โลกหมุนได้ด้วยความรัก ไม่ใช่ความชัง

โลกหมุนได้ด้วยความรัก..ไม่ใช่ความชัง

Alternative Textaccount_circle
event
โลกหมุนได้ด้วยความรัก ไม่ใช่ความชัง
โลกหมุนได้ด้วยความรัก ไม่ใช่ความชัง

ในช่วงปีที่ผ่านมา เรื่องความไม่ลงรอยและการเลือกปฎิบัติระหว่างคนผิวขาว โดยเฉพาะตำรวจและคนผิวดำในอเมริกานั้นกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง หลายคนอาจคิดว่ามีความเท่าเทียมกันอย่างแท้จริงระหว่างคนผิวขาวกับคนผิวดำในอเมริกา ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ปมความขัดแย้งยังเกิดขึ้นตลอดเวลา และคนผิวดำมักถูกเลือกปฎิบัติแบบสองมาตรฐานอยู่เสมอในสังคม คุณพ่อนักเขียนคนหนึ่งคือ เดวิด เดนนิส ผู้ซึ่งมีลูกชายเป็นออทิสติก ได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาในกรณีที่ตำรวจนิวยอร์กฆ่ารัดคอชายผิวดำคนหนึ่งเพียงเพราะสื่อสารผิดพลาด

“ลูกชายผมเป็นคนผิวดำและเป็นออทิสติก จำคนผิวดำที่ถูกตำรวจนิวยอร์กรัดคอจนตายที่ชื่ออีริค การ์เนอร์ได้ไหมครับ เรื่องนี้ติดอยู่ในความทรงจำของผมอย่างไม่รู้ลืม อีริค การ์เนอร์เป็นคนขายบุหรี่ แต่เพราะไม่สามารถสื่อสารให้ตำรวจเข้าใจในเวลานั้นได้ จึงถูกฆ่าตายโดยปราศจากความผิด”

เดวิดกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเพราะลูกชายผิวสีของตนเป็นออทิสติก จึงกังวลใจว่าเมื่อลูกชายโตเป็นหนุ่มแล้วจะไม่สามารถสื่อสารให้ตำรวจเข้าใจได้ และอาจจะทำให้เข้าใจผิดจนนำไปสู่โศกนาฎกรรม

“เมื่อสองเดือนที่แล้ว หมอบอกว่าลูกชายผมเป็นออทิสติกและจะต้องมีปัญหาทางด้านการสื่อความอย่างแน่นอนเมื่อโตขึ้น คุณลองคิดดูสิครับ ชายอเมริกันผิวดำที่ไม่สามารถจะสื่อสารหรืออธิบายกับตำรวจได้นั้นอันตรายขนาดไหน หากประเด็นการเลือกปฎิบัติกับคนผิวสีของตำรวจยังคงเป็นแบบนี้ ผมเลยพยายามศึกษาหาความรู้ว่าพ่อแม่ที่มีลูกออทิสติกนั้นควรทำอย่างไรในการดูแลลูก เพราะความกลัวที่ลูกจะไม่สามารถอยู่ในโลกใบนี้ได้เหมือนคนอื่นๆ ถ้าตำรวจฟังที่ลูกผมพูดไม่รู้เรื่อง ตำรวจอาจจะยิงลูกชายผมก็ได้ ผมเคยโดนตำรวจเรียกให้จอดรถข้างถนนโดยที่ไม่ได้ทำอะไรผิดแล้วตะคอกใส่มาแล้ว ผมเลยไม่แน่ใจว่าลูกชายผมซึ่งเป็นออทิสติกจะตอบโต้อย่างไร ทุกครั้งที่ผมนั่งดูวิดีโอเกี่ยวกับผู้บริสุทธิ์ที่ถูกตำรวจฆ่าเพราะความเข้าใจผิดแล้วผมนึกห่วงลูกเสมอ เพราะโลกนี้ไม่ได้เที่ยงธรรมอย่างที่ควรจะเป็นสำหรับคนผิวสี”

“ช่วงแรกๆ ผมคิดว่าเป็นความผิดของตัวเองด้วยซ้ำ เพราะลูกง่วนอยู่กับผมถึงเก้าเดือนในบ้านซึ่งผมทำงานที่บ้านในฐานะนักเขียน แม้นักจิตวิทยาจะบอกว่าอาการออทิสติกไม่ได้เกิดจากการอบรมเลี้ยงดูของพ่อแม่ก็ตาม แต่ผมก็ยังรุ้สึกผิดอยู่ดี ผมโทษตัวเองซ้ำๆซากๆ ว่าเป็นตัวการที่ทำให้ลูกชายเป็นเด็กออทิสติก เพราะผมไม่ได้เอาใจใส่ลูกเท่าที่ควรเพราะมัววุ่นอยู่กับการเขียนหนังสือทุกวัน เราต้องบอกให้ทุกคนรอบข้างรู้ว่าลูกชายของเราเป็นเด็กออทิสติกและทำให้ทุกคนเข้าใจลูกชายของเราได้ดีขึ้น หากการสื่อสารระหว่างกันไม่ชัดเจน ลูกชายผมไม่ใช่เด็กพิการหรือเป็นเด็กที่ไม่น่ารักแต่อย่างใด แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เราก็จะมอบความรักทั้งหมดที่มีให้แก่ลูกเพราะนั่นคือสิ่งสำคัญที่สุดที่ลูกชายผมต้องการ” เดวิดสรุป

 

เรื่อง : เจริญขวัญ

ภาพ : shutterstock

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up