เรียลพาเรนต์ส เดอะซีรีส์ 5 ตอน ถึงเป็น “แม่” แค่อายุ 15 แต่หนูก็รักลูกหมดใจ

Alternative Textaccount_circle
event

เรียลพาเรนต์ส เดอะซีรีส์ 5 / เรื่องจริงของแม่ที่หมออยากแบ่งปัน

ถึงเป็น “แม่” แค่อายุ “15” แต่หนูก็รักลูกหมดใจ

 

เสียงคนพลุกพล่านตั้งแต่ตี 3 ตี 4 เสียงยกเปิดประตูเหล็กหน้าบ้านดังกร่างเกร่ง เสียงหัวเราะหยอกล้อคุยกัน เสียงผู้คนเดินผ่านน้ำเฉอะแฉะ เสียงรถเข็นเข็นของอย่างรีบเร่ง นี่เป็นบรรยากาศทุกวันของหน้าบ้านฉันซึ่งอยู่ในตลาดสดเทศบาล

ฉันชื่อดาวเรือง (ชื่อสมมุติ) ลูกแม่ค้าขายผลไม้อยู่ในตลาด แม่ชื่อแม่ผลเป็นคนใจดี แม่มีลูกสองคนคือฉันอายุ 15 ปี กับน้องสาวอายุ 12 ปี ใครๆก็บอกว่าฉันเป็นคนหน้าตาน่ารัก เสียแต่ที่อ้วนไปหน่อย ฉันสูง 160 เซนติเมตร แต่น้ำหนักถึง 80 กิโลกรัม ฉันเรียนหนังสือถึง ม.3 ก็เลิกเรียนเพราะสมองไม่ดีนัก เรียนคาบลูกคาบดอก แต่เรื่องที่สำคัญก็คือฉันได้เสียกับรุ่นพี่จนท้อง ตอนบอกแม่นั้นฉันท้องได้ 3 เดือนเศษแล้ว แม่ไม่ว่าอะไรฉันสักคำ แม้รุ่นพี่ที่เป็นพ่อเด็กจะไม่รับแม่ก็บอกว่า “ช่างมันลูก…และหนูอย่า…อย่าแม้แต่จะคิดที่จะทำแท้ง เราเป็นชาวพุทธ แม่เชื่อเรื่องบาปกรรม ช่างมันเหอะหลานคนเดียวแม่เลี้ยงได้” แล้วแม่ก็พาฉันไปฝากท้องกับหมอที่เคยทำคลอดฉันกับน้องให้แม่ทั้งสองท้อง

วันแรกที่ฝากท้อง หมอทำอัลตร้าซาวนด์ ตรวจเลือด ตรวจน้ำปัสสาวะ และบอกว่า “ท้องได้ 16 สัปดาห์ เด็กดูแข็งแรงดี แต่สงสัยแม่จะเป็นเบาหวาน”

แม่ผลอุทานอย่างตกใจว่า “เป็นเบาหวานหรือหมอ ดาวเรืองอายุแค่ 15 ปีนะ”

หมอตรวจเลือดของฉันอย่างละเอียดสรุปว่าเป็นเบาหวาน โดยหมอคาดว่าฉันเป็นเบาหวานมาตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ หมอเลยให้นอนโรงพยาบาล 2 วัน เพื่อตรวจร่างกายโดยละเอียด ตรวจเลือด และคำนวณจำนวนยาฉีดรักษาเบาหวาน สรุปว่าฉันต้องฉีดยาฮอร์โมนเก็บน้ำตาลวันละ 2 ครั้ง หมอถามแม่ผลว่า “แล้วแม่จะให้ใครฉีดยาให้ดาวเรือง ปกติคนท้องคนอื่นๆเขาก็ฉีดตัวเอง แต่ดาวเรืองอายุยังน้อยจะฉีดได้หรือเปล่า” ฉันรู้สึกลูกดิ้นตอนที่ฉันบอกหมอว่า “คุณหมอ หนูฉีดตัวเองได้ค่ะ” “ฉีดได้แน่หรือ” หมอถามอย่างไม่แน่ใจ เมื่อฉันยืนยันว่าฉีดได้ หมอก็ให้พยาบาลสอนวิธีฉีดยาเก็บน้ำตาลที่หน้าขาของฉัน ฉีดเช้าเย็นก่อนอาหาร

อันที่จริงฉันเป็นคนกลัวเข็ม แต่หมอบอกฉันกับแม่ว่า ลูกในท้องของฉันจะปลอดภัยหากฉันคุมน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเกินไป การฉีดยาเข็มแรกด้วยตัวเอง ฉันกลัวเข็มจนน้ำตาไหล ฉันจดเข็มเข้าเนื้อตัวเองด้วยมือสั่นเทา แต่ในที่สุดฉันก็ทำได้

เมื่อท้องได้ 6 เดือน ฉันมีไข้หนาวสั่น เมื่อไปหาหมอ หมอบอกว่าฉันเป็นกรวยไตอักเสบ เหตุผลเพราะฉันติดเชื้อทางเดินปัสสาวะซึ่งพบมากในคนเป็นเบาหวาน หมอรับฉันไว้ในโรงพยาบาล ฉีดยาฆ่าเชื้อนาน 5 วัน อาการก็เริ่มทุเลาลง ตั้งแต่วันนั้นแม่บอกฉันว่า ไม่ต้องมาช่วยขายผลไม้แล้ว ให้กินกับนอนจนกว่าจะคลอดลูก แม่กลัวหลานในท้องฉันจะเป็นอะไรไป แม้แต่งานบ้านแม่ก็ไม่ให้ทำ แม่ทำเอง แม่เตรียมข้าวเตรียมน้ำให้ฉันก่อนไปขายผลไม้ เมื่อท้องได้ 7เดือนฉันมีอาการครรภ์เป็นพิษ มีอาการบวมที่แขนขา ความดันโลหิตสูง หมอรับฉันไว้ในโรงพยาบาล ให้ยาเร่งปอดเด็กในท้อง เมื่อเข้า 8 เดือน (34 สัปดาห์) หมอผ่าคลอดให้ฉันเพราะความดันโลหิตสูงมากจนอาจเกิดอาการชัก ตอนแรกหมอบอกว่าลูกอาจจะไม่รอด ลูกน้อยที่คลอดออกมาเป็นเพศหญิงหนักแค่ 1,600 กรัม ปอดไม่แข็งแรง น้ำตาลในเลือดต่ำ ต้องอยู่ในตู้อบ ให้น้ำเกลือ และให้ยาแก้เรื่องน้ำตาลต่ำตลอดเวลา

เพราะพี่พยาบาลบอกฉันว่า ลูกเกิดก่อนกำหนดหากได้นมแม่ลูกจะแข็งแรงเร็ว ฉันจึงดื่มน้ำมากๆ แม่เอาไพลมาประคบเต้านม แกงเลียงหัวปลีให้ฉันกินวันละหม้อ น้ำนมของฉันจึงไหลออกมาก ฉันบีบนมตามที่พี่พยาบาลสอน ไปให้ลูกน้อยที่อยู่ในตู้อบทุกวัน เมื่อลูกแข็งแรงพอจะดูดนมได้ ฉันก็ไปให้นมลูก หลายคนแปลกใจว่าเด็กอายุ 15 ปีอย่างฉัน ทำไมให้นมลูกเก่งจัง ครบเดือนลูกก็มีน้ำหนัก 2 กิโลกรัม ได้ออกจากตู้อบและกลับบ้าน

แม้ฉันเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงลูกคนเดียวไม่มีพ่อช่วยเลี้ยง แต่แม่ผลบอกฉันว่า “เราเลี้ยงเขาให้ดีๆ เขาก็จะเป็นคนดี เพราะมันไม่ได้อยู่ที่ว่ามีพ่อแม่ครบถ้วนลูกถึงจะเป็นคนดี” ฉันลืมบอกไปว่า แม่ผลของฉันก็เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะพ่อฉันได้รับอุบัติเหตุเสียชีวิตตั้งแต่น้องสาวของฉันอยู่ในท้องแม่ อย่างไรก็ตาม ฉันตั้งใจว่าจะเลี้ยงลูกให้ดี ยังไม่มีแฟนใหม่ ในอนาคตหากมีแฟนใหม่ฉันก็คงไม่มีลูกแล้ว เพราะเบาหวานที่เป็นจะทำอันตรายต่อลูก

 

บันทึกจากหมอ

ตอนนี้ลูกสาวของดาวเรืองอายุ 5 ขวบแล้ว แม้ตัวเล็กกว่าเด็กทั่วไป แต่ก็เป็นเด็กฉลาดหน้าตาน่ารัก ลูกสาวของดาวเรืองไม่ได้เป็นที่รักของแม่และยายผลเท่านั้น แต่เป็นที่รักของคนทั้งตลาด ดาวเรืองเป็นตัวอย่างของเด็กวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์และเป็นเบาหวาน เกิดภาวะแทรกซ้อนหลายอย่างจนทำให้ลูกในท้องเกือบเสียชีวิต แต่ในที่สุดลูกก็รอดชีวิต เคสของดาวเรืองนั้น ไม่อาจจะสรุปอะไรได้ดีไปกว่าถ้อยคำที่ว่า “คุณแม่คนดีที่หนึ่งเลย” ซึ่งคุณแม่นั้นไม่ได้หมายถึงเฉพาะดาวเรืองที่ดูแลตนเองเป็นอย่างดีในขณะตั้งครรภ์ กล้าที่จะฉีดยาตนเองทุกวันวันละ 2 เข็ม ตั้งแต่ตั้งท้องจนคลอด แต่ยังหมายถึงแม่ผล แม่ค้าขายผลไม้ ซึ่งมักจะพูดกับหมอเสมอว่า “อะไรดีต่อดาวเรือง หมอก็แนะนำเถอะ ฉันจะทำตามหมอทุกอย่าง เพราะฉันมีความรู้น้อย” นั่นเอง

 

บทความโดย พญ. ชัญวลี ศรีสุโข

ภาพโดย shutterstock

 

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up