“หนุ่ม กรรชัย” ประกาศบริจาคสเต็มเซลล์ “น้องมายู” ช่วยพริตตี้สาวป่วยโรคหนังแข็ง

Alternative Textaccount_circle
event

โรคหนังแข็ง

จากกรณีโรคหนังแข็ง ของคุณจอย สุภาภร ชุมทอง โดยอาการที่เป็นช่วงแรก ๆ ก็มีความรู้สึกว่ามือเราแดง ๆ ผิวแดง ๆ ปลายนิ้วก็จะมีความรู้ว่ามีเข็มมาทิ่ม พอไปรักษาหมอเขาก็ให้กินยาตามอาการ ปวดตรงข้อนิ้ว อยู่ ๆ ก็ปวด แต่พอปวดก็กินยาแก้ปวด  ส่วนผิวหนังมีแดงทีมือก่อน เป็นอย่างนี้มาประมาณ 3 ปี หมอก็ไม่รู้ว่าเราเป็นอะไร ก็เจาะเลือดบ้าง เอ็กซเรย์บ้าง ก็ไม่เป็นอะไร มารู้ตอนปีที่ 3 เพราะว่ามันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เช่นมือของเรามันตึง ๆ อาการแดงทันไม่ได้แดงแค่ 10 นาที แดงที่แขนอย่างเดียว อาการปวดข้อที่นิ้วก็เป็นเยอะขึ้น ผิวหนังนอกจากจะแดงแล้วมันก็ยังตึง ๆ ตอนแรกหมอเข้าใจว่าเป็นรูมาตอยด์ แต่พอวินิจฉัยอีกครั้งหมอก็บอกว่าเป็นโรคหนังแข็ง ตอนที่เป็นอายุ 26 ซึ่งหมอบอกว่าเป็นภูมิมันต้านตัวเอง มันทำลายตัวเอง มันไม่ใช่เป็นกรรมพันธุ์ และก็ไม่ใช่โรคติดต่อด้วย พอมีข่าวจอยออกไปมีคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ติดต่อเข้ามาบางคนน้ำหนักเหลือ 26 กิโลกรัม ระบบดูซึมไม่ปกติ แล้วก็ผังพืดมันไปดึงรัดมือให้เลือดเราไปเดินได้ไม่เต็มที่ เกิดจากหนังที่ตึง และดึงรั้งนิ้วเรา นิ้วก็จะกุดลง”

โรคหนังแข็งคืออะไร?

โรคหนังแข็ง (Scleroderma) เป็นโรคเรื้อรังที่ไม่ติดต่อ โดยจัดเป็นโรคที่อยู่ในกลุ่มของโรคที่มีความผิดปกติของระบบภูมิ­­­คุ้มกันของร่างกาย ซึ่งมีโอกาสเป็นเพียง 1,000 ต่อ 67 ล้านคนเท่านั้น ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของโรค แต่ลักษณะของโรคนั้นจะเกิดจากการสะสมของเส้นใยคอลลาเจนที่มากผิ­­­ดปกติที่บริเวณหนังแท้และผนังหลอดเลือด ทำให้อวัยวะภายในเกิดการแข็งตัวและหนา รวมทั้งผิวหนังภายนอกก็จะเกิดการบวม ตึง และแข็งเป็นบริเวณกว้าง จนดูคล้ายผิวขิงหุ่นขี้ผึ้งที่แข็งตึงจนหยิบไม่ขึ้น รวมทั้งขาดความยืดหยุ่นอีกด้วย

Donate Stem Cell Treatment Scleroderma

อาการของโรคหนังแข็ง

โรคหนังแข็งเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะส่งผลกระทบทั้งทางผิวหนังภายนอกและอวัยวะภายใน โดยมีอาการดังนี้

อาการทางผิวหนัง

ผิวหนังจะกลายเป็นสีดำ ไม่สามารถกำมือได้ มือจะขาวหรือสีซีดเนื่องจากเส้นเลือดหดตัว หลังจากนั้นมือจะกลายเป็นสีม่วงหรือคล้ำเนื่องจากภาวะผิวหนังขาดออกซิเจน ต่อมามือจะเป็นสีแดงเพราะเลือดที่ไหลไปเลี้ยงเพิ่มขึ้น และอาจพบแผลจุดเล็ก ๆ ที่บริเวณปลายนิ้วอีกด้วย โดยอาการเหล่านี้จะเริ่มขึ้นที่มือก่อนแล้วจึงลามไปที่แขน ใบหน้า ลำตัว เมื่อกระจายไปที่บริเวณหน้าจะเกิดหน้าผากย่น ยิ้มยาก หากกระจายไปตามลำตัวจะพบด่างขาวเป็นจุด ๆ

อาการกับอวัยวะภายใน

หลอดอาหาร : 80 % ของผู้ป่วยโรคหนังแข็งจะมีอาการทางหลอดอาหาร ทำให้เวลากลืนอาหารทำได้ลำบาก และรู้สึกเจ็บเวลากลืนอาหาร เนื่องจากการเคลื่อนไหวของหลอดอาหารน้อยลง เกิดกรดไหลย้อน หรือหลอดอาหารอักเสบ แสบร้อนกลางอก หากเกิดที่ลำไส้จะทำให้ระบบการทำงานของลำไส้ผิดปกติจนเกิดอาการ­­­ท้องผูกหรือถ่ายเหลว รวมทั้งจะเรอบ่อยผิดปกติหลังจากรับประทานอาหาร

พังผืดที่ปอด : เป็นอาการที่พบได้บ่อยรองจากระบบทางเดินอาหาร พบได้ 40 – 90% ของผู้ป่วย โดยจะทำให้เหนื่อยง่าย มีอาการไอแห้ง ๆ ไม่มีเสมหะ และเหนื่อยง่าย

หัวใจและหลอดเลือด : โดยส่วนใหญ่แล้วมักไม่มีอาการแต่หากมีอาการเกิดขึ้นกับหัวใจแล้­­­ว อัตราการเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 70% ภายใน 5 ปี

ไต : อาการเกี่ยวกับไตนั้นแทบจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เสี่ยงเสียชี­­­วิตสูง โดยอาการของโรคไตแบ่งเป็น 2 ชนิดคือ แบบเฉียบพลัน และเรื้อรัง โดยแบบเฉียบพลันจะมีอาการปวดศีรษะ ความดันโลหิตสูง ตามัวลง และแบบเรื้อรังก็อาจจะทำให้กลายเป็นไตวายในที่สุดค่ะ

กล้ามเนื้อและข้อต่อต่าง ๆ : ผู้ป่วยด้วยโรคหนังแข็งจะมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ก็อาจจะมีอาการกล้ามเนื้ออักเสบ หรือมีพังผืดเข้าแทรกในมัดกล้ามเนื้อได้ โดยเฉพาะบริเวณกล้ามเนื้อต้นแขนหรือกล้ามเนื้อต้นขา

ระบบสืบพันธุ์ : ในผู้ป่วยโรคหนังแข็งเพศชายอาจจะมีอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เนื่องจากอวัยวะเพศไม่แข็งตัว เนื่องจากหลอดเลือดและผิวหนังเกิดการผิดปกติค่ะ

ทั้งนี้ยังมีอาการอื่น ๆ อีกเช่น อาการตาแห้ง ปากแห้ง เนื่องจากใยคอลลาเจนเข้าไปแทรกอยู่ในต่อมน้ำตา และต่อมน้ำลาย มีอาการชาตามปลายมือปลายเท้า เนื่องจากปลายประสาทบริเวณนิ้วมือหรือข้อมือถูกเบียดรัด

วิธีการรักษาโรคหนังแข็ง

โรคหนังแข็งมีวิธีการรักษา 2 แบบได้แก่การใช้ยา และการไม่ใช้ยา แต่ทั้ง 2 แบบก็เป็นการรักษาประคับประคองตามอาการเพียงเท่านั้น โดยการใช้ยาจะให้ยาที่มีฤทธิ์ในการช่วยยับยั้งและการสะสมตัวของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในอวัยวะต่าง ๆ รวมทั้งให้ยาขยายหลอดเลือดอาการปลายนิ้วซีด รวมทั้งลดอาการปวด

นอกจากนี้อาจจะเป็นยาที่ช่วยในการเคลื่อนไหวของทางเดินอาหาร โดยการรักษานั้นสามารถหยุดได้เมื่ออาการสงบลง แต่ถ้าหากมีอาการกำเริบอีกก็จะเป็นที่จะต้องรักษาตามอาการกันต่อไป และในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาดแต่อย่างใด

เนื่องจากโรคหนังแข็งนี้ยังเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกัน­­­ซึ่งแพทย์ยังไม่สามารถหาสาเหตุได้อย่างแน่ชัดถึงความผิดปกติ จึงทำให้ยังไม่มีวิธีการป้องกันโรคนี้เช่นเดียวกับโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตนเองค่ะ

ได้ทราบถึงข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับโรคหนังแข็งกันไปแล้ว หลายคนที่ไม่เคยได้ยินชื่อโรคนี้ก็คงจะพอรู้จักกันมาขึ้นแล้วใช่ไหมคะ ในเมื่อโรคนี้เราไม่สามารถป้องกันหรือรักษาให้หายขาดได้ เราก็ควรจะใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง และหากมีคนใกล้ชิดป่วยด้วยโรคนี้ละก็ ควรจะหมั่นให้กำลังใจเสมอ เพื่อที่ผู้ป่วยจะได้มีกำลังใจและมองโลกในแง่บวกมากขึ้นค่ะ


ขอบคุณข้อมูลจาก ฝ่ายประชาสัมพันธ์และจัดหาผู้บริจาคโลหิต ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย

และข้อมูลสนับสนุนอื่นๆ จาก

คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

thailand.digitaljournals.org

haamor.com

ไทยโพสต์

www.khaosod.co.th

www.ranthong.com

health.sanook.com

blooddonationthai.com

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up