blog ครอบครัว

[Blogger พ่อเอก-40] ปูนปั้นกับวันดีดี …ที่สวนสัตว์

Alternative Textaccount_circle
event
blog ครอบครัว
blog ครอบครัว

       อย่างน้อยมันก็เป็นความเชื่อของผม …

       ผมเชื่อว่า … หนึ่งในความทรงจำที่ชัดเจน หนึ่งในความทรงจำที่สนุกสนานเกี่ยวกับการไปเที่ยวตอนเด็กๆ ของคนส่วนใหญ่จะต้องมี ‘สวนสัตว์’ เป็นหนึ่งในนั้น

       ผมเองยังจำภาพตอนไปเที่ยวเขาดินสมัยตัวกะเปี๊ยกได้ดี แม้ว่าพอโตขึ้นมา แล้วได้กลับไปเที่ยวเขาดินอีกครั้ง แล้วผมกลับรู้สึกว่า ‘ทำไมไม่เหมือนในความทรงจำ’ ก็เถอะ เขาดินในความทรงจำของผมตอนเด็ก มันช่างใหญ่โตมโหฬาร ผมจำได้ว่ามันมีเนินเขาและมีหญ้าสีเขียวทั้งเนิน ผมจำได้ว่ามีช้างที่เขาดินหลายเชือก จำได้ถึงเวทีมวยทะเลที่เป็นรายการถ่ายทอดสดสุดฮิตทางทีวี (น่าจะเป็นช่อง 9) ในสมัยนั้น จำได้ถึงการได้ไปปั่นเรือถีบในสระที่เขาดิน จำความรู้สึกได้ว่าสระมันช่างใหญ่โต จนแอบกลัวลึกๆว่า ถ้าเราไม่มีแรงปั่นกลับเข้าฝั่งจะทำยังไงดี

       กว่าคนเราจะได้กลับไป เขาดินอีกสักครั้ง ก็มักจะต้องรอมีลูกของตัวเอง หรือไม่ก็พึ่งหลาน คงมีหนุ่มสาวชาวกรุงไม่มากนักที่ไปจีบกันที่เขาดิน

       สำหรับผม กว่าจะได้กลับไปเขาดินก็ต้องรอให้เจ้าปูนปั้นพาไป ผมพูดไม่ผิดหรอกครับ ที่ว่า ‘เจ้าปูนปั้นพาผมไปเขาดิน’ เพราะถ้าไม่มีเจ้าปูนปั้น ผมคงไม่ได้กลับไปเขาดินเป็นแน่

       เราพาปูนปั้นไปเที่ยวเขาดินครั้งแรกในช่วงวันหยุดปีใหม่ปีนี้นี่เองครับ ตอนนั้นเจ้าปูนปั้นอายุได้ขวบนิดๆ ผมยังจำได้ถึงสายตา น้ำเสียงของความสนุกสนาน ตื่นเต้นตอนที่เจ้าปูนปั้นได้เห็นสัตว์ตัวใหญ่ๆ จริงๆ กับตา เพราะก่อนหน้านี้นอกจากเห็นในหนังสือ เล่นกับตุ๊กตาสัตว์ตัวเล็กๆ หรือดูภาพเคลื่อนไหวจากรายการสารคดีตามทีวีแล้ว สัตว์ตัวใหญ่ที่สุด ไม่ว่าจะเป็น elephant แป๋นแป๋น horse ก๊อบก๊อบ ตัวใหญ่ที่สุด ที่เจ้าปูนปั้นเคยเจอ ก็เท่าตัวปะป๊านี่แหละครับ

       การเที่ยวเขาดินครั้งนั้นนอกจากเห็นสัตว์ต่างๆ ปูนปั้นยังได้สนุกสนานตื่นตากับการแสดงของสัตว์หลายอย่าง เช่นนกเพนกวิน ลิง เป็นต้น ซึ่งสมัยผมเด็กๆ เขาดินยังไม่มีการแสดงเหล่านี้ นอกจากนั้นเจ้าปูนปั้นยังได้ให้ให้นมแพะโดยเขาจะมีนมแพะใส่ขวดแล้วเราก็ซื้อมาป้อนแพะซึ่งเจ้าปูนปั้นสนุกตื่นเต้นมาก ได้ให้อาหารปลา รวมไปถึงการเดินทางภายในเขาดินด้วยรถไฟก็ทำให้เจ้าปูนปั้นมีทั้งรอยยิ้มและดวงตาสดใสเป็นประกาย ในราคาที่ครอบครัวส่วนใหญ่จ่ายสบายๆ

       ครั้งที่ 2 ที่ได้พาเจ้าปูนปั้นไปใกล้สัตว์คือ เมื่อกลางปีนี้นี่เองครับ เราสามคนพ่อแม่ลูกไปพักผ่อนที่ภูเก็ตเราเลยได้โอกาสพาเจ้าปูนปั้นไปเที่ยวที่ Tiger Kingdom ในตอนแรก ผมเองก็กังวลเล็กๆ ที่จะพาเจ้าปูนปั้นตัวจิ๋วเข้าไปใกล้ๆ เสือ แต่หม่าม๊าผู้ชอบการผจญภัยและความตื่นเต้น บอกว่า เขาเที่ยวหลายครั้งแล้ว สนุกดีและประทับใจ ผมก็เลือกเชื่อใจหม่าม๊า พอเข้ามาซื้อตั๋ว ถึงได้รู้ว่า ผู้เข้าชมแต่ละวัยเจอเสือในวัยแตกต่างกัน เช่น ครอบครัวเรามีเจ้าปูนปั้นตัวป่วนก็จะชมได้แต่เสือเด็กน้อยเท่านั้น ผมก็เลยเบาใจขึ้นมาหลายขีด แต่ค่าตั๋วที่แพงหูฉี่ (สำหรับผม) ก็ทำให้กังวลอีกรอบว่า ถ้าเจ้าปูนปั้นเข้าไปแล้วเกิดกลัว ไม่ยอมเข้าไปใกล้เสือ เราก็เสียเงินฟรี (เคล็ดลับเล็กน้อย สำหรับคนไทย ค่าตั๋วต่อรองได้นะครับ และถ้ามีตัวเล็กก็ต่อรองให้ลดได้อีก เหมือนเจ้าหน้าที่จะมี authorize ระดับหนึ่งในการตัดสินใจ) แต่ผิดคาด พอเจอเสือเจ้าปูนปั้นก็จับและลูบขน แม้จะดูลังเลในตอนแรก แต่พอคุ้นเคย ก็เอาหน้าเข้าไปใกล้ๆ เสือ เพื่อถ่ายรูป ผมเชื่อในสัญชาติญาณความบริสุทธิ์ของความเยาววัยทั้งคนและสัตว์ สรุปว่านั่นก็เป็นอีกครั้งที่ เจ้าปูนปั้นดูมีความสุขมากๆ เพราะตอนเดินผ่านบริเวณเสือขนาดใหญ่เจ้าปูนปั้นก็ขอเข้าดูใกล้ๆกรง แล้วก็ดูตื่นเต้นทีเดียว กับประโยคว่า “Tiger. Big  one.”

       ครั้งล่าสุดเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมานี่เองครับ เราพาเจ้าปูนปั้นไป ซาฟารีเวิลด์ครั้งแรก (มันไม่ใช่แค่ครั้งแรกของปูนปั้น แต่เป็นครั้งแรกของปะป๊าด้วย) พอรถผ่านประตูเข้าไปถึงบริเวณที่เป็นสวนสัตว์เปิดเท่านั้นแหละครับ เสียงปูนปั้นดังลั่น กรี้ดกร้าด หัวเราะ เพราะได้เห็นกวางฝูงโต เดินผ่านรถไปมา แล้วเสียงเรียก Rhino ดังปรี้ด ก็ออกมาจากเจ้าปูนปั้นเมื่อมาถึงฝูงแรด จากตรงนี้เราก็ต้องยอม เอาเจ้าปูนปั้นออกจาก car seat กันหละ เพราะเจ้าปูนปั้นตื่นเต้นมากเหลือเกิน (ในนั้นขับรถเร็วไม่ได้อยู่แล้วครับ) และเมื่อข้ามมาถึงยีราฟฝูงโต เจ้าปูนปั้นก็ทำท่าคอยาว สนุกสนานมากๆครับ เราเองก็ยิ้มแก้มปริไปด้วย กิจกรรมวันนั้นเป็นความสนุกมากๆ สำหรับปูนปั้น เพราะได้ให้อาหารนก ที่บินมาเกาะที่มือเราเลย (แต่ตรงนี้เจ้าปูนปั้นขยะแขยงครับ เพราะกรงเล็บของนกเวลาเกาะมันจะจิกแล้วเจ้าปูนปั้นคงเจ็บ) แต่กับประสบการการให้กล้วยกับเจ้ายีราฟที่ยื่นคอมาแย่งกันกิน อย่าว่าแต่จะอยู่ในความทรงจำสวยงามของเด็กๆ เลย กับผู้ใหญ่อย่างเรา ก็คงลืมไม่ลง

       นอกจากนั้นการแสดงของสัตว์ต่างๆ ทั้ง ปลาโลมา แมวน้ำ และ นก ก็ทั้งสนุกสนาน ทั้งน่าตื่นเต้น ยิ่งตอนเข้าไปถ่ายรูปกับทั้งแมวน้ำและโลมา เราได้แอ็คขำขำของเจ้าตัวป่วนเยอะทีเดียว เมื่อเขาโตขึ้นมา เรามานั่งดูรูปเหล่านี้ หม่าม๊ากับผมคงมีเรื่องเล่าหยอกล้อกับเจ้าปูนปั้นไม่น้อยเลย

       ถ้าคุณอยากให้เจ้าตัวน้อยของคุณมีภาพที่งดงามกับครอบครัว … ทำไม ไม่ลองพาครอบครัวไปเที่ยวสวนสัตว์กันล่ะครับ

       การไปเขาดินครั้งล่าสุดของผม เมื่อนำไปเทียบกับภาพในความทรงจำในอดีต ผมพบว่าเกือบทั้งหมดมันหายไป ผมไม่แน่ใจว่า เนินเขานั้นมันเคยมีอยู่จริงหรือไม่ แต่ผมกลับนึกภาพมันออกได้ชัดเจนมาก ผมพาปูนปั้นไปเขาดินครั้งล่าสุด ผมก็ไม่เห็นช้างที่นั่นเลย และผมก็ไม่แน่ใจอีกเช่นกัน ว่ามันเคยมีช้างที่เขาดินหรือเป็นแค่จินตนาการของผม แต่ตราบใดที่มันงดงาม ผมก็ไม่จำเป็นต้องไปตามหาความจริงมิใช่หรือ … ทิ้งให้มันอยู่ในความทรงจำเช่นนั้นน่าจะดีกว่า

        ขอบคุณเจ้าปูนปั้นที่ทำให้ปะป๊าได้เห็นภาพรอยยิ้มในวัยเด็กของตัวเอง … และเมื่อปะป๊าจูงหนูก้าวข้ามรั้วเข้าไปในสวนสัตว์ หนูรู้มั้ยว่า … หัวใจปะป๊าเต้นแรงไม่น้อยกว่าหนูเลย

      ติดตามเรื่องราวความน่ารักของครอบครัวน้องปูนปั้นได้ในคอลัมน์ FAMILY BLOGGER : www.real-parenting.com  ได้ทุกสัปดาห์

 แวะไปดู รอยยิ้มหวานฉ่ำ ที่มีแจกฟรีทุกวันได้ที่

www.facebook.com/Poonpun.Poonpoon นะครับ

 

บทความโดย: บรรทัดที่สิบเอ็ด (พ่อเอก-จิรัฏฐ์ สิริเฉลิมพงศ์)

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up