เมื่อลูกสาวคลั่งนักร้อง พ่อแม่ทำอย่างไรดี

Alternative Textaccount_circle
event

Q: ลูกสาวมีนักร้องคนโปรดชนิดทุ่มเทเวลาให้จนไม่เป็นอันทำอะไรค่ะ เปิดเพลงของศิลปินคนโปรดตลอด ติดตามข่าวสารไม่ขาด เริ่มใช้จ่ายเพื่อการนี้มากขึ้น ทั้งของสะสม ไปดูคอนเสิร์ต ตามไปงานอีเว้นท์ ฯลฯ แรกๆ ก็มองว่าลูกเริ่มโตใกล้ 10 ขวบแล้วก็ต้องมีงานอดิเรกหรือกิจกรรมโปรด แต่ปล่อยให้ชอบจัดขนาดนี้จะธรรมดาหรือเปล่า เราจะทำอะไรได้บ้าง ห่วงกระทบเรื่องเรียนและเรื่องอื่นด้วยค่ะ

ที่คุณยังไม่ด่วนตัดรอนความชื่นชอบของลูกถือเป็นสัญญาณดีทีเดียว เพราะการใส่ใจและส่งเสริมให้เขาทำหรือมีกิจกรรมที่ชอบและเลือกเองเป็นเรื่องจำเป็นและเป็นสิ่งที่ลูกวัยนี้ต้องการเลยละค่ะ ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า มีหลายเหตุผลที่เด็กวัยประถมปลายควรมีกิจกรรมอื่นทำ นอกเหนือจากการเรียน

1. อยากรู้ความสามารถของตัวเอง

นอกจากเหตุผลว่าเด็กๆ ควรได้ผ่อนคลายจากเรื่องเรียนแล้ว เด็กวัยนี้ยังต้องการรู้ว่าตัวเขามีความสามารถหรือไม่สามารถด้านไหน มีจุดเด่นจุดด้อยเรื่องอะไร เพราะเขาก็อยากรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า มีความมั่นใจในตัวเอง และยอมรับความสามารถของตัวเองตามจริง

2. ความต้องการเป็นที่ยอมรับของกลุ่มเพื่อน

แม้ลูกวัยนี้ยังต้องการและรับฟังความคิดเห็นของพ่อแม่ รวมทั้งยังอยากทำกิจกรรมต่างๆ กับพ่อแม่ แต่ก็ต้องยอมรับว่า เขาถึงวัยที่กลุ่มเพื่อนเพศและวัยเดียวกันมีอิทธิพลกับการพัฒนาความมั่นใจในตัวเอง และบุคลิกภาพของเด็กวัยนี้ด้วย

3. อิทธิพลของสื่อและการตลาดในกระแสทุนนิยม

ทีนี้ถ้าความชอบของลูกมากขนาดไม่เป็นอันทำอย่างอื่น การสนับสนุนแบบนั้นต่อไปย่อมไม่ใช่หนทาง คุณพ่อคุณแม่ต้องกลับลำนิดหน่อย มาช่วยลดดีกรีลูกให้ มาดูกันค่ะว่าคุณจะทำอะไรได้บ้าง

4 วิธีแตะเบรกพี่โต เมื่อความชอบเกินพิกัด

1. สนใจสิ่งที่ลูกชอบ

ปล่อยให้ลูกชอบอยู่คนเดียว คุณจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง โอกาสจะชวนลูกมองมุมอื่นๆ ยิ่งมืดมน ถามหรือคุยถึงศิลปินสุดปลื้มของเขา การคุยอย่างเป็นกันเอง รับฟังไม่ด่วนสรุป ตัดสิน คุณก็จะมีจังหวะแลกเปลี่ยนกับลูกถึงมุมอื่นๆ มากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก เช่น เขาจะเป็นศิลปินต้องทำงานอย่างหนัก แต่ก็ตั้งใจเรียน ไม่ทิ้งการเรียน เป็นต้น คุยไปคุยมาเผลอๆ คุณจะอึ้ง เสียเวลาตั้งสติอยู่เป็นนาน ลูกอาจชอบนักร้องคนนี้เพราะสาเหตุนี้อยู่แล้วก็ได้

2. ช่วยมองหาความสามารถหรือข้อดีอื่นๆ ของลูก

แทนที่จะกังวลมากจนกลายเป็นบ่นว่า จนถึงห้ามปราม ซึ่งทำให้ลูกรู้สึกว่าคุณไม่เข้าใจ จะยิ่งต่อต้านได้ น่าจะหันมามองความสามารถอื่น หรือสิ่งที่เขาทำได้ดี และชวนให้เขาทำสิ่งนั้นไปด้วย ลูกหัวใจพองโตเสมอที่พ่อแม่เห็นข้อดีและชื่นชมออกมา มากกว่าย้ำจุดด้อยและข้อเสีย หรือชวนกับไปทำกิจกรรมอื่นด้วยกันทั้งครอบครัว ให้เขาได้ประสบการณ์ใหม่ๆ มองเห็นความสามารถและความชอบอื่นๆ ของตัวเอง

3. ไปไหนไปกัน

ลูกวัยนี้ยังต้องการความเห็นและอยากทำกิจกรรมร่วมกับพ่อแม่  ถ้าพ่อแม่ยินดีไปทำสิ่งที่เขาชอบทำคุณก็มีโอกาสให้ความเห็นการใช้เงินเพื่อความชอบอย่างเหมาะสม และยับยั้งสิ่งที่ไม่เหมาะไม่ควรได้ เพราะคุณชี้แนะให้ลูกเห็นกลยุทธ์ทางการตลาดต่างๆ ได้

4. กำหนดระยะเวลาใช้สื่อ

การควบคุมเวลาใช้สื่อต่างๆ ยังจำเป็น วินัยและการรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองยังเป็นเรื่องต้องฝึกต่อไป ลูกจะรู้สึกอุ่นใจที่คุณยังสนใจเขา ช่วยให้เขามั่นใจที่จะยั้งและควบคุมตัวเองต่อไป

 

บทความโดย:  กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up