“ทางสายกลาง” ให้ลูกกินของหวานแบบไม่เสพย์ติด ห้ามมากไปทำลูกเครียดจนแอบกินไม่หยุด

Alternative Textaccount_circle
event

ไม่ให้ลูกกินขนม หรือน้ำอัดลม ดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพฟันของลูกก็จริงอยู่ แต่ “จิตใจ” ลูกล่ะ จะยังดีอยู่หรือเปล่า มาดูมุมมองจากจิตแพทย์กันดีกว่าค่ะ

Q: เราไม่อนุญาตให้ลูกกินน้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ แต่ปู่ย่า ตายาย อากง อาม่า ฯลฯ ให้มาจะทำอย่างไร ปฏิเสธทุกครั้งก็คงไม่ดี แต่ปล่อยไปคงตบะแตกแน่ ตอนนี้ก็แทบจะฉุดกันไม่อยู่แล้วค่ะ

เรื่องทุกเรื่องให้พยายามหาทางสายกลางให้พบ

เอาเรื่องลูกก่อน เด็กๆ ชอบ 2 อย่าง เล่น และ กินขนม ชีวิตที่ได้เล่นและได้กินขนมเป็นชีวิตที่มีความสุขมาก   ผมจึงไม่เห็นด้วยที่เด็กเล็กเอาแต่เรียนและคัดหนังสือโดยได้เล่นน้อยเกินไป และไม่เห็นด้วยที่เราจะเข้มงวดกับเรื่องขนมเสียจนเด็กไม่ได้รับความสุขสมวัยที่เขาควรจะได้

(อ่านเพิ่มเติม ลูกแทบไม่กินลูกอม ทำไมถึงยังฟันผุ?)

ไม่ให้ลูกกินขนม ติดหวาน ฟันผุอย่าฟูมฟายเกินเหตุหากเด็กๆ จะได้รับขนมหวาน ไอศกรีม น้ำอัดลม หรืออาหารไม่มีประโยชน์บ้าง   แต่ยังคงมีกติกาว่าเราให้ได้เท่านี้ไม่มากไปกว่านี้   หรือจะให้ขนมหวานกับไอศกรีมต่อเมื่อเป็นเวลาหลังอาหารมื้อหลักเท่านั้น เป็นต้น ก็แล้วแต่จะกำหนดกัน แต่ที่จะห้ามขาดกันเลยนั้นดูเหมือนจะทำลายจิตวิญญาณเด็กเล็กมากไปหน่อย

ข้อเสียของขนมหวานและน้ำอัดลมคือทำให้ฟันผุและอ้วน อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ชีวิตของผมพบเด็กฟันดีและไม่อ้วน เป็นโรคประสาทเพราะความเคร่งครัดเข้มงวดเหล่านี้มามาก จึงออกจะลำเอียงว่าบางครั้งข้อกำหนดทางสุขอนามัยก็ออกจะขวาจัดเกินไป ยกตัวอย่างสุดโต่งซึ่งเป็นเรื่องจริง ลองนึกภาพเด็กที่ไม่เคยได้รับอนุญาตให้กินไอศกรีมเลยจะเป็นเด็กที่มีความทุกข์มากเพียงใด

อ่านต่อ “ทะเลาะกับปู่ย่าตายายเรื่องเลี้ยงลูกประจำ ทำอย่างไร?” คลิกหน้า 2

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up