ปอดบวมติดเชื้อในกระแสเลือด

โรคปอดอักเสบ เสี่ยงติดเชื้อในกระแสเลือด อันตราย!!

Alternative Textaccount_circle
event
ปอดบวมติดเชื้อในกระแสเลือด
ปอดบวมติดเชื้อในกระแสเลือด

มีคุณแม่ท่านหนึ่ง แชร์ประสบการณ์ที่ต้องสูญเสีย น้องจั่นเจา ลูกชายวัย 2 เดือนไปอย่างไม่มีวันกลับ จากอาการเริ่มแรกคือลูกมีอาการไอมาก ไอจนตัวตัวงอ หน้าเขียว คุณแม่จึงพาลูกน้อยไปพบคุณหมอหลายครั้ง จนสุดท้ายพบว่าลูกน้อยเป็น โรคปอดอักเสบ และติดเชื้อในกระแสเลือด

13 มีนาคม 2561

คุณแม่สังเกตอาการอยู่ประมาณ 2-3 วัน น้องยังไม่หาย จึงพาไปพาหมอที่คลินิกเด็กแห่งหนึ่ง ที่อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช คุณหมอตรวจแล้วบอกว่า เด็กเป็นหวัด จึงให้ยามา 2 ชนิด น่าจะเป็นยาแก้อักเสบ (ยาเป็งผงให้ละลายกับน้ำผสมน้ำหวาน) กับยาแก้ไอ คุณแม่ให้น้องรับประทานยาอยู่ 1 วัน แต่น้องก็ยังไม่หายไอ จึงปรึกษากับคุณพ่อว่าให้พาน้องไปที่โรงพยาบาลดีกว่า เพราะอุปกรณ์การตรวจจะครบมากกว่า

14 มีนาคม 2561

เวลาช่วงเย็น คุณแม่พาน้องไปโรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อรักษา พบคุณหมอเป็นผู้หญิง (จำชื่อไม่ได้) ทำการตรวจ แล้วแจ้งว่า น้องไอธรรมดา ไม่มีไข้ ปอดและการหายใจปกติ จึงให้ยาแก้ไอมารับประทาน 1 ขวด คุณพ่อกับคุณแม่จึงพาลูกกลับบ้าน ให้รับประทานยาอยู่ 1 วัน แต่น้องก็ยังไอไม่หยุด ไอมากขึ้น ไอจนตัวงอ หน้าแดง ปากเขียว จึงพาน้องไปที่โรงพยาบาลเดิมอีกครั้ง

โรคปอดอักเสบ
อาการไอมาก ไอจนตัวตัวงอ หน้าเขียว (หมายเหตุ: ไม่ใช่ภาพเหตุการณ์จริง)

16 มีนาคม 2561

เวลาเช้า พบคุณหมอผู้ชาย (จำชื่อไม่ได้) ทำการตรวจ คุณหมอสอบถามอาการ คุณแม่ก็บอกอาการว่า ลูกไอมาก ไอจนตัวงอ หน้าแดง ปากเขียว หมอจึงทำการตรวจหัวใจ บอกว่าน้องหายใจปกติ ปอดก็ปกติ และบอกว่าโดยปกติเด็กเล็กไม่สามารถจ่ายยาให้ได้ แต่จะสอนเคาะปอดเวลาลูกไอ และให้สั่งจ่ายลูกยางแดงสำหรับดูดเสมหะ และน้ำเกลือล้างจมูกให้ลูก ถ้าลูกมีน้ำมูก

คุณแม่และคุณพ่อพาลูกน้อยไปที่ห้องฉุกเฉิน เพื่อให้พยาบาลสอนเคาะปอด และรับลูกสูบยางแดง กับน้ำเกลือกลับบ้าน เมื่อกลับมาบ้านลูกน้อยก็ยังไอมากเหมือนเดิม แต่ด้วยความที่คุณพ่อและคุณแม่ได้คุยกับคุณหมอที่โรงพยาบาลถึง 2 ครั้ง คุณพ่อคุณแม่จึงเชื่อการรักษาของหมอว่าเดี๋ยวลูกน้อยก็คงหาย เพราะมีอาการไอแค่อย่างเดียวโดยที่ไม่มีไข้

28 มีนาคม 2561

น้องตัวร้อน คุณแม่วัดไข้ได้ 38.3 องศา คุณแม่ทำการรักษาเบื้องต้น โดยการเช็ดตัวให้น้องแล้ววัดไข้อีกรอบ จนไข้ลดลงเหลือ 36.8 องศา

29 มีนาคม 2561

เช้าวันนั้นคุณแม่กับคุณพ่อพาน้องไปที่คลินิกเด็กแห่งเดิมที่เคยพาน้องไป เพราะมีไข้ และเริ่มอ่อนแรง คุณหมอทำการตรวจและบอกว่า ลงปอดแล้ว ให้รีบส่งตัวเด็กไปที่โรงพยาบาลในตัวเมืองด่วน คุณพ่อกับคุณแม่จึงพาน้องไปที่โรงพยาบาลเดิมอีกครั้ง เพื่อทำการรักษา และส่งตัวไปที่โรงพยาบาลที่ใหญ่กว่า

มาครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตรงจุดคัดกรองเห็นน้องแล้วตกใจ เพราะน้องอาการไม่ค่อยดี เลยให้พาน้องเข้าห้องฉุกเฉิน เข้าไปพบคุณหมอผู้ชายคนเดิมที่เคยรักษาครั้งที่ 2 คุณหมอซักประวัติ คุณแม่จึงบอกรายละเอียดไปว่าพาลูกน้อยมาที่นี่ 2 ครั้งแล้ว ไม่ทำการรักษา และไม่จ่ายยาอะไรให้เลย

พยาบาลในห้องฉุกเฉินถามว่าน้องมีไข้มากี่วันแล้ว คุณแม่บอกว่าก่อนหน้านี้น้องไม่มีไข้เลย แค่ไออย่างเดียว มารักษาที่นี่ก็ไม่ได้รับการรักษา แต่สอนให้เคาะปอดเท่านั้น

พยาบาลถามว่า น้องเป็นไข้ทำไมคุณแม่ไม่ให้รับประทานยาลดไข้ คุณแม่จึงบอกว่าให้รับประทานยาลดไข้ได้ยังไง ในเมื่อคุณหมอที่นี่ไม่ได้จ่ายยาให้ พยาบาลบอกว่ายามีขายใน 7-11

โรคปอดอักเสบ
เมื่อลูกมีไข้ ควรพาไปพบแพทย์ ให้แพทย์สั่งจ่ายยา ไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง

เมื่อคุณพ่อได้ยินแล้วก็โมโหมาก และบอกว่าใครจะกล้าซื้อยาให้ลูกกินเอง ในเมื่อพาน้องมาพาหมอถึง 2 ครั้ง หมอยังไม่จ่ายยาให้น้องเลย สอนแค่เคาะปอดและบอกว่าน้องไอธรรมดา หลังจากการสนทนาเรื่องอาการน้องจบลง คุณหมอก็บอกว่า น้องปอดบวม หายใจแรง และหอบมากเลยต้องให้ออกซิเจน และบอกกับคุณพ่อคุณแม่ว่า ถ้าอาการดีขึ้นก็จะให้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ แต่ด้วยความไม่มั่นใจในการรักษาและอาการของน้องที่เป็นหนัก คุณแม่จึงอยากให้ส่งตัวน้องไปที่โรงพยาบาลใหญ่ในจังหวัด คุณหมอเห็นอาการน้องไม่ดี จึงติดต่อโรงพยาบาลใหญ่เพื่อส่งตัว แต่ที่โรงพยาบาลนั้นออกซิเจนเต็ม จึงติดต่อประสานงานไปที่โรงพยาบาลมหาราชจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงพยาบาลใหญ่ประจำจังหวัดเพื่อส่งตัวน้องไป

น้องรักษาอยู่ในออภิบาลผู้ป่วยเด็กวิกฤต หรือ PIC คุณหมอที่โรงพยาบาลมหาราชจังหวัดนครศรีธรรมราช เรียกคุณพ่อคุณแม่ไปคุยเรื่องอาการของน้อง บอกว่า น้องปอดบวมทั้ง 2 ข้าง ติดเชื้อในปอด และลามไปติดเชื้อที่กระแสเลือดขั้นรุนแรง ทำให้น้องหายใจลำบาก ต้องสวมเครื่องช่วยหายใจ และให้ยารักษาปอดบวม ผลเลือดออกมา คิดค่าเม็ดเลือดขาวสูงถึง 92,000 จนคุณหมอตกใจ คุณหมอบอกว่าน้องอาการไม่ดีเลย คุณพ่อคุณแม่ต้องทำใจเผื่อเอาไว้บ้าง เนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง

อ่านต่อ “โรคปอดอักเสบ เสี่ยงติดเชื้อในกระแสเลือด อันตราย!!” คลิกหน้า 2

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up