
สาธิตปฐมวัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
สาธิตปฐมวัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ที่ที่ความสนุก คือ บทเรียนที่ดีที่สุด
การเลือกโรงเรียนให้ลูกเป็นเรื่องใหญ่ที่ตัดสินใจยากที่สุดเรื่องหนึ่งเลยว่าไหมคะ (โดยเฉพาะช่วงที่ลูกวัยอนุบาล) เพราะโรงเรียนก็มีสารพัดรูปแบบการสอนให้เลือกสรร วันนี้ทีมแม่ ABK มีโรงเรียนมาแนะนำค่ะ “สาธิตปฐมวัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย” เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร บอกเลยว่าหลักสูตรของสาธิตปฐมวัยนี้.. ไม่ธรรมดา ดีต่อใจผู้ปกครองแน่นอนค่ะ!!
ถ้าคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาโรงเรียนอนุบาลที่ตอบโจทย์ความต้องการในยุคสมัยใหม่ ที่นี่เป็นก้าวแรกที่จะปูทางให้เด็กๆ พัฒนาไปสู่การเป็นนักแก้ปัญหาในอนาคต
ที่สาธิตปฐมวัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ใช้หลักสูตร HighScope ผสานกับ หลักสูตรแกนกลางกระทรวงศึกษาธิการ
HighScope เป็นหลักสูตรที่มีผลลัพธ์โดดเด่น ชัดเจนมาแล้วทั่วโลก และกระแสตอบรับในไทยจากคุณครู ผู้ปกครองก็เยี่ยมยอดไม่แพ้ในต่างประเทศค่ะ เพราะพัฒนาการทุกด้านของเด็ก ๆ ล้วนก้าวหน้าอย่างมีนัยยะเลยทีเดียว
รีบปักหมุดไว้เลยค่ะ



ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับ HighScope Curriculum และ point สำคัญของหลักสูตรแกนกลางกระทรวงศึกษาธิการ กันก่อนดีกว่าค่ะ
HighScope “วางแผน-ลงมือ-ทบทวน”
วงจรการเรียนรู้ที่ทำให้เด็กคิดเป็นระบบ
CORE: เน้นการเรียนรู้แบบลงมือทำ (Active Learning) ที่เด็กเป็นคนริเริ่มเอง
CONCEPT: “Plan-Do-Review” หรือ “วางแผน-ทำ-ทบทวน”
– Plan การฝึกคิดก่อนเรียนรู้ เด็กๆ จะได้กำหนดเป้าหมายที่แน่ชัด เรียบเรียงความคิด และตัดสินใจ
– Do ลงมือทำ = เล่นอย่างมีเป้าหมาย เด็กได้ใช้ความคิด ฝึกแก้ไขปัญหาการเล่น เรียนรู้การอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น
– Review เล่าเรื่องอย่างสร้างสรรค์ (ทักษะภาษา + การสื่อสาร) มาทบทวนว่าทำอะไรไปบ้างและเรียนรู้อะไรจากกิจกรรมนั้น เป็นการพัฒนากระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ
CLASSROOM: กิจกรรม “Plan-Do-Review” หรือ “ช่วงเล่นมุม” (70 นาทีต่อวัน เริ่มตั้งแต่ชั้นเตรียมอนุบาลกันเลย)
คุณครูจะแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ ซึ่งแต่ละคนทราบดีว่าวันนี้กลุ่มไหนจะได้ Plan ก่อน
นักเรียนจะออกมา Plan วางแผนการเล่นทีละคนค่ะ เลือกมุมที่จะเล่น / เล่นอะไร / แต่ละมุมจำกัดจำนวนผู้เล่นด้วยซึ่งจะทำให้เด็กๆ เรียนรู้ 1. การอดทนรอคอย (จนถึงคิวตัวเอง) 2. ความยับยั้งชั่งใจค่ะ (มุมเล่นเต็มแล้ว)
ในระหว่างการ Plan คุณครูอีกคนจะจดบันทึกสิ่งที่นักเรียนวางแผน / เลือกเล่นอะไร เก็บข้อมูลไปวิเคราะห์เพื่อ support การเรียนรู้ต่อไป
หลังจากวางแผนแล้วเด็กๆ จะกระจายไปทำกิจกรรมตามมุมต่างๆ ที่ตัวเองเลือก (Do) ในขณะนั้นเองคุณครูจะคอยสังเกต + เข้าไปเล่นด้วย เพื่อให้คำแนะนำแบบรายบุคคล ใช้เวลาเล่นแบบ Focus ประมาณ 45 นาที
ออกมา Review วันละ 1 กลุ่ม เพื่อคุณครูจะได้โฟกัสเด็กๆได้อย่างละเอียดค่ะ




Basic Education Core Curriculum (หลักสูตรแกนกลาง)
สาระสำคัญ ที่ไม่ใช่แค่ “วิชาเรียน” แต่เป็น “ทักษะชีวิต”
CORE: เน้นการเรียนรู้ 4 สาระการเรียนรู้หลัก คือ
- เรื่องราวเกี่ยวกับตนเอง
- เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคล + สถานที่แวดล้อมตนเอง
- ธรรมชาติรอบตัว
- สิ่งต่างๆ รอบตัว
CONCEPT: กำหนดพัฒนาการ 4 ด้านที่ต้องให้เด็กบรรลุในแต่ละช่วงวัย คือ ด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม และสติปัญญา
CLASSROOM: มีการเรียนรู้ตามหน่วยการเรียน เช่น หน่วยผัก หน่วยสัตว์ ซึ่งครูจะเป็นผู้กำหนดหัวข้อและกิจกรรม (ซึ่งการจัดรูปแบบการเรียนรู้ – แต่ละโรงเรียนจะออกแบบค่ะ)
PERFECT COMBINATION
ภารกิจ “เล่น” และ “เรียน” ที่ทำให้เด็กๆ เพลิดเพลินไปกับการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลาง “ถูกย่อย” ออกมาอยู่ในทุกกิจกรรม สาธิตปฐมวัย นำเสนอความรู้ในรูปแบบ “Direct Experience NOT Direct Instruction” หรือ Active Learning แบบ HighScope ค่ะ ทำให้เด็กๆ ได้รับทั้งความรู้และ ประสบการณ์ สามารถจดจำและนำความรู้นั้นออกมาใช้ซ้ำได้อย่างง่ายดาย โดยมีกิจกรรมสุดสร้างสรรค์ดังต่อไปนี้
กิจกรรมเช้าวันใหม่สดใสแข็งแรง
“Movement Play” หรือ “กิจกรรมการเคลื่อนไหว” ที่คุณครูออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ขยับร่างกายอย่างเต็มที่ พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก – มัดใหญ่ ฝึกการทรงตัวและการประสานงานของร่างกายอย่างสนุกสนานและสร้างสรรค์
กิจกรรมกลุ่มใหญ่
จริง ๆ แล้วก็คือการเรียนรู้แบบ “ลงมือทำ” เป็นหน่วยการเรียนรู้เป็น Theme (ที่นี่เรียนรู้แบบองค์รวม หรือ ใช้การเชื่อมโยง + ใช้ theme เดียวกันกับทุกๆ กิจกรรมภายในสัปดาห์ค่ะ) ใช้กิจกรรม 100% + สอดแทรกวิชาการ คุณครูจะชวนเด็กๆ มาสนุกกับอุปกรณ์และเพื่อนๆ เพื่อเรียนรู้เรื่องราวใหม่ๆ ไปพร้อมกัน โดยคุณครูจะสาธิตให้ดูก่อน จากนั้นเด็กๆ ลงมือทำเอง การเรียนรู้รูปแบบนี้ไม่ได้แค่สนุกเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยให้เด็กๆ เข้าใจเรื่องยากๆ ได้ง่ายขึ้น และ จดจำได้นานกว่าเดิม**
กิจกรรมวางแผน-ปฏิบัติ-ทบทวน (Plan-Do-Review) หรือ ช่วงเล่นมุม
ใช้เวลาวันละ 70 นาที (เล่นอย่างโฟกัสประมาณ 45 นาที) คุณครู 1 คนจะเข้าไปเล่นกับเด็กๆ (สังเกตและแนะนำไปด้วย) ครูอีกคนจะบันทึกกิจกรรมของเด็ก ๆ เป็นรายบุคคล
กิจกรรมกลุ่มย่อย (อนุบาล 1 -3)
เน้นไปทางวิชาการ โดยเฉพาะ วิชาคณิตศาสตร์ และ วิชาภาษาไทย ค่ะ
คุณครูจะสอนเป็นกลุ่มย่อย (3-5 คน) เพื่อจะโฟกัสรายคนได้อย่างละเอียด สลับกลุ่มกันไปจนครบ
ใช้เวลาสั้น ๆ ใช้กิจกรรมเป็นหลัก (ช่วงเล่นมุมค่ะ โดยกลุ่มที่เหลือก็จะเล่นมุมของตนเองไป)
เสร็จแล้วแล้วกลุ่มนี้ก็จะมาวางแผนการเล่นต่อไป





กิจกรรมพานิทานกลับบ้าน
เลือกยืมนิทานที่ตนเองสนใจวันละ 1 เล่ม เพื่อกลับไปอ่านที่บ้านกับผู้ปกครอง (ใช้เวลาร่วมกัน) เมื่อเด็กฟัง / อ่านนิทานกับผู้ปกครองจบ อาจจะสะท้อน บอกเล่าความรู้สึกหรือความคิดด้วยการวาดภาพ หรือเขียนคำง่ายๆ จากหนังสือนิทาน ในสมุดบันทึก “พานิทาน…กลับบ้าน”
กิจกรรมเล่นสนุกนอกห้องเรียน
Outdoor activity ของจริงไม่ใช่เล่นๆ ต้องหลากหลาย สร้างสรรค์ ถึงจะเป็นการเล่นสไตล์สาธิต เวียนกัน 5 วันไม่ซ้ำ exercise ร่างกาย สมองครบส่วนเลยค่ะ ได้แก่
- เล่นสนาม (เล่นเครื่องเล่นแบบอิสระ)
- เล่นทราย
- เล่นน้ำ | ลูกโป่งน้ำ | Spray |กรอกน้ำ
- เล่นเกมส์ที่มีกฎกติกา
- เล่นตามวัย / การละเล่นไทย
กิจกรรมเล็ก ๆ น้อยๆ ที่เด็ก ๆ ร่วมทำด้วยความสนุกสนานหลังจากตื่นนอนตอนบ่าย เช่น ทบทวนเรื่องราวที่เรียนรู้หรือกิจกรรมที่ทำร่วมกับคุณครู + เพื่อนๆ ในวันนี้ ฟังนิทาน ร้องเพลง เล่นเกมที่มีกติกาง่ายๆ หรือเกมการศึกษาค่ะ
กิจกรรมสดชื่นหลังตื่นนอน
กิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เด็ก ๆ ร่วมทำด้วยความสนุกสนานหลังจากตื่นนอนตอนบ่าย เช่น ทบทวนเรื่องราวที่เรียนรู้หรือกิจกรรมที่ทำร่วมกับคุณครู + เพื่อนๆ ในวันนี้ ฟังนิทาน ร้องเพลง เล่นเกมที่มีกติกาง่ายๆ หรือเกมการศึกษาค่ะ
สำหรับพี่อนุบาล 3 จะมี 2 กิจกรรมพิเศษ ได้แก่
กิจกรรมเสริมการเรียนรู้ – กิจกรรมด้านวิชาการ เพื่อพัฒนาทักษะคณิตศาสตร์ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ เตรียมพร้อมเป็นพี่ ป.1 ในปีถัดไป
กิจกรรมนิทานนี้ที่อยากเล่า ที่เด็กๆได้มีโอกาสฝึกการสรุปความ (จากนิทานที่เลือกเอง) + ถ่ายทอดเรื่องราวแลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่างๆ ร่วมกันกับคุณครูและเพื่อนๆ แล้วก็ฝึกการเป็น public speaker ด้วยนะคะ
สาธิตที่น่าอยู่
คุณครูจะส่งรูปกิจกรรมให้ผู้ปกครองสัปดาห์ละ 1 อัลบั้ม (เพราะหน้าที่หลักคือดูแลกิจกรรม + ดูแลนักเรียนค่ะ)
ที่นี่คุณครูจะรู้จักเด็กทุกคน + ใช้เวลาร่วมกับเด็กๆ ตลอดเวลา
ในตอนเย็นคุณครูประจำชั้นจะเป็นผู้ส่งเด็กด้วยตัวเอง คุณพ่อคุณแม่สามารถพูดคุย – สอบถามด้านต่างๆ ได้ตอนมารับลูกค่ะ
ที่นี่ใช้ facility ของ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ค่ะ สนามกีฬา + สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง รวมไปถึงมีโอกาสได้เข้าไปใช้ Lab ในคณะด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินจำลอง (คณะท่องเที่ยว) หรือแม้แต่กระทั่งหน่วยงานไปรษณีย์ภายใน – เพื่อส่งจดหมายจริงๆ เด็กๆ ตื่นเต้นกันมาก พี่ๆ นักศึกษาก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน + ให้การต้อนรับแขกตัวจิ๋วเป็นอย่างดี นับเป็นประสบการณ์ที่วิเศษไม่น้อยเลยนะคะ





Mommy loves this!!! ถูกใจแม่
หลักการของ HighScope ที่ประกอบด้วย 5 สิ่งนี้ที่ดีต่อใจคุณแม่แน่นอน
1. ให้อิสระในการเลือก! (Choice)
เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้เลือกสื่อ / อุปกรณ์ที่อยากใช้ / ทำสิ่งที่ต้องการด้วยตัวเอง (ที่ปลอดภัยเท่านั้น)
เพราะการได้เลือกจะทำให้เด็กๆ รู้สึกเป็นเจ้าของและสนุกกับกิจกรรมนั้น ๆ มากขึ้นค่ะ
2. ของเล่นเยอะไว้ก่อน (Materials)
ของเล่นต้อง หลากหลาย + มีจำนวนที่มากพอ + เหมาะกับวัย ให้เด็กสามารถเลือกมาเล่นหรือใช้งานได้ตามต้องการ
ที่นี่มักจะใช้เป็นของเล่น “ไม่สำเร็จรูป” ค่ะ เพราะต้องการให้เด็กๆ ต่อยอด develop การเล่นด้วยตัวเอง จะทำให้จินตนาการของเด็กกว้างไกลยิ่งขึ้น
3. ใช้ครบทุกประสาทสัมผัส! (Manipulation)
กิจกรรมในห้องเรียนต้องไม่ใช่แค่การมองดู แต่ต้องได้ลงมือทำ!
เพราะการได้ใช้ประสาทสัมผัสจะช่วยให้เด็กๆ เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ดีกว่าแค่การนั่งฟัง แถมยังเป็นการพัฒนาสมองไปในตัวด้วยนะคะ
4. ฟังสิ่งที่นักเรียนพูด (Child’s Language and thought)
คุณครูรับฟังทุกความคิดของทุกคน
เพราะการที่ผู้ใหญ่สนใจฟังจะทำให้เด็กรู้สึกว่าความคิดของเขามีคุณค่าและกล้าที่จะสื่อสารมากขึ้น
5. มีครูคอยช่วยอยู่ห่างๆ (Adult Scaffolding)
คุณครูทำหน้าที่เป็นผู้สังเกต ผู้ชี้แนะ ไม่เน้นการบอกให้ทำตาม แต่จะทำให้ดูเป็นตัวอย่างแล้วให้เด็กๆลงมือทำด้วยตนเอง (experienced) ผลคือ เด็กๆ กล้าคิด + ตัดสินใจ (แต่ต้องปลอดภัย) จะทำให้เด็กๆไม่กลัวความผิดพลาด – กล้าที่จะเรียนรู้ – และมีความมั่นใจในตัวเองท้ายที่สุดค่ะ
คุณครูดูแลอย่างดีและทั่วถึง + อยู่กับเด็กๆ ตลอดเวลา







ค่าใช้จ่าย สาธิตปฐมวัยม หาวิทยาลัยหอการค้าไทย
*ค่าแรกเข้า 5,000 บาท (จ่ายภาคเรียนแรกครั้งเดียว)
*ภาคเรียนที่ 1
– ค่าเทอม 39,000
– ค่าอาหาร 6,750 บาท
– ค่าประกันอุบัติเหตุประมาณ 1,060 บาท (ประกันอุบัติเหตุกลุ่ม จ่ายปีละ 1 ครั้ง อาจมีการปรับตามบริษัทประกันในปีถัดไป)
รวมภาคเรียนที่ 1 ค่าใช้จ่าย 46,810 บาท
*ภาคเรียนที่ 2
– ค่าเทอม 39,000 บาท
– ค่าอาหาร 6,750 บาท
รวมภาคเรียนที่ 2 ค่าใช้จ่าย 45,750 บาท
รวมค่าใช้จ่ายต่อปีการศึกษา 92,560 บาท (ยกเว้นปีแรก 97,560 บาท)
โปรดติดตามประชาสัมพันธ์กิจกรรมและค่าเรียนของภาคเรียนพิเศษ หรือติดต่อสอบถามสาธิตฯ โดยตรง
สาธิตปฐมวัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
- ที่อยู่ : อาคาร 17 (หลังตึก 5) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย 126/1 ซอยวิภาวดีรังสิต 2 แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400
- Facebook : https://www.facebook.com/utcc.labschool
- Website : https://satit.utcc.ac.th/
- E-mail : [email protected]