัก ซึ่งเด็กๆก็เช่นกัน จึงขอแนะนำว่า ในเวลาที่กล่อมลูกนอนให้อยู่ใกล้ๆ หากจะเดินออกไปไหนหรือทำอะไรบอกลูกก่อนว่าเราจะไปทำอะไรแล้วจะกลับมา เช่น เดี๊ยวแม่ลุกไปปิดไฟห้องน้ำตรงนี้แล้วจะรีบมานอนด้วยกัน แต่ถ้าเด็กๆไม่โอเคหรือเริ่มกังวลก็ให้ละวางภารกิจนั้นก่อนถ้าไม่เร่งรีบมากนัก รอให้หลับสนิทแล้วค่อยลุกไปทำภารกิจที่เราต้องการ สิ่งนี้จะทำให้ลูกรู้สึกดีกับพ่อแม่และทำให้หลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุปแล้วนั้นปัญหาลูกไม่ยอมนอนนั้นเป็นปัญหาที่พ่อแม่ทั่วโลกต่างประสบพบเจอ เพราะหากลองเสิชบทความ บทวิจัยต่างๆมีมากมายเกี่ยวกับปัญหาเรื่องนี้ ดังนั้นพวกเราเองก็สบายใจได้ในระดับหนึ่งว่านี่คือธรรมชาติของมนุษย์ ที่สัมพันธ์กับการเจริญเติบโตตามวัยของสมองและร่างกาย แต่สิ่งที่มนุษย์ทุกวัยยังคงมีและไม่เคยลดเลือนหายคือความรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย อบอุ่นใจในการดำรงชีวิต ดังนั้นแล้วเมื่อใดก็ตามที่มนุษย์รู้สึกมั่นคงปลอดภัย สบายใจ อบอุ่นใจก็จะสามารถนอนหลับได้อย่างมีคุณภาพ ส่งผลต่อสมอง พัฒนาการ สุขภาพกายและใจที่สมบูรณ์ในที่สุด


ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก:  พ่อโป๊ะ แม่แป้ง (เว็บไซต์ baannada.com)

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up