AI กับเด็กยุคใหม่ ใช้ให้เป็น ดีกว่าไม่ให้ใช้

“ช่วงนี้ใครมีลูกเริ่มพูดถึง AI บ้างคะ?”

ลูกแม่กุ๊ก อยู่ ป.4 เอง วันก่อนมาเล่าว่า ‘แม่ หนูให้ ChatGPT ช่วยแต่งนิยาย แล้วลองเอาไปให้เพื่อนอ่าน เพื่อนบอกสนุกมาก’ ฟังแล้วแม่ก็ทั้งอึ้ง ทั้งงง ว่า… ลูกเราไปไกลขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย ยังมีอีกนะคะ เช่น

“หนูลองให้ AI ทำภาพจากที่หนูวาดเล่นๆ สวยมากเลย “

“ที่เราจะไปเที่ยวกัน แม่ลองให้ AI วางแผนที่เที่ยวให้เราสิ ง่ายมากเลย”

ตอนนี้เด็ก ๆ โตมากับเทคโนโลยีที่มาเร็วแบบที่แม่ ๆ อย่างเราต้องรีบตามให้ทัน อย่าง AI ที่เมื่อก่อนเราคิดว่าเป็นเรื่องของผู้ใหญ่หรือในหนังไซไฟ ตอนนี้กลับกลายเป็นของเล่นใหม่ เป็นที่เรียนรู้ง่าย ๆ กับเรื่องประจำวันของลูกเราไปแล้วนะคะ

แล้วเราจะรับอย่างไรกันดี? จะห้ามก็กลัวปิดกั้น จะปล่อยก็กลัวเขาจะใช้ไปในทางที่ผิด แม่ ๆ กำลังคิดแบบนี้กันอยู่ใช่ไหมคะ ?

เพราะทุกวันนี้ ลูกของเราสามารถเข้าถึง AI ได้อย่างง่าย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ ChatGPT เพื่อช่วยสรุปบทเรียน หาข้อมูลทำรายงาน การสร้างภาพหรือเสียงผ่านแอปพลิเคชัน AI ทำให้เด็ก ๆ หลายคนเริ่มคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้ในชีวิตประจำวัน

คำถามสำคัญจึงไม่ใช่แค่ว่า “AI นั้นดีหรือไม่ แต่คือ  “เราควรห้าม หรือควรสอนให้เขาใช้ให้เป็น” 

เรามาดูกันค่ะ ว่าจะสอนลูกให้อยู่กับ AI อย่างไร… แบบที่ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกังวล เพราะที่จริงแล้วหากใช้ให้เป็นก็จะมีประโยชน์มากกว่าส่งผลเสีย อย่างเช่น

การเรียนรู้เร็วขึ้น เพราะพวกเขามีเครื่องมือช่วยเยอะกว่าเราตอนเด็ก ๆ โดยเฉพาะการที่  AI ช่วยอธิบายเรื่องยาก ๆ ให้เข้าใจง่ายขึ้น เรียนไม่เข้าใจ หรือมีข้อสงสัยแค่ลองพิมพ์ถาม AI ก็ได้คำตอบที่สั้น กระชับ เข้าใจได้ทันที หรือบางทีก็ให้เป็นติวเตอร์ส่วนตัวได้ด้วยนะคะ อย่างคุณลูกบ้านนี้ สอบกลางภาคที่ผ่านมา เขาถามขึ้นมาว่า แม่ ๆ ใบเลี้ยงคู่กับใบเลี้ยงเดี่ยวต่างกันยังไงนะ ? แม่ยังไม่ทันตอบ ลูกก็บอกว่า ได้คำตอบแล้ว ถ้าพูดง่าย ๆ ก็คือตอนนี้ลูกเราไม่ได้เรียนคนเดียวอีกต่อไปแล้ว เขามี AI เป็นผู้ช่วยอีกคนหนึ่ง ที่อยู่ใกล้ตัวกว่าที่เราคิด

ฝึกความคิดคิดสร้างสรรค์

ลูกใครชอบวาดรูป แต่งนิทาน หรือเล่นกับเสียงเพลงบ้างคะ ? เด็ก ๆ หลายคนใช้ AI ช่วยต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ของเขา
เพื่อเล่นสนุกกับเพื่อน หรือเอาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อสร้างสรรค์ในการบ้านหรือส่งงาน สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยให้เขาได้สนุกและเรียนเชิงบวกและจินตนาการไม่ได้จำกัด

แปลภาษา แปลบทความ

ทุกวันนี้ โลกของลูกไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียนหรือในภาษาไทยอีกต่อไปแล้วค่ะ เด็ก ๆ เจอข้อมูลที่น่าสนใจมากมายจากคลิป YouTube, เกม, หรือแม้แต่การ์ตูนที่เป็นภาษาอังกฤษ ญี่ปุ่น หรือภาษาต่างประเทศ  AI ช่วยให้เด็ก ๆ กล้าหยุดเพื่อ “ถาม” และ “เข้าใจ” ได้ทันที ทำให้โลกของการเรียนรู้ทั้งสนุกและได้รู้อย่างไม่จำกัด

แต่ถึงแม้ข้อดีของ AI จะมีมากมาย แต่หากเราใช้อย่างไม่เหมาะสมก็มีความเสี่ยงได้เหมือนกันนะคะ เพราะหากเราพึ่งพามากเกินไปจะทำให้เด็ก ๆ ขาดทักษะพื้นฐาน เช่น ให้ AI ทำการบ้าน อาจทำให้ขาดการคิดวิเคราะห์ และไม่ได้เข้าใจเรื่องนั้น ๆ อย่างแท้จริง รวมทั้งการเข้าถึงเนื้อหาอย่างไม่เหมาะสม เด็กอาจใช้ AI ค้นหาเรื่องที่เกินวัยหรือเข้าใจผิดจากข้อมูลที่ AI ตอบผิดพลาดได้  และอีกสิ่งที่สำคัญมาก ๆ คือ ลดปฏิสัมพันธ์กับคนรอบตัว เพราะช่วงแรกดูเหมือนแค่ใช้เพื่อความสะดวก
แต่ถ้าเกิดบ่อย ๆ ก็อาจทำให้ลูกเริ่ม ห่างจากการคุยกับคนรอบตัวไปโดยไม่รู้ตัว ยิ่งในวัยประถม ที่กำลังหัดสื่อสาร ฝึกฟังความคิดเห็นของคนอื่น การคุยกับ AI ตลอดเวลา แทนที่จะคุยกับเพื่อน คุยกับครู คุยกับพ่อแม่ ซึ่งสิ่งพวกนี้เป็นส่วนสำคัญของทักษะทางสังคมและความฉลาดทางอารมณ์ (EQ)

 และนี่คือวิธีที่แม่ ๆ ทำได้เลย เพื่อให้ลูกใช้ AI อย่างเหมาะสม

  1. วางกติกาและฝึกการใช้ คุยกับลูกแทนการตรวจสอบ

“ลองทำการบ้านเองก่อน แล้วให้ AI ช่วยตรวจดีไหมลูก”

“เรามาใช้ AI ได้วันละ 30 นาที ดีไหมคะ”

“เมื่อกี้ลูกถามอะไรไป เขาตอบว่าอะไร และลูกคิดอย่างไรกับคำตอบนั้น”

ทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างการคุยกับลูกง่าย ๆ เพื่อให้ได้รู้ความคิดลูก และยังคงได้ฝึกคิดวิเคราะห์ แยะแยะข้อมูลจาก AI เป็นจริงไหม ข้อมูลอัพเดทหรือเปล่า และเพื่อให้เขารู้ว่า AI ก็ผิดได้ ไม่ใช่ทุกอย่างจะถูกต้องเสมอไป

  • เป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้อย่างสร้างสรรค์ เช่น ถ้าแม่ใช้ AI หาเมนูอาหาร หรือวางแผนเที่ยว ลูกก็จะเห็นว่าเราก็ใช้มันอย่างสร้างสรรค์เหมือนกัน ลูกเห็นว่าเราหาข้อมูลจาก AI แต่เราก็ใช้วิจารณญานของเราเองด้วย ลูกจะเห็นว่าเราไม่ได้เชื่อและเลือกใช้ข้อมูลอย่างเหมาะสม ลูกก็จะซึมซับสิ่งนี้ไปด้วยค่ะ

ต้องยอมรับว่า AI ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปแล้ว และก็ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องกลัวนะคะ แค่เราสอนลูกให้ใช้ “อย่างมีสติ”
รู้ว่าอะไรควรถาม รู้ว่าอะไรควรตรวจสอล และให้เด็ก ๆ รู้ว่า สำหรับบางเรื่อง AI นั้นก็แทนไม่ได้ เช่น ความคิดของตัวเอง หรือความรู้สึกของคนเรา สิ่งสำคัญที่สุดคือ…เราต้องอยู่กับลูก พูดคุยกับลูก และเรียนรู้ไปพร้อมกับเขาเพราะตัวเราเอง… ก็ได้เรียนรู้เช่นกัน

เรื่อง : แม่กุ๊ก

ขอบคุณข้อมูลจาก  https://www.netpama.com/library/detail/519

    Tags