ทารกอุจจาระมีมูก

ทารกอุจจาระมีมูก จะเป็นอันตรายไหม?

Alternative Textaccount_circle
event
ทารกอุจจาระมีมูก
ทารกอุจจาระมีมูก
ทารกขับถ่ายมากกว่าปกติ
ทารกขับถ่ายมากกว่าปกติ

แพ้อาหาร

การแพ้อาหารเกิดจาก 2 ปัจจัยสำคัญ คือ พันธุกรรม และสิ่งแวดล้อม

พันธุกรรม หากคุณพ่อหรือคุณแม่เป็นโรคภูมิแพ้ ลูกมีโอกาสที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ได้มากขึ้น

สิ่งแวดล้อม โรคภูมิแพ้เกิดได้ตั้งแต่คุณแม่ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร และสภาพแวดล้อมในการเลี้ยงดู เช่น อาศัยอยู่ในสถานที่ซึ่งมีสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น สัตว์เลี้ยง เกสรดอกไม้ ใกล้ผู้สูบบุหรี่ และมีฝุ่น pm 2.5 ในปริมาณมาก เป็นต้น

การเกิดแพ้อาหารตามช่วงอายุ

  • โรคภูมิแพ้อาหาร (Food Allergy) มักพบในช่วงขวบปีแรก
  • การแพ้โปรตีนนมวัว (cow’s milk protein allergy) มักพบในช่วงขวบปีแรก โดยพบว่าการที่แม่ดื่มนมวัวปริมาณมากกว่าปกติในช่วงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หากมีพี่หรือน้องแพ้โปรตีนนมวัว จะมีโอกาสมากขึ้นที่จะเป็นเช่นกัน
  • การแพ้ไข่ (Egg allergy), แพ้แป้งสาลี (Wheat allergy), แพ้ถั่ว (Peanut allergy) ในปัจจุบันพบว่า เกิดได้ทั้งจากการที่ เด็กเริ่มรับประทานเองเป็นครั้งแรก หรือได้รับผ่านการดื่มนมแม่

อาการแพ้อาหาร มีดังนี้

  • ผื่นคัน ผื่นแดง ผื่นเม็ดทราย ผื่นลมพิษแบบเฉียบพลัน
  • อาการบวมของเยื่อบุบริเวณเปลือกตา ปาก หู ทั่วใบหน้า ไปจนถึงแพ้แบบรุนแรงได้
  • การแน่นจมูก จาม มีน้ำมูกใสๆ ไหลเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ
  • หายใจครืดคราด ติดขัด หายใจหอบเหนื่อย แน่นหน้าอก ไปจนถึงหายใจแบบมีเสียงวี๊ด ซึ่งอาการมีความคล้ายกับอาการของโรคหอบหืด
  • คัน ระคายในคอในช่องปาก ปวดท้องแบบบีบเกร็งซึ่งทำให้ทารกร้องไห้ นอนได้ไม่นาน ไม่สบายท้อง แน่นท้อง ลักษณะเหมือนมีลมในท้องซึ่งอาจทำให้สะอึกหรือขย้อนนมตามหลังการกินนม
  • ถ่ายบ่อย ถ่ายท้องเสีย โดยเฉพาะถ่ายเป็นมูก ถ่ายปนมูกเลือด กินนมยาก น้ำหนักไม่ขึ้น เลี้ยงไม่โต
  • ร้องไห้โคลิค

การเปลี่ยนเต้าเมื่อให้ลูกดื่มนมแม่

แม่ให้ลูกดูดนมไปไม่นานก็ทำการเปลี่ยนเต้าอีกข้างหนึ่งให้ลูกดูด ทำให้ อุจจาระลูก มีลักษณะที่เปลี่ยนไปได้ เช่น ทารกบางคนที่ดูดนมไม่นานแล้วแม่เปลี่ยนข้าง ทำให้ปริมาณน้ำตาลไม่สมดุลกับปริมาณไขมันที่ควรได้รับจนเกิดการย่อยอาหารอย่างรวดเร็ว ทำให้อุจจาระเกิดเป็นสีเขียว เหลว และเป็นฟอง ซึ่งในกรณีนี้มักไม่เป็นอันตราย หากทารกยังมีสุขภาพดี และมีน้ำหนักตามเกณฑ์

ทั้งนี้ทารกที่ดื่มน้ำนมแม่ การถ่ายอาจมีมูกปน เนื่องจากได้รับน้ำนมส่วนหน้ามากกว่าน้ำนมส่วนหลัง

น้ำนมส่วนหน้า (Foremilk) จะมีไขมันต่ำ และน้ำตาลแลคโตสสูง ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย จากนั้นน้ำนมจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นน้ำนมที่มีโปรตีน ไขมันและแคลอรี่สูงขึ้น เรียกว่า น้ำนมส่วนหลัง (Hindmilk)

การให้ลูกดูดนมแต่ละข้างนานขึ้นหรือดูดจนเกลี้ยงเต้า จะช่วยเรื่องการถ่ายเป็นมูกได้

เมื่อไหร่ควรพาทารกไปพบแพทย์

หากทารกมีอาการท้องเสียนาน 5 – 14 วัน ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้ท้องเสีย หากทารกมีอายุต่ำกว่า 3 เดือน ควรพาไปพบแพทย์ รวมถึงในกรณีที่พบว่ามีอาการอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ร่วมด้วย

  • อาการของภาวะขาดน้ำ เช่น ปัสสาวะน้อย ร้องไห้แล้วไม่มีน้ำตา ปากแห้ง กระหม่อมบุ๋ม ตาโหล หรืออ่อนเพลีย เป็นต้น
  • อาเจียนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากให้ดื่มผงเกลือแร่ละลายน้ำ
  • อุจจาระเป็นมูก มีกลิ่นเหม็นเน่า
  • อุจจาระเป็นเลือดหรือมีสีดำ
  • ท้องเสียอย่างรุนแรงในช่วงที่รับประทานยาปฏิชีวนะ
  • มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส

อุจจาระลูก สามารถบ่งบอกถึงสุขภาพของลูกได้ ทีมกองบรรณาธิการ ABK ได้รวบรวมข้อมูล ทารกอุจจาระมีมูก มาฝาก เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้สังเกต อุจจาระ และอาการอื่นๆของลูกว่าเป็นปกติหรือไม่ เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกน้อย

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

ทารกไม่ถ่าย ลูกไม่ถ่าย เรื่องใหญ่ไหม?สวนก้นเลยดีไหม?

อุทาหรณ์! ลูกติด เชื้อซาโมเนลลา ไข้ขึ้น ถ่ายทั้งคืน เพราะคนอื่นจับอุ้มหอมลูก

ทารกไม่ยอมนอนกลางคืน หรือลูกจะเป็น Overtired baby

วิจัยเผย!! ความขี้เกียจถ่ายทอด กรรมพันธุ์ จากพ่อแม่สู่ลูก!!

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.medicalnewstoday.com, https://www.pobpad.com, พญ.สิริรักษ์ กาญจนธีระพงค์  กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันวิทยา จากเวบ https://navavej.com

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up