คลอดลูกง่าย ต้องกินอะไร

อยาก คลอดลูกง่าย ต้องกินอะไร?

Alternative Textaccount_circle
event
คลอดลูกง่าย ต้องกินอะไร
คลอดลูกง่าย ต้องกินอะไร

อยาก คลอดลูกง่าย กินอะไร?  

เพื่อให้คุณแม่ที่กำลังจะถึงกำหนดคลอดในเร็วๆ นี้ คลอดลูกกันได้อย่างราบรื่น สามารถควบคุมความเจ็บปวดขณะคลอดลูก ได้ดี คลอดกันง่ายๆ  เรามีเคล็ดลับง่ายๆ มาลองดูเคล็ดลับเหล่านี้กันค่ะ…

1. นอนให้พอในแต่ละค่ำคืน

ในช่วงใกล้ๆ เดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ แนะนำว่าคุณแม่ท้องควรนอนช่วงกลางคืนให้ได้มากกว่า 6 ชั่วโมง เพราะการนอนที่มากเพียงพอจะช่วยปรับสมดุลร่างกายให้มีความแข็งแรง สดชื่นกระปรี้กระเปร่า เหมือนเป็นการสะสมแรงพลังไว้ เมื่อถึงเวลาคลอดจะช่วยให้ใช้เวลาในการเบ่งคลอดลูกไม่นาน

2. อินทผลัม

อินทผลัมเป็นผลไม้ที่ดีทั้งกับแม่ที่ให้นมลูก และแม่ใกล้คลอดค่ะ นั่นเพราะในอินทผลัมมีสารที่ทำหน้าที่คล้ายฮอร์โมนอ๊อกซิโทซิน ซึ่งช่วยกระตุ้นการหดตัวของมดลูก และยังช่วยให้ปากมดลูกเปิดเร็วมากกว่าเดิมอีกด้วย (แนะนำให้ทานในช่วง สัปดาห์สุดท้ายก่อนคลอด)

3. น้ำขิงต้มสด

ขิงเป็นอาหารสมุนไพรที่มีฤทธิ์อุ่น ซึ่งดีต่อร่างกายมากๆ คุณแม่สามารถทานได้ตั้งแต่ช่วงแพ้ท้อง จะช่วยให้อาการแพ้ ท้องทุเลาลง และระหว่างตั้งครรภ์การจิบน้ำขิงก่อนนอนจะช่วยให้ผ่อนคลายนอนหลับได้ง่ายขึ้น ส่วนแม่ที่ใกล้คลอด  การจิบน้ำขิงจะช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ทำให้เลือดลมไหลเวียนทั่วร่างกาย และบริเวณมดลูกได้ดี ซึ่งดีต่อคุณแม่ที่เบ่งคลอดลูกด้วยวิธีธรรมชาติ

4. ดื่มชาสมุนไพร

แนะนำว่าควรเป็นชาที่มีฤทธิ์อ่อนๆ อย่าง ชาดอกคาโมมายด์ การดื่มชาในช่วง 1-2 สัปดาห์ก่อน จะช่วยให้ช่องคลอด นุ่ม ทำให้เวลาเบ่งคลอดก็จะง่ายขึ้น (ชาดอกคำฝอย ไม่แนะนำให้ดื่ม เพราะมีผลต่อการบีบมดลูกที่รุนแรง อาจตกเลือด ได้)

5. กินสับปะรด

ขึ้นชื่อว่าเป็นผลดีต่อสุขภาพของแม่ท้องอยู่แล้วค่ะ สับปะรดเป็นผลไม้ที่แม่ท้องที่อยากคลอดลูกกันง่ายๆ มักทานกันในช่วงเดือนสุดท้ายของการอุ้มท้องค่ะ

อาหารการกินที่นำมาฝากกันนี้ รวมถึงการปฏิบัติตัวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับช่วงเวลาของการคลอดลูก เพื่อความปลอดภัยควรอยู่ภายใต้ตำแนะนำจากคุณหมอที่ฝากครรภ์ของคุณแม่แต่ละคนด้วยนะคะ …ด้วยความใส่ใจและห่วงใย

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก

หยุดการแท้ง การคลอดก่อนกำหนด ด้วย ยากันแท้ง
เรื่องน่ารู้ กรดโฟลิก เริ่มกินตอนไหนถึงจะดี

 


ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
หนังสือคู่มือตั้งครรภ์และเตรียมคลอด. รศ.นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์
haijai.com

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up