ทำอย่างไร เบบี๋สุขใจได้ทั้งวี่วัน

Alternative Textaccount_circle
event

มาลองวิธีเพิ่มความสุขคูณสองให้กับคุณแม่และลูกน้อยแบบชั่วโมงต่อชั่วโมง พร้อมเวลาที่เหมาะสำหรับการนอนกลางวัน กินอาหาร เดินเล่น และอื่นๆ ด้วย!

7 โมงเช้า: จับนอนคว่ำ

เจ้าตัวเล็กนอนหงายมาทั้งคืนแล้ว เปลี่ยนท่าบ้างก็ได้ หลังมื้อเช้า 15 นาที ควรจับเขานอนคว่ำบนผ้านวมและให้นอนเล่นไปสักพัก ลูกน้อยจะชันคอได้เร็ว และถ้าเขาชินกับการนอนคว่ำจะเป็นประโยชน์ต่อการหัดคลานด้วย

8 โมงเช้า: เดินไปคุยไป

นี่คือเวลาที่เหมาะสำหรับการพาเจ้าตัวเล็กไปรับอากาศบริสุทธิ์นอกบ้าน พาเขานั่งรถเข็นไปเดินเล่นและคุยกับเขาไปด้วย บรรยายถึงต้นไม้ และก้อนเมฆตามรายทาง

10 โมงเช้า: จับใส่เป้อุ้ม

ระหว่างที่คุณจัดบ้านหรือคุยโทรศัพท์ก็เอาลูกใส่เป้อุ้มด้านหน้ากระเตงไปด้วย การเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องและทัศนียภาพที่เปลี่ยนไปจะทำให้เขาเพลิดเพลิน แต่คุณควรจะพูดคุยกับเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยนะ

เที่ยง: เวลานั่งโต๊ะ

จับลูกนั่งเก้าอี้กินข้าวสำหรับเด็ก และระหว่างที่คุณทำอาหารกลางวันหรือล้างจาน หาหนังสือนิทานภาพสำหรับเด็กเล็กมาให้เขาพลิกดู

บ่ายโมง: นักสำรวจน้อย

ปล่อยเจ้าตัวเล็กนั่งเล่นในโต๊ะกิจกรรมสัก 30 นาที เพื่อกระตุ้นให้เขาขยับแข้งขยับขาและเกิดความอยากรู้อยากเห็นจากการเล่น

บ่าย 2 โมง: นอนกลางวัน

อุ้มเจ้าตัวเล็กวางในเตียงคอกตอนกำลังง่วง แต่ยังตื่นอยู่ และถ้าเขาเริ่มจะร้องกวน อย่าเพิ่งรีบเข้าไปอุ้ม ให้เวลาลูกสักพักเพื่อฝึกให้เขาหลับเองเป็น ตอนตื่นนอนก็เช่นกัน ถ้าเขาร้องลองปล่อยไปสักครู่ ให้เขาได้ลองหาวิธีสร้างความเพลิดเพลินให้ตัวเอง

บ่าย 4 โมง: เล่นคนเดียว

เปิดเพลงเบาๆ ในระหว่างที่ปล่อยให้เจ้าตัวเล็กอยู่ในคอกเล่นพร้อมกับของเล่นชิ้นโปรด 2-3 อย่าง เพราะการรู้จักสร้างความเพลิดเพลินให้ตัวเองเป็นทักษะที่สำคัญมาก พอหมดห่วงเรื่องความปลอดภัยของลูก คุณจะจัดเตรียมมื้อเย็นได้อย่างรวดเร็ว

1 ทุ่ม: เตรียมเข้านอน  

อุ้มเจ้าตัวเล็กวางบนเบาะเล่น เขาจะได้ปลดปล่อยพลังงานชุดสุดท้ายก่อนเข้าสู่กิจวัตรช่วงก่อนนอน คุณจะจับเขานอนคว่ำอีกสักรอบ หรือจะจับเขานอนหงายเพื่อให้คว้าของเล่นที่ห้อยอยู่ก็ได้

 

บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up