[Blogger พ่อเอก-54] ปูนปั้น คืนนี้นอนไหนดีครับ

Alternative Textaccount_circle
event

ในครอบครัวเล็กๆ ของเรา เราอยู่กันแค่ 3 คน พ่อ แม่ ลูก แต่แม้จะอยู่แค่ 3 คน แต่เราก็มักจะหาอะไรใหม่ๆมาทำกันเสมอ เพราะเราเชื่อว่าครอบครัวและบ้านเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุด ความเชื่ออย่างเดียวคงทำอะไรไม่ได้ เราจึงสอนและทำให้ปูนปั้นได้เรียนรู้ความสุข ความสนุกในครอบครัวในบ้าน เมื่อเป็นเช่นนั้นทุกอย่างในบ้านสนุกได้ แม้กระทั่งการเข้านอน ดังนั้นคำถามที่เกิดขึ้นเสมอ ในคืนวันศุกร์ ก็คือ

“ปูนปั้น คืนนี้นอนไหนดีครับ”

แม้เราจะชอบเปลี่ยนที่นอนโดยการไปเที่ยวอยู่เสมอ (ถ้าใครที่ได้อ่านเรื่องราวของปูนปั้นมาเรื่อยๆ จะเห็นว่าเป็นเด็กนักเดินทางประมาณนึงทีเดียว) แต่ก็ใช่ว่า เราจะเปลี่ยนบรรยากาศการนอนในบ้านไม่ได้เสียที่ไหนกัน ครอบครัวเราอาศัยในบ้านหลังเล็กๆ หลังหนึ่งขอบกรุงเทพฯ ที่สร้างมาจากน้ำพักน้ำแรงในการทำงานของเราทุกบาททุกสตางค์ ผมเชื่อเสมอว่า บ้านที่น่าอยู่ คือบ้านที่จัดให้อยู่ในแบบที่เราชอบ เคยมีคนพูดไว้ ว่าเวลาไปเที่ยวชอบพักแบบไหน ก็จัดบ้านให้เป็นแบบนั้น ดังนั้นบ้านเราจึงมีต้นไม้เยอะทีเดียวฮะ

การจัดบ้าน ของใช้ในบ้าน อาจจะจะแปลก ในสายตาคนอื่น แต่ มันคือความคุ้นเคยในแบบของเราเราทำให้ทุกที่ในบ้านสามารถนอนได้ เพื่อที่เราจะได้เปลี่ยนบรรยากาศในการนอนเมื่อไหร่ก็ได้

ห้องนอน

ที่นอนประจำของเรา ก็คือห้องนอนของปะป๊า หม่าม๊า ซึ่งก็จะมีเตียงที่ปะป๊า หม่าม๊านอน วางติดกับเตียงของเจ้าปูนปั้น คืนไหนเกิดเจ้าตัวป่วนตื่นขึ้นมากลางดึก เจ้าตัวป่วนก็ปีนข้ามมานอนกับ ปะป๊า หม่าม๊าได้ ดังนั้นส่วนใหญ่เราจะนอนกันที่นี่แหละครับ เพราะเป็นห้องนอน ก็เหมาะที่สุดสำหรับการนอน

ห้องในอนาคตของลูก

อีกห้องที่เราใช้นอนในบางครั้ง เป็นห้องที่เราเตรียมไว้ให้ปูนปั้นใช้เป็นห้องนอนตอนเขาโตขึ้น ดังนั้นตอนนี้จึงยังเป็นห้องโล่งๆ แต่เราได้ใช้นอนในบางครั้ง ครั้งแรกที่เราใช้นอนคือตอนที่ปูนปั้นป่วยท้องเสียเราย้ายมาห้องนี้ แล้วเอาที่นอนง่ายๆปูพื้น เผื่อเจ้าตัวป่วนเกิดอึพรวดออกมาจะได้จัดการได้ง่ายๆ ดังนั้นห้องนี้ออกแนวเฉพาะกิจ แต่ปัจจุบันก็เป็นห้องที่ปูนปั้นอยากนอน เพราะรู้ว่าของเล่นที่เราเอามาเก็บไม่ให้เล่นในวันธรรมดาถูกเก็บอยู่ห้องนี้ ดังนั้นนี่คือห้องมหาสมบัติของเจ้าปูนปั้นเลยทีเดียว

ห้องรับแขก

บางคืนเราอยากนั่งดูทีวีขึ้นมา เราก็ย้ายกันมานอน ที่หน้าห้องรับแขก โดยนอนตรงหน้าทีวีนั่นแหละฮะ นอนกันระเกะระกะ หม่าม๊านอนกะปูนปั้นบนฟูกที่ปูบนพื้น ส่วนปะป๊าก็นอนบนโซฟา ความสนุกในการนอนตรงนี้ นอกจากปะป๊ากะหม่าม๊าจะได้ดูหนังกันสักเรื่องตอนที่เจ้าปูนปั้นหลับไปแล้ว อีกอย่างก็คือ ในวันหยุดที่ปะป๊า หม่าม๊า อยากตื่นสายหน่อย แต่เจ้าปูนปั้นก็ยังตื่นก่อน 6 โมงอยู่ดี ซึ่งถ้านอนในห้องนอนชั้นบน จะเป็นหน้าที่ปะป๊าในการพาเจ้าปูนปั้นลงมาเล่นข้างล่าง ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่นเพื่อให้หม่าม๊านอนต่ออีกหน่อย แต่เมื่อเรานอนที่ห้องรับแขก ตื่นปุ๊บ ปูนปั้นก็สามารถเดินไปลากของเล่นได้ตามสบายใจ ส่วนปะป๊าก็ได้นอนต่ออีกพักใหญ่

หน้าบันได

อีกที่หนึ่งที่เราใช้นอนเรื่อยๆ คือ หน้าบันไดกลางบ้านนั่นแหละฮะ นอนตรงนั้นรู้สึกโล่งดีฮะ ให้ความรู้สึกเหมือนนอนกลางห้องประชุมเล็กๆที่มีทุกอย่างพร้อมรอบๆตัว ก่อนนอนจะกินขนม ดื่มน้ำก็เขยื้อนตัวไปนิดเดียว และตรงนี้ก็เช่นกัน เมื่อเจ้าตัวป่วนตื่นมาตอนเช้าก็หาของเล่นได้รอบๆ ตัว ให้โอกาสปะป๊าได้นอนต่ออีกหน่อยนึง

เฉลียงข้างบ้าน

ที่นอนใหม่ล่าสุดที่เราเพิ่งได้ใช้เมื่อตอนต้นปีคือเฉลียงไม้ข้างๆ บ้าน ที่ก่อนหน้านี้เป็นเฉลียงโล่งๆ แต่เราเพิ่งมากั้นกระจกเป็นห้องที่ใช้นอนมองฟ้า หันซ้ายหันขวาก็เจอต้นไม้ เหมือนได้ไปนอนบ้านไม้ต่างจังหวัด เป็นอีกห้องนอนที่ครอบครัวเราโดยเฉพาะปะป๊าชอบมาก และผมก็ชอบให้ปูนปั้นนอนตรงนั้นเพราะรู้สึกว่าอยู่ใกล้ธรรมชาติ แต่แล้วมีอยู่คืนนึงเราต้องอพยพกันจ้าละหวั่น เพราะฝนตกหนักมากแล้วทั้งละอองฝน และน้ำฝนรั่วลงมากระจายไปทั่ว ทำให้เราต้องอุ้มเจ้าตัวยุ่งที่หลับอยู่เข้ามานอนกันด้านใน สาเหตุคือเมื่อก่อนมันเป็นเฉลียงโล่งๆพอฝนตกพื้นเฉลียงก็จะเปียกไปทั่ว เราเข้าใจว่าเกิดจากฝนสาดเข้ามา แต่จริงๆ แล้วมันเปียกเพราะหลังคาโพลีไวนิลรั่วด้วย เพราะอายุ 4 ปีแล้วคงเริ่มกรอบและปริ (ขณะที่เขียนต้นฉบับช่างกำลังเปลี่ยนหลังคาอยู่ เย็นนี้ปูนปั้นกลับมา ปะป๊าจะชวนให้นอนคืนนี้ ที่ห้องใต้แสงดาว)

แม้จะดูเหมือนเรามีที่นอนให้เลือกเปลี่ยนเล่นที่บ้าน แต่เรายังไม่หยุดหาที่นอนใหม่กันนะฮะ ที่เอาเรื่องนี้มาเล่าให้ฟัง เผื่อครอบครัวผู้อ่านจะลองเอาไปเล่นกันดูฮะ เด็กที่นอนยากอาจจะนอนง่ายขึ้น หรือคืนนั้นอาจจะมีเรื่องราวใหม่ๆ ให้ประทับใจก่อนนอน หรือเจ้าตัวเล็กอาจจะหลับฝันดีกว่าเคย หรืออาจจะกลายเป็นห้องนอนถาวรใหม่ไปเลยก็ได้นะฮะ ใครจะไปรู้

หน้าหนาวปีนี้ เราหวังว่าจะมีคืนที่อากาศเย็นมากพอ เพราะเราวางแผนจะซื้อเต็นท์ตัวเล็กๆ ไปกางในสนามหญ้า และผมยังหวังว่าคืนนั้นท้องฟ้าจะมืดพอ เพื่อที่ก่อนปูนปั้นจะหลับตา ผมจะได้มีโอกาสร้องเพลงที่ใช้กล่อมเขานอนตั้งแต่อยู่ในท้อง และได้สอนให้เขานับดาวจริงๆเสียที( อ่านเรื่อง ‘แม้เจ้าอยู่ในท้อง พ่อก็จะร้องเพลงกล่อม’ ประกอบครับ)

‘…. ทำตาพริ้มอิ่มนมแล้วอย่างนี้ นอนเถอะนะเจ้าตัวดี จะให้พ่อร้องทั้งคืนหรือไร

พ่อจะสอนเจ้าเอาไหม ให้นับดาว

อยู่บนฟ้าสุขสดใส คือแสงดาว

พ่อจะสอนเจ้าเอาไหม ให้นับดาว

แปดหมื่นสอง แปดหมื่นสาม …. ’

 

54 (5) 54 (4) 54 (3) 54 (2)

 

 

 

 

ติดตามเรื่องราวความน่ารักของครอบครัวน้องปูนปั้นได้ใน คอลัมน์ FAMILY BLOGGER : ได้ทุกสัปดาห์แวะไปดู รอยยิ้มหวานฉ่ำ ที่มีแจกฟรีทุกวันได้ที่

Facebookwww.facebook.com/Poonpun.Poonpoon นะครับ

 บทความโดย: บรรทัดที่สิบเอ็ด (พ่อเอก-จิรัฏฐ์ สิริเฉลิมพงศ์)

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up