หาโรงเรียนให้ลูก

หาโรงเรียนให้ลูก ต้องเลือกที่ “ใช่” และ “ตรงใจ” ลูก

Alternative Textaccount_circle
event
หาโรงเรียนให้ลูก
หาโรงเรียนให้ลูก

วิธีเลือกโรงเรียนให้ลูก หาโรงเรียนให้ลูก ในสไตล์ของ 3 คุณพ่อคนดัง

วิเชียร ฤกษ์ไพศาล
คุณนิค วิเชียร ฤกษ์ไพศาล

คุณนิค วิเชียร ฤกษ์ไพศาล อดีตผู้บริหารค่ายเพลงชื่อดัง Genie Records ที่ไม่ได้เป็นเพียงผู้บริหารชื่อดัง แต่ยังเป็นคุณพ่อที่มองเห็นการเปลี่ยนแปลงของโลกและมองว่าระบบการศึกษาแบบเดิม ๆ ไม่สามารถตอบโจทย์การเรียนรู้ของเด็กได้อีกต่อไปแล้ว

เมื่อต้องเลือกโรงเรียนให้ลูก คุณนิคทำการบ้านอย่างหนัก และพบว่าระบบการศึกษาของอังกฤษ ที่มีหลักสูตรการเรียนการสอนในแบบบริติช ที่เข้มข้นทั้งวิชาการ และกิจกรรม เปิดโอกาสให้ทั้งนักเรียนและผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมนั้นน่าสนใจมาก

และสิ่งที่ได้รับหลังจากได้เข้าเรียนที่นี่ก็คุ้มค่าจริง ๆ เพราะเขารับรู้ได้ว่าลูกมีความสุขอยากไปโรงเรียนทุกวัน มีพัฒนาการทางความคิดที่โตมากขึ้น ลูกได้ค้นหาตัวตนของตัวเอง ได้เรียนศิลปะ วาดรูป และกีฬาแบบเข้มข้นขึ้น เด็กๆ สามารถปรับตัวได้ง่ายมากจากการเอาใจใส่ของครู

เสนาลิง สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์
คุณเสนาลิง สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์

คุณเสนาลิง สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์ นักแสดงและพิธีกรอารมณ์ดี ที่ยังเป็นคุณพ่อของน้อง “นกยูง” สาวน้อยที่กำลังอยู่ในวัยซน มองว่าในเรื่องของการเลือกโรงเรียนนั้นควรเลือกจากตัวตนของลูก เมื่อรู้ว่าชอบและถนัดแบบไหน ก็ควรจะหาโรงเรียนที่สามารถตอบโจทย์เค้าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้ลูกได้รับในสิ่งที่ดีที่สุดและมีความสุขมากที่สุด

คุณลิงบอกว่า การที่ได้ใกล้ชิดกับลูกตลอดเวลาทำให้เรารู้ว่าลูกไม่ชอบทำการบ้านและไม่มีความสุข ซึ่งเราก็รู้สึกเช่นเดียวกัน เพราะเมื่อการบ้านที่ได้มาเด็กไม่สามารถทำเองได้ มันจะกลายเป็นการบ้านของพ่อแม่ เราจึงเริ่มมองหาโรงเรียนที่มีครบทั้งวิชาการและกิจกรรมที่จบในห้องเรียนแต่ละวัน ขณะเดียวกัน ต้องอยู่ไม่ไกลจากบ้านใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 30 นาที จนได้เจอกับหลักสูตร Well-rounded Education ที่เวลลิงตันเน้นสร้างประสบการณ์ให้เด็กแบบรอบด้าน และค่อนข้างใส่ใจกับเด็กแบบรายบุคคล เลยคิดว่าเป็นโรงเรียนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกมากที่สุด

รวิศ หาญอุตสาหะ
คุณรวิศ หาญอุตสาหะ

คุณรวิศ หาญอุตสาหะ นักธุรกิจชื่อดัง เจ้าของแบรนด์ศรีจันทร์ กับบทบาทความเป็นคุณพ่อเมื่อต้องเลือกโรงเรียนให้ลูก เขาสนใจแนวคิดการพัฒนาเด็กแบบรายบุคคล ที่ไม่ได้ใช้มาตรฐานเดียวกันในการสอนเด็กทุกคน เพราะเชื่อว่าพัฒนาการเด็กแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน และไม่ได้คาดหวังว่าลูกจะต้องเก่งวิชาการมาก เพราะนั่นไม่ใช่ทักษะสำหรับการดำเนินชีวิต

เมื่อชื่นชอบในแนวคิด เขาจึงพาลูกมาดูโรงเรียน เพื่อให้เด็ก ๆ ร่วมตัดสินใจ และผลที่ได้คือทุกวันนี้เด็กๆ ไม่เคยพูดว่าไม่อยากไปโรงเรียน เค้าสนุกกับการลองเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านกิจกรรมที่แต่ละคนสนใจและชื่นชอบ ได้ค้นหาความเป็นตัวตน และพรสวรรค์ของตัวเอง เริ่มกล้าแสดงออกในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น จากเด็กที่ขี้อาย เริ่มกล้าที่จะซักถาม ตั้งข้อสังเกต ซึ่งเป็นเรื่องที่คนเป็นพ่อแม่นั้นมีความสุขไปกับลูกด้วย

*ขอขอบคุณข้อมูลจากโรงเรียนนานาชาติ เวลลิงตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ และสามารถติดตามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.wellingtoncollege.ac.th  หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร 02087-8888

 

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

สพฐ. ประกาศ เกณฑ์เข้าอนุบาล ใหม่ งดรับอนุบาล 1 เริ่มปี 62

พ่อแม่เฮลั่น! ช้อปรับเปิดเทอมได้ ค่าลดหย่อนภาษีเพื่อการศึกษาและกีฬา สูงสุด 15000 บาท

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up