คลอดเอกชน

จากกระทู้พันทิป! หมอสูติฝากมา.. “เตือนใจคุณแม่ท้อง เรื่องการเข้า รพ.เอกชน”

event
คลอดเอกชน
คลอดเอกชน

คลอดเอกชน

ถ้าเงินเราไม่หนาเราต้องรู้จักวางแผนให้ดีนะคะ..อย่าคิดไปตายเอาดาบหน้า
ต้องบวกลบให้ดีว่าถ้าลูกเรามีภาวะเสี่ยงจะรักษา รพ.เอกชนต้องเตรียมเงิน
ค่าใช้จ่ายคร่าวๆ “เท่าที่เราพอทราบนะ” ราคาแบบใกล้เคียงจริงอันนี้จาก รพ. ที่มีชื่ออันดับต้นๆนะคะทั้งนี้ราคาผกผันตามอาการของทารกและระยะเวลาในการอยู่ รพ.

-ภาวะตัวเหลืองในเด็กแรกเกิด (Neonatal jaundice) ระยะเวลา ~ 1-2 วัน ค่าใช้จ่าย ~ 10,000-20,000 (+/- 20%)

-ภาวะหายใจเร็วในเด็กแรกเกิด(TTNB) ระยะเวลา ~3-7 วัน ค่าใช้จ่าย ~ 50,000-100,000 (+/- 20%)

-ภาวะติดเชื้อในเด็กทารกแรกเกิด  (Neonatal sepsis)ระยะเวลา ~7-14 วัน ค่าใช้จ่าย ~ 80,000-150,000 (+/- 20%)

-ภาวะหายใจลำบากในทารก (RDS) ระยะเวลา ~7-14 วัน ค่าใช้จ่าย ~ 100,000-180,000 (+/- 20%)

-ภาวะความดันในปอดสูง (PPHN) ระยะเวลา 10-20 วัน ค่าใช้จ่าย ~ 200,000-300,000 (+/- 20%)

– ทารกคลอดก่อนกำหนดอายุครรภ์< 30 สัปดาห์ ระยะเวลาการรักษาประมาณ 4-8 สัปดาห์  ~ 300,000-500,000 (+/-20%)

-ทารกคลอดก่อนกำหนดอายุครรภ์ 30-34 สัปดาห์ ระยะเวลาการรักษาประมาณ 2-4 สัปดาห์  ~200,000-300,000(+/-20%)

-ทารกคลอดก่อนกำหนดอายุครรภ์ >34 สัปดาห์ ระยะเวลาการรักษาประมาณ 2-3   สัปดาห์ ~150,000-200,000(+/-20%)

หมอเลี้ยงไข้มีจริงมั๊ย !!!!!!

ตอบเลยว่ามีแต่ก็มีจำนวนน้อยมาก ต้องแจ็คพ็อตจริงๆอาจจะเจอ

แล้วถามว่าหมอเลี้ยงไข้มีแต่ข้อเสียเหรอ ก็ไม่ใช่แบบนั้นทั้งหมด

บางทีก็มีข้อดีตรงที่อยู่ รพ.นานซะจนลูกคุณปรับตัวได้เกือบ 100%

คุณจะมั่นใจได้ว่าลูกคุณหายดีจนใกล้เคียงปกติที่สุดแล้วก่อนที่คุณ

จะได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้

-------> อ่านต่อบทความแนะนำ : รวม ค่าคลอด โรงพยาบาลรัฐ ปี 2560
-------> อ่านต่อบทความแนะนำ : แพ็คเกจค่าคลอด โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ 2560
-------> อ่านต่อบทความแนะนำ : ค่าใช้จ่ายในการตั้งครรภ์ ตั้งแต่ฝากครรภ์จนถึงตอนคลอด ต้องจ่ายเท่าไร?

จากข้อมูลข้างต้น ก็ถือเป็นรายละเอียดที่คุณแม่สามารถพิจารณาได้เช่นกัน ทั้งนี้ จากที่กล่าวมา หากคุณแม่ท้องคิดจะฝากครรภ์ หลักง่าย ๆ ในการเลือกก็จะมี การเลือกคุณหมอและโรงพยาบาล  หรือถ้าไม่คิดอะไรมาก  ก็ควรเลือกที่ใกล้บ้าน และเดินทางสะดวกไว้ก่อน ที่สำคัญเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการฝากท้อง รวมไปถึง ค่าใช้จ่ายในการคลอดบุตร อันนี้อาจจะต้องพิจารณาดู เพื่อให้ตรงกับความพร้อมที่คุณพ่อคุณแม่มีอยู่ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  1. ความน่าเชื่อถือของหมอ การมีคุณหมอ หรือบุคลากรที่เก่งๆ มีความเชี่ยวชาญ ชำนาญ มีประสบการณ์ในเรื่องการคลอด ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยสร้างความสบายใจให้กับคุณแม่ท้องได้  นั่นทำให้เชื่อได้ว่าความปลอดภัยของคุณแม่และลูกก็น่าจะมีอยู่มาก
  1. ความน่าเชื่อถือของโรงพยาบาล ชื่อเสียงของโรงพยาบาลก็มีผลต่อความน่าเชื่อถือ หากโรงพยาบาลนั้นมีชื่อเสียงในทางที่ดี บอกถึงเครื่องมือ เครื่องใช้ การดูแล การรักษา  การบริการ และนโยบายของโรงพยาบาล  ซึ่งโรงพยาบาลที่ดีๆ ก็คือจะมีหมอที่ดีและเก่งๆ อยู่ด้วย  แต่โรงพยาบาลรัฐ  ชื่อเสียงดี  ค่าใช้จ่ายถูก แต่การบริการอาจไม่น่าประทับใจก็มี ส่วนโรงพยาบาลเอกชนที่ชื่อเสียงดี มีบริการที่น่าประทับใจ ซึ่งก็มีค่าใช้จ่ายสูง ก็เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน
  1. ค่าใช้จ่ายในการฝากท้อง และคลอดลูก ซึ่งโดยส่วนใหญ่โรงพยาบาลเอกชนจะมีเป็นแพ็คเกจรวม ซึ่งอาจจะสูงกว่าโรงพยาบาลรัฐ แต่ก็สะดวกสบายกว่า ยกเว้นกรณีตรวจพบความผิดปกติอยู่นอกเหนือราคาดังกล่าว หรือหากต้องการอัลตร้าซาวด์ ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงพยาบาล) และในส่วนของโรงพยาบาลรัฐ จะมีค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งที่ถูกกว่า แต่จะเสียเวลารอนานตอนที่มาตรวจครรภ์ ซึ่งคุณแม่สามารถไปตรวจตามคลินิกได้ พอถึงเวลาก็มาเลือกคลอดกับโรงพยาบาลที่ฝากครรภ์ไว้ได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของคุณพ่อคุณแม่เป็นหลัก
  1. การเดินทาง ถ้าคุณแม่เลือกได้โรงพยาบาลใกล้บ้าน การเดินทางก็จะสะดวกกว่ามาก รวมทั้งช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางอีกด้วย

อย่างไรก็ตามจากกระทู้ที่หมอสูติเตือนมานั้น ก็คงจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่คุณแม่ท้องได้พิจารณาตามความสะดวกว่าจะเลือกคลอดโรงพยาบาลไหน เพื่อความสบายใจของตัวคุณแม่เองนะคะ

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!


ขอบคุณข้อมูลจาก : สมาชิกเว็บไซต์พันทิป ฟ้าหมาดฝน , Suchamaso (pantip.com/topic/36288680?) และ www.gotoknow.org

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up