บีม วรานิษฐ์

เปิดใจซิงเกิ้ลมัมคนเก่ง “บีม” วรานิษฐ์ จิราโรจน์เจริญ

Alternative Textaccount_circle
event
บีม วรานิษฐ์
บีม วรานิษฐ์

พยาบาลก็เข้ามาถามว่ามีลมเบ่งหรือยังคะ อะไรคือมีลมเบ่งคะ (หัวเราะ) เราก็ถามกลับไม่เข้าใจ พยาบาลอธิบายว่าเวลาปวดแล้วมันจะมีลมเบ่งอัตโนมัติ อ่อๆ ใช่ค่ะมาแล้วค่ะ พอพยาบาลมาดู โอ้โหนี่เต็มที่แล้ว ขึ้นขาหยั่งเลยค่ะคุณแม่ ทำไมไม่บอกก่อนคะ นี่จะคลอดแล้ว

เราก็ทนไงเพราะเราไม่รู้ว่าแบบนี้คือใช่แล้ว หมอก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา อย่าเพิ่งเบ่งนะคะ ฉีดยาชาก่อน เป็นโมเมนต์ที่แปลกดี คือเป็นคนที่มีความอดทนสูง ก็หมอบอกอีกนานเราก็ทน (หัวเราะ)

ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี เราได้เข้าใจการปวดท้องคลอดลูก ว่ามันเป็นอย่างไร ถ้าถามบีมว่าการที่เรารักแม่มากขึ้น ไม่ใช่ตอนที่เราคลอดลูกหรอกค่ะ อาจเพราะว่าบีมเจ็บท้องไม่นานก็คลอด แต่ตอนที่เราได้เลี้ยงลูกนี่แหละ รักแม่มากเลย เพราะเราจะเข้าใจ ว่ามันเหนื่อยมากกก ช่วงแรกที่ตอนเลี้ยงเอง แผลก็ยังเจ็บ จะลุกจะนั่งก็ลำบาก เจ็บมาก เข้าใจหัวอกคุณแม่เลยว่าท่านเสียสละแค่ไหน”

 

            น้ำตาของแม่

บีม our story 06 2016 - 3            “ตอนที่เห็นหน้าลูกครั้งแรก ก็ไม่ได้ซึ้งน้ำตาไหล แค่เฮ้ยนี่คือลูกเรา หน้าเหมือนเราตอนเด็กๆเลย ไม่รู้เข้าข้างตัวเองหรือเปล่านะ(หัวเราะ) พอพยาบาลอุ้มไปเช็ดเนื้อเช็ดตัว เสียงร้องหวีดแหลมมาก เสียงดังฟังชัด เราก็โล่งใจลูกแข็งแรงดี

พอตอน 2 ทุ่ม เราต้องเดินไปให้นมเอง โซรก็เริ่มงับ ดูดเต้า ตอนนั้นก็ยังไม่ได้มีน้ำนมอะไรหรอก แต่มันเป็นสัมผัสที่มีความสุขที่สุด ตอนแรกเราคิดว่าถ้าลูกเข้าเต้ามันต้องจั๊กจี้แน่ๆเลย แต่พอถึงเวลาจริงๆ แล้วไม่เลย มันเป็นโมเมนต์ที่อบอุ่นมาก ชอบมาก เป็นสายใยของแม่ลูก มองเขาดูดนมเรา นอนหลับมีความสุข ตอนนี้ก็เริ่มซึ้งล่ะ แต่ยังไม่น้ำตาไหล เพราะเป็นคนที่ร้องไห้ยาก (หัวเราะ)

แต่พอกลับบ้าน น้องโซรเขามีภาวะตัวเหลือง กลับมาบ้านสองวัน ก็ต้องกลับไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกรอบ หมอก็บอกให้นอนส่องไฟหนึ่งคืนนะ ทั้งๆที่รู้ว่าไม่เป็นไรอยู่แล้ว แต่พอเห็นลูกนอนส่องไฟ … น้ำตาไหลพรากเลย เบลกับแม่หันมามอง แล้วก็ถามร้องทำไม หลังจากนั้นก็ร้องกัน 3 คนเลย พยาบาลต้องเอาทิชชูมาให้ เราก็ขอโทษนะคะ รู้ว่าลูกไม่เป็นอะไร แต่อยู่ๆก็สงสารลูก กลับบ้านมาก็ร้องต่อ คิดถึงลูก คือบีมรักเขามาก ไม่อยากให้ห่างไปไหน พอเจอแบบนี้ก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่จริงๆ”

 

            “ลูก” คือพลังที่ยิ่งใหญ่

            “ตั้งแต่คลอดน้องโซรมา บีมกับคุณแม่และเบล ก็จะช่วยกันเลี้ยง ถ้าเราติดงาน ก็อยากให้คนในครอบครัวดูแลเขา เพราะฉะนั้นจะไม่มีใครพลาดสักโมเมนต์เดียวของเขา เราจะได้เห็นพัฒนาการของลูกในทุกๆวัน

ถามว่าเหนื่อยไหม…เหนื่อยมากนะ การเป็นแม่คนนี่เหนื่อยมากเลย ช่วงเดือนแรกๆที่เลี้ยงเอง ไม่ได้นอนไม่ได้กิน น้ำหนักลดฮวบ นี่น้ำหนักน้อยกว่าตอนที่ก่อนท้อง เหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่ว่าเป็นความเหนื่อยที่มีความสุข

บีมก็เคยนั่งๆอยู่แล้วน้ำตาไหล ทำไมฉันเหนื่อยขนาดนี้ (หัวเราะ) หรือในบางวันให้คุณแม่ช่วยเลี้ยงแล้วเขาเหนื่อย พอเห็นแม่เหนื่อย เราก็เสียใจ แต่ว่าพอคิดอีกที ตอนเหนื่อยก็เหนื่อย แต่โมเมนต์ที่เขายิ้ม หัวเราะ เขาหัดเรียกแม่ เขาเริ่มตั้งไข่ เริ่มเดิน เขาทำให้เราหัวเราะ มันเป็นความเหนื่อยที่มีความสุข คือเวลาที่สุขมันก็จะสุขมากๆ เป็นความสุขที่เงินซื้อไม่ได้ มันคุ้มค่ากับความเหนื่อยที่ผ่านมา ส่วนตัวคุณยายที่บ่นว่าเหนื่อยๆ แต่พอน้องโซรเข้ามากอดเข้ามาหอม ก็หายเหนื่อย มันเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก เพิ่มพลังให้เรามากๆ

บีมเชื่อว่าคนเป็นแม่ในวันที่เหนื่อยที่สุดหรือคิดว่าฉันไม่ไหวแล้ว มันจะมีก๊อก 2 ก๊อก 3 มาเอง ไม่รู้ว่าเอาแรงเอาพลังมาจากไหน แล้วคนที่บอกว่าไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นแม่คนได้ ลองมีสิคะเป็นได้ทุกคน สัญชาตญาณมันจะมาทันที ความเข้มแข็งหรือพลังจะเข้าร่างเลย (หัวเราะ) นอนไม่ถึง 2 ชั่วโมง ฉันก็ใช้ชีวิตอยู่ได้ สามารถอาบน้ำภายใน 3 นาทีได้ ไม่มีเวลาส่วนตัว ทุกอย่างให้ลูกหมด แต่ทั้งหมดมันคือความสุข”

 

อ่านต่อ “เปิดใจซิงเกิ้ลมัมคนเก่ง “บีม” วรานิษฐ์ จิราโรจน์เจริญ” คลิกหน้า 3

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up