แชร์ประสบการณ์ แม่คลอดลูกติดเชื้อในกระแสเลือด

แชร์ประสบการณ์ แม่คลอดลูกติดเชื้อในกระแสเลือด แต่ได้นมแม่จึงรอดปลอดภัย

Alternative Textaccount_circle
event
แชร์ประสบการณ์ แม่คลอดลูกติดเชื้อในกระแสเลือด
แชร์ประสบการณ์ แม่คลอดลูกติดเชื้อในกระแสเลือด

แชร์ประสบการณ์ แม่คลอดลูกติดเชื้อในกระแสเลือด

แชร์ประสบการณ์ แม่คลอดลูกติดเชื้อในกระแสเลือด

หมอบอกว่า รู้ใช่มั้ย ว่า ลูกมีอาการตัวเขียว เพราะสำลักน้ำคร่ำ “ค่ะรู้” แล้วเมื่อคืน ลูกมีอาการชักเกร็ง หมอได้ใส่เครื่องช่วยหายใจแบบสั่น เพื่อช่วยให้น้องได้รู้สึกตัวตลอด ได้ให้ยาระงับไว้ และน้อง มีอาการ ติดเชื้อในกระแสเลือด (น้องติดเชื้อดื้อยา) วินาทีนั้น เราล้มทั้งยืน ถามหมอว่า แล้วลูกหนูจะหายมั้ยคะ หมอตอบว่า คนที่เขาหายก็มี คนที่ไม่หายก็มี แต่หมอจะช่วยจนสุดความสามารถ หมอให้เราเซ็นต์ เพื่อยินยอมการรักษา แต่ตัวยาที่รักษาลูก ต้องใช้เงินจำนวนมาก ไม่ต่ำกว่า 7-8 หมื่น แต่โชคดี ที่ลูกสามารถ ใช้สิทธิ์เราได้ แม่พาเรากลับห้อง ทุกคนให้กำลังใจเรา แม่ ปืน พ่อ อยู่ข้างๆ เราเสมอ สิ่งศักสิทธิ์เท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งทางใจเราได้ เราเชื่อว่า ถ้าเขาจะเกิดมาเป็นลูกเราจริงๆ เขาต้องสู้ เราไม่เคยทำบาป กับใคร บุญที่เราทำต้อง ช่วยให้ลูกเราหาย เรานอน รพ. 2 คืน หมอบอก ให้เปิดโทรศัพท์ ถ้าลูกมาอาการแย่ ลง จะโทรไป แม่เราไม่ยอม นอนใกล้โทรศัพท์เลย แต่ลูกไม่แย่ลง เรารับรู้ได้แต่ว่าลูกอาการทรงตัว แค่นี้เราก็ดีใจแล้ว แค่รู้ว่าลูกไม่แย่ลง เราก็ดีใจ แม่บอกว่า หมอเขาเก่งลูกต้องหาย ทุกคนให้กำลังใจ แต่มันไม่ได้ทำให้จิตใจเราดีขึ้นเลย เราไปพักฟื้น ที่บ้านยาย เพราะมันไกลกับ รพ. แม่กับพ่อบอกว่า ยังไงเราต้องไปดูลูกทุกวัน อย่างน้อย เขาจะได้รู้ว่า แม่ กับ พ่อ ไม่ทิ้งเขา เขาจะได้สู้ ตลอดระยะเวลานั้น เราไปดูลูกไม่ได้จริงๆ แต่เรามีปืน ที่คอยอยู่ข้างๆ แล้ว คอย ขับรถ ไปดูลูกทุกวันๆ แล้วบอกอาการเราตลอดว่าลูกเป็นไงบ้าง ผ่านไป 10 กว่าวัน ลูกก็ดีขึ้นบ้าง แย่ลงบ้าง ทรงตัวบ้าง เราได้แต่ร้องไห้

บทความแนะนำ คลอดก่อนกำหนด อันตราย กว่าที่คิด!!!

จนวันที่ 14 หมอบอกว่า ต้องขอเจาะไขสันหลังลูก เพื่อดูเชื้อว่ากระจายไปที่ไหนบ้าง และปืนไม่กล้าบอกเรา ว่า เชื้อได้ลามไปที่สมองของลูก จนวันนั้น เราไปหาลูก หมอบอกเราถึงรู้ แต่หมอบอกว่า หมอให้ให้ยาฆ่าเชื้อ และอาการโดยรวมลูกดีขึ้น ให้เรากลับไปปั๊มนมมาให้ลูก นมเราไม่มีให้ลูกกินเลย เราได้ไปที่คลินิกนมแม่ เราหมั่นกินแต่ของมีประโยชน์ เพื่อเราจะได้มีนมให้ลูก จนป้าหมอที่ ป้าเรารู้จัก เขาคอยเทียวดูใบหม่อนให้เพราะเขาเป็นคนใน สามารถเขาออกได้ตลอด ได้มาบอกเราว่า รู้มั้ยว่าลูกเก่งขึ้นเยอะเลยน้า เขาจะถอดทิ้วออกให้แล้ว ตั้งแต่เราปั้มนมไปให้ลูก ถึงจะไม่มาก เราก็รับรู้เสมอว่าลูกมีการตอบสนองยา และอาการดีขึ้น เรื่อยๆ จนวันที่ 16 เราไปเยี่ยมลูก หมอได้ย้ายลูกเราไปนอนคนเดียวในห้องแยกโรค ตั้งแต่ตอนที่เชื้อขึ้นสมอง แต่พอเราไปถึง เราตกใจ ทำไมในห้องนั้นไม่ใช่ลูกเรานะ เราเลยมาถามพยาบาลว่า อริสรา อยู่ไหนคะพี่ เขาชี้ไป อยู่นี่ค่ะ เราน้ำตาไหล ที่เห็นลูกลืมตามองเรา เวลานั้น เราพูดไม่ออก หมอบอกว่าเดี๋ยวจะใส่เครื่องช่วยหายใจ เพื่อช่วยหายใจ เพราะอาจจะยังหายใจเองไม่ค่อยได้ลูกเราได้ย้ายห้องไปอีกห้องนึง หมอบอกว่า แม่พร้อมที่จะมานอนดูลูกรึยังคะเรารีบกลับไปเตรียมของ เพื่อที่จะมานอนกับลูก เราดีใจ ทุกคนดีใจมาก แม่บอกว่า ต่อไปนี้ต้องสู้ เพราะขนาดลูกยังสู้เลย ในใจเราคิดแค่ว่า เด็กตัวเล็กๆ คนนี้ ใส่เครื่องช่วยหายใจตั้งแต่แรกเกิดเลยหรอ เขาทรมานตั้งแต่แรกเกิดเลยหรอ เขาทำไมเก่งจังนะ ที่เขาสู้ จนเขาได้ ใช้ชีวิตอยู่กับพ่อแม่ได้ ทั้งๆ ที่ เขามีโอกาสรอด ได้แค่ 10% เท่านั้น เรานอนกับลูกที่ รพ. 2 คืน แล้วเราได้กลับบ้านแล้ว

ตอนนี้ ใบหม่อน ไม่เคยป่วยเลยตั้งแต่ตอนนั้น จนถึงตอนนี้ มากสุด แค่ ไอ มีน้ำมูก แต่ไม่มีไข้ นมแม่สำคัญนะคะ แล้วใบหม่อน เป็นเด็กที่น่ารัก อารมณ์ดี เป็นที่รักของใครหลายๆ คน #เราอยากขอให้แม่ทุกคนที่หัวอกเดียวกับเรา อยากให้แม่สู้ เพราะขนาด เด็กตัวน้อยๆ เขายังสู้เพื่อเรา เพราะฉนั้น เราต้องสู้เพื่อเขานะคะ  💜 💛 💚 เราเชื่อค่ะว่าปาฏิหาริย์มีจริง เพราะมันได้เกิดขึ้นกับเราและลูกแล้ว ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

อ่านต่อ ประโยชน์ของนมแม่ที่ดีต่อลูกคลอดก่อนกำหนด คลิกหน้า 3

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up