ลูกเอาแต่ใจ

ลูกเอาแต่ใจ?! โดดให้รถชนเพราะแม่ไม่ทำตามที่ขอ!

Alternative Textaccount_circle
event
ลูกเอาแต่ใจ
ลูกเอาแต่ใจ
ลูกเอาแต่ใจ
เครดิต: Z Living

 

 ปลูกฝังอย่างไร? ให้ ลูกเอาแต่ใจ น้อยลง

วิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดนั้นต้องแก้ที่ต้นเหตุค่ะ เพราะการแก้ที่ปลายเหตุนั้นอาจจะสายเกินไปจนเราไม่สามารถแก้ไขได้ทัน ยิ่งถ้าหากเราไม่ทำและปล่อยให้นานเข้า อาจจะทำให้เกิดเหตุการณ์คล้ายกับคลิปที่นำเสนอไปในวันนี้ก็เป็นได้ ซึ่งการแก้ที่ว่านี้นั้นก็คือ “การปลูกฝังพฤติกรรมที่ดีให้กับลูกตั้งแต่ยังเล็ก โดยที่มีคุณพ่อคุณแม่เป็นต้นแบบ”
  • คุณพ่อคุณแม่สามารถให้ของลูกได้ แต่ควรที่จะให้เหตุผลกับลูกทุกครั้งว่าทำไมลูกถึงได้ ไม่ใช่ลูกอยากได้อะไรก็หาให้ทุกอย่าง หากเราไม่ให้ แค่ลูกลงไปชักดิ้นชักงอที่พื้น คุณพ่อคุณแม่ก็ใจอ่อนยอมซื้อให้ลูกแล้ว แบบนี้ก็ไม่เอานะคะ เพราะเท่ากับเป็นการปลูกฝังให้ลูกมีนิสัยเอาแต่ใจทางอ้อมเลยละค่ะ
  • อย่าพยายามเป็นต้นแบบของพฤติกรรมดังกล่าว ยกตัวอย่างเช่น คุณแม่อยากได้อะไรสักอย่าง แต่คุณพ่อไม่สนับสนุนหรือไม่ยอมซื้อให้ คุณแม่ก็จะแสดงอาการเหวี่ยงวีน หงุดหงิดโวยวาย ไม่พอใจต่อหน้าลูก จนสุดท้ายเกิดมีปากมีเสียงกัน ทำให้ลูกจดจำพฤติกรรมนั้น และคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี หากวันใดที่เขาจะได้อะไร เพียงแค่เขาแสดงพฤติกรรมที่ว่านี้ เขาก็จะสามารถได้มาอย่างง่ายดาย
  • ให้เหตุผลกับลูก หากคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าสิ่งที่ลูกอยากได้นั้น เป็นสิ่งที่ยังไม่สมควรกับการให้ละก็ ให้อธิบายให้ลูกฟังด้วยเหตุผล พร้อมกับน้ำเสียงที่นุ่มนวล อย่าแสดงอาการดุดัน หรือโมโหกับลูกเด็ดขาด เพราะลูกจะไม่ฟังพร้อมกับต่อต้านทันที คราวนี้ก็จะเกิดความลำบากที่จะต้องมาอธิบายหรือชักจูงให้ลูกเข้าใจแล้วละค่ะ
  • บ่ายเบี่ยงประเด็น คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องหาเรื่องเบี่ยงเบนความสนใจของลูกด้วยการชักจูงผลลัพธ์หรือสิ่งต่าง ๆ ที่ดูแล้วน่าสนใจกว่า แน่นอนว่า วิธีนี้อาจจะยากหน่อยแต่อย่างน้อยก็ทำให้คุณพ่อคุณแม่เหนื่อยน้อยลง
  • สัญญาต้องเป็นสัญญา หากคุณพ่อคุณแม่สัญญากับลูกแล้วว่าจะให้ ก็ควรให้นะคะ เราควรที่จะรักษาสัญญาที่ได้ให้ไว้กับลูก แต่ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่ดูแล้วว่า มันเร็วเกินไปที่ลูกควรจะได้ ก็ต้องหาเหตุผลมารองรับ พร้อมกับตัวอย่างง่าย ๆ ที่จะทำให้ลูกของเราเข้าใจ และรับฟัง แต่แนะนำว่าอย่าทำบ่อยนะคะ เพราะอาจจะทำให้ลูกจดจำว่าคุณพ่อคุณแม่โกหกเขา ยิ่งทำให้เกิดความไม่พอใจขึ้นกว่าเดิมได้ ดังนั้น ก่อนที่จะให้คำสัญญาอะไรกับลูก ควรพิจารณาให้ดีก่อนว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด และสมเหตุสมผลหรือไม่
  • สอนให้ลูกออมเงิน วิธีนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจเลยละค่ะ หากลูกบอกว่า ลูกอยากได้รถของเล่น หรือตุ๊กตาสักตัว แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่สอนให้ลูกรู้จักเก็บเงินเพื่อให้เขาจะได้เอาเงินนั้นไปซื้อในสิ่งที่เขาต้องการ โดยคุณพ่อคุณแม่อาจจะพาลูกไปดูราคาของที่เขาอยากได้ก่อน และให้เขาเก็บเงินให้ได้ตามจำนวนนั้น เมื่อครบก็พาลูกไปซื้อ มาถึงตอนนี้ลูกก็จะรับรู้แล้วละค่ะว่า กว่าที่เขาจะซื้อของสิ่งนึงได้นั้น ต้องเก็บเงินมากมายขนาดไหน และยากเพียงใดกว่าจะได้มา ไม่แน่นะคะ พอถึงเวลาจริง ๆ ลูกอาจจะรู้สึกเสียดาย และตัดสินใจไม่ซื้อของชิ้นนั้นเลยก็เป็นได้
เพราะเด็กคือผ้าขาวที่พวกเราทุกคนสามารถขีดเขียนลงบนผ้าผืนนั้นได้ ดังนั้น การปลูกฝังสิ่งดี ๆ รวมไปถึงคุณธรรมและจริยธรรมตั้งแต่พวกเขายังเด็กนั้น จะสามารถช่วยให้ลูก ๆ เป็นผู้ใหญ่ที่ดีในวันข้างหน้าได้ … ยอมเหนื่อยที่จะเคี่ยวเข็ญลูกในวันนี้ ดีกว่าจะต้องมานั่งเสียใจกับพฤติกรรมของลูกในอนาคตนะคะ
อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ :

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up