ตั้งครรภ์ 3-4 สัปดาห์ และพัฒนาการทารกในครรภ์

Alternative Textaccount_circle
event

พัฒนาการ การตั้งครรภ์ 3-4 สัปดาห์

อาการคนท้อง 3-4 สัปดาห์

ถึงแม้สัปดาห์นี้คุณแม่ยังไม่รู้สึกว่าตัวเองตั้งครรภ์ แต่เมื่อตัวอ่อนฝังในผนังมดลูกแล้ว ร่างกายของคุณแม่จะปล่อยสารโปรตีนอีพีเอฟ (Early Pregnancy Factor – EPF) เพื่อปกป้องตัวอ่อน ไม่ให้ร่างกายคิดว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม ส่วนใครที่เอะใจ ก็สามารถซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจได้ และควรเลือกตรวจในตอนเช้าเป็นอันดับแรก เพราะเป็นช่วงที่มีฮอร์โมนเอชซีจีสูงมาก หลายคนหลังจากตรวจแล้วอาจได้ผลเป็นลบ อย่างเพิ่งถอดใจ ให้รออีก 2-3 วัน แล้วจึงค่อยตรวจใหม่อีกครั้ง  นอกจากนี้คุณแม่อาจจะยังมีอาการที่แสดงว่ากำลังตั้งครรภ์ได้แก่

เจ็บหน้าอก

อาการเจ็บหน้าอก คัดตึงเต้านมเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ โดยคุณแม่จะรู้สึกคัดตึงเต้านม หรือเจ็บเล็กน้อยบริเวณหัวนม หน้าอกอาจนุ่มนิ่มขึ้น วงปานนมหรือลานนมมีสีเข้มขึ้น หรือเห็นเส้นเลือดดำบริเวณเต้านมได้ชัดขึ้น

ปัสสาวะบ่อย

คุณแม่จะปัสสาวะบ่อยขึ้น และตอนกลางคืนอาจต้องลุกไปห้องน้ำกลางดึกอยู่บ่อยๆ สาเหตุเพราะร่างกายของคุณแม่ตั้งครรภ์จะผลิตเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ มากขึ้น ไตจึงต้องขับของเสียมากขึ้น ทำให้มีของเหลวในกระเพาะปัสสาวะมาก จนต้องเข้าห้องน้ำเพื่อปัสสาวะบ่อยๆ

คลื่นไส้อาเจียน

คุณแม่บางคนก็อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนในช่วงแรกๆ ของการตั้งครรภ์ได้  แต่ส่วนใหญ่มักจะเริ่มเป็นในสัปดาห์ที่หก  อาการที่เป็นคือรู้สึกคลื่นไส้ในตอนเช้า เพราะเป็นช่วงที่คุณแม่จะมีระดับฮอร์โมนสูง แต่บางคนอาจมีอาการคลื่นไส้ได้ทั้งวัน  วิธีบรรเทาอาการคือ หลังตื่นนอนอย่าลุกขึ้นทันที อาจนั่งพักสักนิด แล้วหาเครื่องดื่มอุ่นๆ ที่มีรสชาติพอไม่มาก เช่น น้ำเต้าหู้ ช็อกโกแลตอุ่น น้ำขิง หรืออื่นๆ จิบในตอนเช้า และพยายามทานอาหารอ่อนๆ ที่ย่อยง่ายเพื่อป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียน

หลีกเลี่ยงอาหารที่มีเครื่องเทศกลิ่นแรง กลิ่นฉุน เช่น หัวหอม กระเทียม พริกไทย เพราะจะทำให้เกิดอาการแพ้กลิ่นต่างๆ ได้ รวมถึงเลี่ยงอาหารประเภทของทอด เนื่องจากกลิ่นน้ำมัน และความมัน อาจจะยิ่งทำให้คุณแม่รู้สึกคลื่นไส้และอาเจียนได้

อ่อนเพลีย

จากผลของฮอร์โมนขณะตั้งครรภ์ จะทำให้คุณแม่รู้สึกอ่อนเพลีย เมื่อยล้า เหนื่อยง่าย วิธีดูแลคือ การพักผ่อนให้เพียงพอ เข้านอนให้เร็วขึ้น  กินอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ และดื่มน้ำให้มากขึ้น รวมถึงควรงดการดื่มชา กาแฟ ขนมหวาน การออกกำลังและการทำงานที่หนักและเหนื่อยจนเกินไป

นอกจากนี้คุณแม่ควรพยายามทำจิตใจให้ผ่อนคลาย ไม่เครียด  เช่น ฟังเพลงเบาๆ สบายๆ อยู่ในบรรยากาศและอากาศที่ดี แช่ตัวหรือแช่เท้าในน้ำอุ่นเพื่อผ่อนคลาย หรือการให้สามีช่วยนวดไหล่ นวดขา นวดเท้า เพื่อคลายความตึงของร่างกายและส่งผลถึงความสบายใจได้ด้วย

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

อ่านต่อ เรื่องพัฒนาการทารกในครรภ์  คลิกหน้า 3

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up