กุญแจซอล ท้อง

กุญแจซอล ท้อง-หนีออกจากบ้าน เพราะ “การเลี้ยงดู” หรือ “ถูกบงการ”

event
กุญแจซอล ท้อง
กุญแจซอล ท้อง

โดยคุณนึกคิด ยังได้กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ว่า..

ฝ่ายชายทำตัวไม่เหมาะสม อายุก็ปาเข้าไป 38 ปีแล้ว แต่กลับไม่ให้เกียรติลูกสาวในตอนมาสู่ขอ แถมยังมีพฤติกรรมชอบบงการอีกด้วย คือชอบสั่งห้ามให้รับงาน แถมล่าสุด ยังพาไปยกเลิกสัญญากับทางช่อง 7 เรียบร้อยแล้วด้วย

ซึ่งตรงกับความคิดของ แม่มุก-มุกดา บุญทอง ที่พูดถึงเรื่องพฤติกรรมการ “บงการ” ของฝ่ายชายเอาไว้อย่างชัดเจน เพราะตลอดเวลา 8 เดือนที่ลูกหายไปอยู่กับฝ่ายชาย ไม่รับโทรศัพท์ ไม่ตอบไลน์ครอบครัว คุณแม่เคยให้คนที่ติดต่อได้ฝากไปคุยกับกุญแจซอลให้กลับมาบ้าน แต่คำตอบที่ได้ที่ทำให้พ่อแม่รู้สึกเจ็บปวดที่สุดคือ “ต้องปรึกษาพี่นัทก่อน”

ลูกใจแตก เพราะการเลี้ยงดูแบบประคบประหงมเกินไป จริงหรือ?

“การที่คนคนหนึ่งจะเติบโตเป็นยังไง มันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่เรื่องการปลูกฝังอย่างเดียว” รศ.นพ.ศิริ ไชย หงษ์สงวนศรี สาขาวิชาจิตเวชศาสตร์เด็กและวัยรุ่น คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ให้สัมภษณ์ผ่านทางโทรศัพท์กับทางว่าผู้จัดการ Live ว่า ปัญหาใดๆ ที่เกิดจากการตัดสินใจของคนคนหนึ่ง ไม่ควรโทษเรื่องการเลี้ยงดูเพียงอย่างเดียว แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีส่วนไม่น้อยเหมือนกัน

ผลเสียของการเลี้ยงลูกแบบประคบประหงม

ผลกระทบของการเลี้ยงลูกแบบนี้มีหลายทาง คือ ถ้าประคบประหงมแบบช่วยเหลือเขาเยอะ ทำอะไรให้ทุกอย่าง พอโตมา เขาก็จะขาดทักษะหลายๆ อย่างในเรื่องการช่วยเหลือตัวเอง

บางครั้งการที่ดูแลเลี้ยงดูเด็กมาแบบ “สมบูรณ์แบบ” เกินไป คือแทบจะไม่ปล่อยให้เขาได้เจอกับปัญหาอะไรเลย โตขึ้นเขาก็จะเป็นคนที่แก้ปัญหาอะไรไม่ค่อยเป็น ตัดสินใจอะไรไม่ค่อยได้ดีนัก หรือตัดสินใจผิดพลาดเพราะไม่ค่อยได้เจอปัญหา

ส่วนที่ทำให้บางคนทำผิดแล้ว ไม่กล้าบอกความจริง มันก็เป็นที่เข้าใจได้ว่า บางเรื่องมันก็เป็นเรื่องยากที่จะบอก ยิ่งถ้าพ่อแม่ไม่ได้ฝึกทักษะให้เขาจัดการเรื่องต่างๆ ได้เหมาะสมมาตั้งแต่เล็กๆ แล้วด้วยยิ่งยากไปใหญ่

ส่วนใหญ่ถ้าลูกไม่พูดความจริง ไม่ยอมรับผิดกับพ่อแม่ จะเป็นเพราะเขาเคยบอกข้อผิดพลาดไปแล้ว แล้วผู้ปกครองแทนที่จะช่วยประคับประคอง แต่กลับตำหนิมากกว่าเดิม หรือทำอะไรไม่ตรงกับความคิดพ่อแม่ แล้วเด็กจะถูกสั่งสอนให้ทำแบบนี้ๆ ก็จะทำให้เด็กรู้สึกว่า บอกไปก็คงไม่มีประโยชน์อะไร

การจะทำให้ลูกๆ กล้าบอกความผิดพลาดกับพ่อแม่ก็คือ ทำยังไงก็ได้ให้เขารู้สึกว่า บอกแล้วพ่อแม่รับฟัง หรือบอกแล้วจะไม่ถูกซ้ำเติม อยู่เป็นเพื่อน และพร้อมที่จะช่วยแก้ไขปัญหา และที่สำคัญคือต้องปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆ 3-4 ขวบก็สอนได้แล้ว หลายๆ อย่างมันขึ้นอยู่กับเรื่องความสัมพันธ์ว่า เราเข้าใจจิตใจลูก หรือมีเวลาพูดคุยกันแค่ไหน

⇒ Must read : เลี้ยงลูกแบบโอเว่อร์ ระวังลูกด้อยพัฒนา เสียสุขภาพจิต!
⇒ Must read : สปอยล์ลูก มากไป ระวังลูกนิสัยเสีย!

ประคบประหงมแค่ไหน ถึงจะไม่เรียกว่าเกินไป

คุณพ่อคุณแม่ก็ควรดูแลเยอะๆ แค่ช่วงปีแรกครับ พอเขาโตถึงวัย 20 ขึ้นไป ก็ไม่ควรประคบประหงมอะไรมากแล้ว เพราะถือว่าเป็นผู้ใหญ่พอสมควรแล้ว ควรจะช่วยเหลือตัวเองเดินทางไป-กลับเองได้ตั้งแต่ช่วง ม.ต้นหรือ ม.ปลาย ให้ไปขนส่งสาธารณะได้เองบ้างตามความเหมาะสม

ถ้าเอาแนวทางจากคุณหมอ มาวิเคราะห์กับแนวทางการเลี้ยงลูกของครอบครัว “บุญทอง” แล้ว คนที่มองเพียงผิวเผินอาจจะคิดว่า ครอบครัวนี้เลี้ยงลูกแบบ “ไข่ในหิน” อย่างที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์จริง เพราะคนส่วนใหญ่มักจะเห็นภาพคุณพ่อคุณแม่ ไปรับไปส่งลูกสาวตลอดเวลา แม้กระทั่งช่วงลูกประกวดเวที AF ยังตามไปเฝ้าได้เป็นเดือนๆ

ความจริงในการเลี้ยงดูของครอบครัวนี้นั้นเป็นอย่างไร จะมีผลให้ดาราสาวกุญแจซอลเลือกตัดสินใจผิดในวันนี้หรือไม่นั้น เราคงไม่อาจไปตัดสินแทนได้ แต่อย่างไรก็ดีหลังเรื่องราวนี้กลายเป็นประเด็นร้อน ด้านน้องสาวของกุญแจซอล “แจกัน-ปอถักทอง บุญทอง” ก็ได้ออกมาพูดถึงการเลี้ยงดูของครอบครัวเอาไว้ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอ ดังนี้…

กุญแจซอล ท้อง

ซึ่งงานนี้บรรดาแฟนคลับและคนใกล้ชิด ต่างเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจกันอย่างมากมายทั้งสองฝ่าย และอยากให้เรื่องทั้งหมดผ่านพ้นไปได้ด้วยดี!

อ่านต่อ >> “วิธีแก้ไขเมื่อลูกกลายเป็นเด็กใจแตก” คลิกหน้า 3


ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก FB Jaegun Boonthong

ข่าวโดย ผู้จัดการ Live : mgronline.com

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up