COVID-19

แม่ไทยในอิตาลีแชร์ “วิธีรับมือ COVID-19” ในวันที่ต้องปิดประเทศ

Alternative Textaccount_circle
event
COVID-19
COVID-19

ท่ามกลางความกังวลของผู้คนที่มีต่อสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ว่าประเทศไทยเราจะเข้าเฟส 3 หรือยัง? จะประกาศปิดประเทศไหม? ถ้าปิดประเทศต้องอยู่แต่ในบ้าน แล้วเราจะใช้ชีวิตกันอย่างไร?

แชร์ประสบการณ์ จาก “อิตาลี” ถึง “ไทย” เตรียมพร้อมอย่างไร หากต้องปิดประเทศ

ทีมแม่ABK จึงอยากแบ่งปันเรื่องราวประสบการณ์ของ “แม่มะเดื่อ” คุณแม่ไทยที่ใช้ชีวิตในอิตาลีกับสามีและลูกน้อย ว่าเธอมีการวางแผนเตรียมพร้อมตัวเองและครอบครัวอย่างไร ให้อยู่อย่างปลอดภัย มีสติ และมีความสุข ในประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุดในเวลานี้

สถานการณ์เป็นอย่างไรในอิตาลี?

พอคืนวันที่อิตาลีพบผู้ป่วย COVID-19 รายแรก และได้ปิดเขตถึง 11 เขต เป็นพื้นที่เสี่ยงห้ามคนเข้าออก

เช้าวันต่อมาในขณะที่ผู้คนในแคว้นที่ยังไม่ได้เป็นพื้นที่เสี่ยง แต่ก็ตื่นตะหนก

ออกบ้านไปตามหาซื้อเจลแอลกอฮอลล์ ไปตามหาซื้อหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ซึ่งหมดอย่างรวดเร็วหรือไม่มีขายแล้ว แล้วคนออกไปเบียดกันแย่งซื้ออาหารกักตุนซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใส่หน้ากากอนามัยกัน ก็เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อและติดเชื้อ รวมถึงความตึงเครียดต่างๆ ถึงกับมีการต่อสู้ทะเลาะทำร้ายร่างกายกันขึ้น

จนสถานการณ์แย่ลงเรื่อยๆ ผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้น

จนรัฐบาลสั่งปิดประเทศ! ร้านอาหาร คาเฟ่ถูกปิด

มีซุปเปอร์มาเก็ตที่ยังเปิดให้บริการ แต่การจะเข้าไปซื้อยากมาก คิวยาว เว้นระยะห่างในการรอต่อคิว และมีเวลาจำกัดแค่ 15 นาทีในการซื้อสินค้า สินค้ามีไม่พอตามความต้องการ และหากจะสั่งซื้อออนไลน์ก็ถูกจองเต็มจนหมด

 

แม่มะเดื่ออยู่อย่างไร?

บ้านเราโชคดีตรงที่มีอุปนิสัยซื้ออาหารหรือซื้อข้าวของต่างๆ เข้าบ้านเป็นจำนวนเยอะๆ อยู่แล้ว ซื้ออาหารเป็นรายอาทิตย์ ซื้อเรื่อยๆ ก็กลายเป็นสะสม เลยทำให้ไม่ต้องออกไปแย่งซื้อของกับใคร

รวมถึงยาสามัญประจำบ้าน แอลกอฮอล์ และเจลแอลกอฮอล์ที่มีติดบ้าน เราเลยไม่ได้ออกบ้านไปชุลมุนวุ่นวายตรงนั้น เพราะมีทุกอย่างครบแล้ว

อีกทั้งเพราะปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่เราป้องกันตัวเองมาตลอด เลยทำให้เรามีหน้ากากอนามัยครบทุกคนในบ้าน

และการติดตามข่าวสารต่างประเทศ Corona virus ตั้งแต่ต้นปี  และการดูแลสุขภาพอนามัยอยู่เสมอ เลยทำให้เราพร้อมกว่าคนอื่นไปหลายก้าว เราวิเคราะห์ว่าเชื้อไวรัสน่าจะแพร่กระจายไปทั่วโลกแล้ว เพราะคนเดินทางท่องเที่ยวเยอะในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ปีใหม่ ไม่ใช่เฉพาะแต่คนจีน! ที่คนส่วนใหญ่ระแวงแค่กลุ่มเดียว เราเลยระวังตัวมาตลอด โดยใส่หน้ากากมาตลอดอยู่แล้ว และไม่เดินทางไปแหล่งชุมชนเลย และเราเดินทางด้วยรถส่วนตัว

ลูกก็ไม่ได้ไปเรียนอยู่บ้านกับแม่ และเราก็งดไม่ให้ลูกไปสนามเด็กเล่น ไม่ให้ใกล้ชิดเด็กคนอื่นที่เราก็ไม่รู้พ่อแม่เค้าไปไหนกันมาบ้าง

ไม่ต้องกังวลการเข้าสังคม ณ เวลานี้ อีกอย่างเด็กวัย 0-6 ขวบ คนที่ลูกต้องการมากที่สุดคือพ่อแม่ เรื่องเล่นกับเด็กคนอื่นตัดออกไปได้เลย

เล่นในบ้าน
เล่นในบ้าน เลี่ยง COVID-19

ส่วนการเดินทางท่องเที่ยวด้วยเครื่องบินก่อนที่จะมีการปิดประเทศ เรามีทั้งหน้ากาก อนามัยทั้งเจล เรามีพร้อมและปฎิบัติตัวในทางที่เราป้องกันตัวเอง เราใส่หน้ากากอนามัยตลอด เราใส่ใจในอนามัยของตัวเอง มากกว่าจะใส่ใจว่าคนอื่นมองเรายังไง

เราต้องเตรียมตัว คำว่าโรคระบาด มันสามารถแพร่ไปได้ทั่วโลก .. เรื่องเจ็บป่วยมันเป็นเรื่องอนามัยส่วนตัว ทุกอย่างต้องเริ่มที่ตัวเราเองก่อน

และปัญหาการแพร่เชื้อไวรัสนี้ ถูกยกให้เป็น Pandemia แปลว่า ปัญหาระดับโลก ที่ไม่มีพื้นที่ไหนปลอดภัย 100% อีกต่อไป

ไม่ใช่เรื่องไกลตัว เกิดขึ้นก่อน หรือเกิดขึ้นช้า ยังไงก็ต้องเกิด

ในทางกลับกัน ในเมื่ออิตาลีเกิดขึ้นก่อนในยุโรป ถือว่าดี เราจะได้เตือนประเทศอื่น เตือนคนอื่นให้เตรียมตัว ให้เรียนรู้จากความผิดพลาด อย่าเดินตาม แต่ให้ข้ามขั้นไปขั้นสุดท้าย ณ ปัจจุบันเลย คือปิดประเทศ … อย่าลังเล

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

สอนลูกอย่างไร?

รัฐบาลแนะนำว่าควรอยู่บ้าน ถ้าไม่มีอะไรจำเป็นต้องออกบ้าน ก็ไม่ควรออก ยิ่งออกมาก ก็ยิ่งเสี่ยงมาก

แต่อย่าหมกมุ่นอยู่กับข่าว ให้สร้างความสุขภายในบ้าน

คนสำคัญคือลูก สุขภาพกายดีแล้ว สุขภาพจิตต้องดีด้วย พ่อแม่เล่นกับลูกให้มาก ทำกิจกรรมร่วมกัน

ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่ดี ที่เราจะสอนให้ลูกรู้จักชีวิต รู้จักโลก ให้ความรู้กับลูก เรื่องไวรัส

ให้ลูกเข้าใจทำไมถึงออกบ้านไม่ได้ 

เราดูข่าวในทีวี ชี้ให้ลูกเห็น ด้านนอกคนใส่หน้ากากอนามัย หมอแต่งตัวกันเชื้อเหมือนมนุษย์อวกาศ คนป่วยนอนบนเตียง รวมทั้งคนเสียชีวิต เพราะเชื้อไวรัสนี้มันร้ายแรง ยังไม่มีวัคซีนรักษา นี้คือโลกแห่งความจริงที่ลูกต้องระวังตัว เรามีความหวังว่าจะมียารักษา เมื่อเราผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ เมื่อลูกโต

ลูกจะสามารถเล่าให้ใครๆ ฟังได้ว่าพ่อแม่ดูแลและสอนลูกดีแค่ไหน ณ เวลาที่เราหลีกเลี่ยงไวรัสและลดภาระการทำงานของหมอ พยาบาลอยู่บ้าน เป็นการสร้างวินัย กฎของสังคมให้ลูก ไม่ฝ่าฝืน การใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท มันจะเป็นสิ่งที่ติดตัวลูกไปตลอด

อ่านต่อ หากปิดประเทศ แม่ไทยควรเตรียมตัวอย่างไร? คลิกหน้า 2

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up