โครงการส่งความรู้ สร้างความสุขปี 2

เพราะโครงการส่งความรู้ สร้างความสุขปี 2 จึงทำให้มีนักอ่านตัวน้อยเพิ่มขึ้นเท่าตัว

Alternative Textaccount_circle
event
โครงการส่งความรู้ สร้างความสุขปี 2
โครงการส่งความรู้ สร้างความสุขปี 2

นี่คือคำบอกเล่าของ คุณครูวิยะดา สืบสุด คุณครูโรงเรียนอนุบาลบ้านเหนือเขมราฐ จ.อุบลราชธานี ที่บอกกับเราว่า หลังจากที่ทางโรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการส่งความรู้ สร้างความสุข ปี 2 ที่เป็นความร่วมมือกันระหว่างบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) แล้ว มีนักเรียนสนใจและรักการอ่านเพิ่มมากขึ้นอีกเท่าตัวและหลากหลายวัย  จากที่ก่อนหน้านี้เด็กสนใจอ่านจะเป็นเด็กเล็ก ป.1-ป.2 ประมาณ 100-200 คน แต่ตอนนี้มีพี่ประถมปลายสนใจเข้ามาอ่านหนังสือเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้จำนวนหนูน้อยนักอ่านเพิ่มจำนวนจาก 200 เป็น 500 คนกันเลยทีเดียว เพราะเมื่อก่อนหนังสือยังไม่เยอะมากเด็กมีความสนใจน้อย พอโครงการนี้เข้ามาทำให้หนังสือมีมากขึ้นและหลากหลาย จึงทำให้เด็กๆหันมาสนใจกันมากขึ้น

โครงการส่งความรู้ สร้างความสุขปี 2

เด็กๆ เหล่านี้มีการบันทึกรักการอ่านกันด้วย โดยคุณครูให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีมีการตรวจและให้คะแนนเสริมกับนักเรียน ทั้งนี้จะมีบันทึกการอ่านระดับชั้น ป.2-ป.6  สำหรับเวลาที่เด็กๆมักสนใจอ่าน คือช่วงเที่ยง หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ  ผ่านกิจกรรมที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น นั่นคือ กิจกรรมอ่านหนังสือก่อนขึ้นเรียนตอนบ่าย โดยเราจะมีตะกร้าหนังสือเคลื่อนที่ไปให้บริการที่ใต้ถุนอาคาร โดยกลุ่มยุวบรรณารักษ์  สำหรับหนังสือที่เด็กๆชอบอ่าน ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือนิทาน นิยาย วรรณกรรมเยาวชน และการ์ตูนความรู้ต่างๆ รวมไปถึงเรื่องราวเกี่ยวกับความรู้รอบตัว

โครงการส่งความรู้ สร้างความสุขปี 2

ผลการเรียนของเด็กๆ ดีขึ้นได้เพราะการอ่าน

ถึงแม้ตอนนี้ทางโรงเรียนจะยังไม่มีการตัดเกรดออกมา แต่ดูจากแนวโน้มแล้วรู้เลยว่าดีขึ้นแน่นอน เพราะนอกจากเด็กจะให้ความสนใจในการเรื่องของการอ่านแล้ว คุณครูในแต่ละระดับชั้นยังมายืมหนังสือจากห้องสมุดไปให้เด็กๆอ่านเสริมกันในห้องเรียนด้วย  ส่วนใหญ่จะยืมเป็นชุดประมาณ 5-10 เล่ม มีทั้งเรื่องทั่วไป และเรื่องเกี่ยวข้องกับเนื้อหาวิชาการ ซึ่งเด็กๆโรงเรียนของเราได้มีโอกาสร่วมแข่งขันในระดับเขตการศึกษาด้วย ซึ่งปีนี้ในส่วนของการแข่งขันเนื้อหาวิชาภาษาไทย คณิตศาสตร์ หรือโครงงานต่างๆ ก็ทำผลงานได้ดี

โครงการส่งความรู้ สร้างความสุขปี 2

การอ่าน…ยังสำคัญมากขึ้นไปกว่านั้น

การอ่าน ถือเป็นผลลัพธ์ทางอ้อมที่ทำให้การเรียนเด็กๆ ดีขึ้น เพราะช่วยสร้างสมาธิให้กับเด็กๆ เมื่อพวกเขาอ่านหนังสือก็ห่างจากโทรศัพท์มือถือไปโดยปริยาย ซึ่งพวกเขาเห็นตัวอย่างนิสัยรักการอ่านมาจาก พี่นุ่น ศิรพันธ์ วัฒนจินดา ที่มาพูดคุยกับเด็กๆในเรื่องเกี่ยวกับการอ่าน จนทำให้เด็กๆได้รับแรงบันดาลใจ ช่วยจุดประกายนิสัยรักการอ่านให้กับพวกเขาได้ พี่นุ่นทำให้พวกเขาอ่านหนังสือสนุกขึ้นเยอะ จากคนที่ไม่เคยจับหนังสือขึ้นมาอ่านจับแต่โทรศัพท์มือถือ ก็ลองมาเปิดอ่านดู ถึงได้รู้ว่าหนังสือมีอะไรน่าสนใจให้อ่านเต็มไปหมด

โครงการส่งความรู้ สร้างความสุขปี 2

คุณครูก็ขอเป็นตัวแทนของโรงเรียนขอบคุณโครงการส่งความรู้ สร้างความสุขปี 2 ด้วยที่เลือกโรงเรียนของเราเป็น 1 ในโครงการ ซึ่งโครงการนี้ ถือว่าดีมากสำหรับเด็กต่างจังหวัด ที่ทำให้พวกเขามีหนังสือดีๆได้อ่านกัน เพราะก่อนหน้านี้ในห้องสมุดของโรงเรียนเองมีหนังสือไม่มาก เมื่อมีจำนวนเพิ่มจึงทำให้เด็กๆ เกิดความสนใจ ชวนกันมาอ่านอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งคุณครูแนะนำให้เด็กๆ บันทึกรักการอ่านด้วย  ซึ่งเขาก็บันทึกได้ใจความที่ดี เด็กคนไหนหากเขียนไม่เก่งก็วาดรูปสื่อสารออกมาให้เราเข้าใจ เมื่อเราถามเขาว่า หนูอ่านเรื่องอะไรทำไมหนูถึงวาดออกมาแบบนี้ เขาก็บอกถึงเรื่องราวที่เขาอ่านได้ สอดคล้องกับรูปภาพที่เขาวาดบันทึกให้เราดู ถือว่าดีมากๆ เลยค่ะ

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวและร่วมสนับสนุนโครงการฯ ได้ทาง FB Fanpage : thehappyread และ www.thehappyread.com  ร่วมส่งต่อความรู้โดย  ส่งต่อความรู้มอบหนังสือให้เด็กๆ กับโครงการ ส่งความรู้สร้างความสุข ปี 2

โครงการส่งความรู้ สร้างความสุขปี 2

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up