account_circleของที่วางอยู่ตรงหน้ามีไว้สำหรับเจ้าของวันเกิดตัวจริงอยู่แค่คนเดียว ซึ่งไม่ใช่ลูก แต่ถ้าเกิดลูกแม่อยากเป่าเทียนเค้กวันเกิด หรืออยากได้ของขวัญขึ้นมากลางงาน แม่จะทำอย่างไรดีล่ะ!
เรามีเทคนิคให้คุณนำไปใช้ เผื่อต้องเจอสถานการณ์ไม่คาดคิดขึ้นมา กรุณานึกภาพตาม…
เริ่มออกอาการอยากเป่าเทียน รีบดักทางเอาไว้ ก่อนเริ่มงานควรมอบหมายงานเล็กๆ น้อยๆ ให้ลูกได้รับผิดชอบและมีอะไรทำจนลืมเรื่องนี้ไป เช่น เสิร์ฟน้ำ เสิร์ฟขนม ช่วยจัดโต๊ะ หรือช่วยดูแลน้องเล็กคนอื่นๆ
อ้อนอยากได้ของขวัญบ้าง ต้องใช้ภาษาดอกไม้บอกให้รู้ว่าแม่เข้าใจเขา “หนูผิดหวังใช่ไหมคะที่ไม่ได้ของขวัญในวันนี้ แต่ถ้าถึงงานของหนู หนูก็จะได้ของขวัญและสนุกแบบวันนี้นะ” แต่ถ้ายังไม่ได้ผลก็ต้องรีบเบี่ยงเบนความสนใจ ชวนเล่นเกมที่เล่นกันได้หลายคน อย่างเกมเศรษฐี เก้าอี้ดนตรี หรือจะนั่งล้อมวงเล่านิทานกันก็จัดไป
โวยวายเบรกไม่อยู่ ถ้าเป็นไปได้ โปรดนิ่งเฉยเพื่อสยบความเคลื่อนไหว ขณะเดียวกัน คุณก็ต้องแสดงให้ลูกเห็นว่าคุณและคนอื่นๆ ในงานกำลังสนุกสนาน และลูกก็ไปสนุกกับเพื่อนๆ ได้ “ว้าว…ว เด็กๆ ทุกคนร้องคาราโอเกะกันสนุกมากๆ เลยนะเนี่ย ดูพี่แพรสิลูก เต้นใหญ่เลย” “พูดว่าอะไรนะลูก” ลูกบอกว่า “แม่จ๋า หนูอยากกินแลท ขอแลท ขอแลท”
ส่วนแม่ก็ได้แต่พูดว่า “เอ่อ อะไรนะคะ ขออีกทีสิลูก แม่ไม่เข้าใจ”
เรื่องปกติของเด็กวัยอนุบาลค่ะ ถึงพวกเขาจะพูดจ้อทั้งวัน ถามทั้งวัน เล่าทั้งวัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะพูดชัดไปหมดทุกคำ อาจมีบางคำที่ยังยากเกินไปอยู่บ้าง แต่ยังมีวิธีที่จะทำความเข้าใจลูกอยู่…
• ยอมรับตรงๆ ก่อน บอกลูกให้เข้าใจว่า ทั้งคุณและเขาพยายามกันอย่างเต็มที่แล้วที่จะสื่อสาร “แต่บางทีถ้าแม่ไม่เข้าใจ แม่ก็ขอโทษด้วยนะลูก”
• อ่านจากท่าทาง ถ้าฟังอย่างไรก็ไม่รู้เรื่อง ลองให้ลูกเดินไปหาสิ่งที่ตัวเองต้องการ หรือจูงมือพาคุณเดินไปด้วยก็ได้
• ลองสอนศัพท์ใหม่ บางทีลูกอาจพูดคำว่า “โรงเรียน” ในแบบที่คุณไม่เข้าใจ แต่ถ้าให้เขาลองอธิบายว่า “ที่ที่คุณครูต้อยอยู่” คุณทั้งคู่อาจจะเข้าขากันง่ายขึ้น
• เรียกพี่ใหญ่มาช่วย เพราะพี่ก็เพิ่งผ่านช่วงเวลานี้มาไม่นานนัก บางทีคุณอาจได้นักแปลชั้นดีเอาไว้คอยเชื่อมคุณกับลูกเล็ก เด็กกับเด็กอาจเข้าใจกันได้ดีกว่านะเออ
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง