blog ครอบครัว

[Blogger พ่อเอก-29] ของเล่นชื่อ ‘ปะป๊า’

Alternative Textaccount_circle
event
blog ครอบครัว
blog ครอบครัว

          ‘ข อ ง เ ล่ น ที่ ดี ที่ สุ ด ข อ ง ลู ก ก็ คื อ   ตั ว ห ม่ า ม๊ า   แ ล ะ   ป ะ ป๊ า ’  ถ้าคิดตามหลักวิชาตรรกศาสตร์  เรียกได้ว่าเป็น “สั จ นิ รั น ด ร์ –  Tautology”   เพราะสิ่งนี้เป็นจริงเสมอ

 

          พอผมมีเจ้าปูนปั้นมันทำให้ผมนึกย้อนไปถึงสมัยที่ผมยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ ที่ในสายตาผมตอนนั้น ปะป๊าคือยอดมนุษย์ผู้มีท่อนแขนทรงพลัง ที่แม้ผมจะใช้ 2 แขนโยก ก็ไม่สามารถงัดข้อชนะแขนเดียวของปะป๊าได้เลยสักครั้ง

          ปะป๊า คือ บาร์ที่มีระบบเซนเซอร์ป้องกันการตก โหนยังไงก็ปลอดภัย

          ปะป๊า คือ จอมพลังที่มีร่างกายอันสุดแกร่งที่ผมสามารถกระโดดเข้าใส่ได้จากทุกทิศทาง

          ปะป๊า คือเครื่องเล่น Rock’n Roll เครื่องแรกที่ผมเคยเล่น เพราะจะจับผมห้อยหัวหมุนไปมา และและ และ ปะป๊ายังเป็น เป็น เป็น อะไรอีกเยอะแยะเลยครับ

          ครั้งแรกที่เจ้าปูนปั้นขี่หลังผม เขายังเอาแขนโอบรอบคอผมไม่เป็นเลยครับ ทำให้ผมต้องทำตัวงอๆ เพื่อให้เจ้าปูนปั้นนอนแนบไปบนแผ่นหลังเราได้ และผมยังจำเสียงหัวเราะวันนั้นได้ดี เสียงหัวเราะลงลูกคอ ยิ่งตอนที่ผมวิ่งด้วยแล้ว เสียงหัวเราะเจ้าปูนปั้น ยิ่งทำให้ผมสงสัยว่า ใครมีความสุขมากกว่ากัน ปูนปั้น หรือ ผม กันแน่

          ผมเคยเป็นหมาด้วยนะฮะ แหม! ปกติ สมัยเด็กๆ เวลาโดนด่า ว่าหน้าสุนัข โกรธตายเลย แต่พอเป็นปะป๊าเจ้าปูนปั้นขึ้นมา ผมทั้งคลาน แลบลิ้นแผล่บๆ วิ่งกระโดด 4 ขาเล่นกับเจ้าปูนปั้น แลกกับเสียงหัวเราะ คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม (แหม่ ผมไม่อยากจะคุยเลย ว่าเจ้าปูนปั้น เป็นเด็กที่มีเสียงหัวเราะอร่อยเหาะทีเดียวครับ)

          ผมยังเป็นของเล่นอีกหลายอย่างของเจ้าปูนปั้นฮะ เป็นม้า ก่อบ ก่อบ (แบบขี่หลังหนะไม่ยากหละฮะ แต่เจ้าปูนปั้น ชอบมาก่อบๆ บนพุงเวลาเรานอนอยู่นี่สิฮะ), ผมเป็นเครื่องเล่น free fall และ เป็นรถไฟเหาะด้วย เวลาที่เจ้าปูนปั้นงอแง ผมจะอุ้มเขาแนบอีก แล้วผมขึ้นไปยืนบนโซฟาแล้วกระโดดลงมา เจ้าปูนปั้นชอบนัก, นอกจากเป็นของเล่น ผมยังเป็นโค้ชฟุตบอล บาสเก็ตบอล โค้ชจักรยาน โค้ชสอนว่ายน้ำ ฯลฯ ชนิดที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเราทำหน้าที่ได้เยอะขนาดนี้

          ในตอนที่เจ้าปูนปั้นยังอยู่ในพุงหม่าม๊า เราซื้อเครื่องฟังเสียงหัวใจ มาลองถูไปถูมาที่หน้าท้องของหม่าม๊าอยู่หลายวัน ก็ได้ยินเสียงโน่นนี่แต่ไม่แน่ใจ จนในที่สุดวันนึงเราก็ได้ยินเสียงเป็นจังหวะที่ดังสม่ำเสมอและชัดเจน ที่เราทั้ง 2 คนก็มั่นใจว่านั่นแหละเสียงที่เจ้าตัวเล็กคุยกับเรา เราไม่ได้คิดว่าเป็นเสียงหัวใจดวงที่ 2 แต่คือเสียงหัวใจของเราเอง คือจังหวะเต้นของชีวิตเดียวกัน

          ในเวลานั้น มันเหมือนไม่มีเสียงอื่นใดอีกในโลก สิ่งเดียวที่เคลื่อนไหวและเสียงเดียวที่ดังอยู่ในโลกนี้ก็มีเพียงเสียงเต้นของหัวใจดวงน้อย ในตอนนั้นมันรู้สึกว่า นี่แหละ สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดใกล้ตัวเรานิดเดียว นึกถึงที่ Forrest Gump พูดว่า

          “My Mama always told me that miracles happen every day. Some people don’t think so, but they do.

         และจากนี้ไปเราก็มีความสุขกับเจ้าตัวน้อย เจ้าตัวน้อยที่จะนำเรื่องราวมากมายมาสู่ชีวิตเรา ก็คงเหมือนกับที่คุณแม่ของ Forrest Gump สอนว่า “Life’s a box of chocolates, Forrest. You never know what you’re gonna get.”

          เสียงหัวใจดวงน้อยที่ทำให้ ‘นายจิรัฏฐ์’ กลายเป็น ‘คุณพ่อปูนปั้น’และนั่นคือ ความภาคภูมิใจที่เปลี่ยนไป

 แวะไปดู รอยยิ้มหวานฉ่ำ ที่มีแจกฟรีทุกวันได้ที่

www.facebook.com/Poonpun.Poonpoon นะครับ

 

บทความโดย: บรรทัดที่สิบเอ็ด (พ่อเอก-จิรัฏฐ์ สิริเฉลิมพงศ์)

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up